วันที่ 1 พ.ค.68 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม/ประธาน GBC ไทย-กัมพูชา ร่วมตรวจแถวกองทหารเกียรติยศ 3 เหล่าทัพ และต้อนรับในโอกาส พลเอก เตีย เซ็ยฮา (Tea Seiha ) รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมกัมพูชา/ประธาน GBC ไทย-กัมพูชา เข้าพบ ที่ ศาลาว่าการกลาโหม โดยได้ประชุมหารือก่อนการประชุม GBC-17 ครั้งที่ 17 ซึ่งจะมีขึ้น ที่ โรงแรมรอยัล ออคิด เชอราตัน ริเวอร์ไซด์ กรุงเทพมหานคร ซึ่งการหารือระหว่าง2 ฝ่ายมุ่งเน้นการเสริมสร้างความร่วมมือชายแดนไทย-กัมพูชาในทุกมิติ เพื่อผลักดันให้เป็น “ชายแดนแห่งสันติภาพและมิตรภาพอย่างแท้จริง”
ซึ่งฝ่ายไทยได้แนะนำผู้แทนสำคัญที่เข้าร่วมการหารือเพิ่มเติม ได้แก่ พลเอก ณัฐพล นาคพานิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงกลาโหม
พร้อมด้วย พลเอกทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุดและพลเอกพนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก จากนั้นมีการปิดห้องหารือกัน เกือบ 1 ชม. โดยมี ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงพนมเปญ รองเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ และผู้แทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในโอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมแสดงความยินดีต่อการเฉลิมฉลองครบรอบ 75 ปี แห่งความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-กัมพูชาในปีนี้ พร้อมขอบคุณรัฐบาลกัมพูชาที่ให้การต้อนรับ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีไทยอย่างสมเกียรติ เมื่อครั้งการเยือนกัมพูชาอย่างเป็นทางการที่ผ่านมา ซึ่งสะท้อนถึงมิตรภาพอันแนบแน่นระหว่างสองประเทศ
อีกทั้งที่ประชุมยังได้ย้ำถึงความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ที่มีพัฒนาการก้าวหน้า โดยเฉพาะการจัดทำแผนปฏิบัติการร่วมความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ไทย-กัมพูชา พ.ศ. 2568 - 2569 ซึ่งคาดว่าจะส่งผลเป็นรูปธรรมในหลายด้าน เช่น การส่งเสริมการค้าชายแดน ความมั่นคง และการพัฒนาสาธารณูปโภคข้ามพรมแดน โดยฝ่ายไทยได้แสดงความขอบคุณกัมพูชาสำหรับความร่วมมือในการจับกุมและส่งตัวคนไทยที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยีในพื้นที่ปอยเปต พร้อมเสนอให้สองประเทศคงการบูรณาการทำงานร่วมกันอย่างเข้มข้นในด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร และเพิ่มมาตรการควบคุมชายแดน
นอกจากนี้ไทยได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการขับเคลื่อนการป้องกันอาชญากรรมทางออนไลน์และภัยคุกคามความมั่นคง (ปชด) รวมทั้งศูนย์ปฏิบัติการเฉพาะกิจปราบปรามการค้ามนุษย์ เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงตามแนวชายแดน พร้อมเสนอส่งเสริมความร่วมมือด้านการบรรเทาสาธารณภัยร่วมกัน ทั้งในด้านการฝึกซ้อมและการวางแผนเตรียมรับมือเหตุฉุกเฉิน เช่น อัคคีภัย การเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉิน และภัยธรรมชาติต่าง ๆ เพื่อให้การระดมทรัพยากรข้ามพรมแดนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
รวมถึงทั้งสองฝ่ายยังเน้นย้ำถึงความสำคัญของการเผยแพร่ข่าวสารที่ถูกต้อง เพื่อป้องกันข่าวลวง (Fake News) ที่อาจบ่อนทำลายความสัมพันธ์ระหว่างประชาชน โดยเห็นพ้องในการสร้างกลไกประสานงานระหว่างกันเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารอย่างรวดเร็วและแม่นยำ
ในช่วงท้าย นายภูมิธรรม กล่าวขอบคุณ พลเอก Tea Seiha และคณะ สำหรับการหารือที่เป็นประโยชน์ พร้อมยืนยันความพร้อมในการสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจของฝ่ายกัมพูชา เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์อันมั่นคงและยั่งยืนของทั้งสองประเทศต่อไป
โดยพลโทณัฐพงษ์ เพราแก้วเจ้ากรมกิจการชายแดนทหาร ยืนยันว่าการประชุมครั้งนี้มีแต่เรื่องปัญหาชายแดนความร่วมมือต่างๆแต่ไม่มีการพูดคุยเรื่องเขตแดนไม่มีการหารือเรื่องเอ็มโอยู 44 หรือปัญหาเกาะกูด