อุตรดิตถ์  เตรียมจัดงานประเพณีอัฐมีบูชา ประจำปี 2568  พร้อมชมการแสดง แสง สี เสียง ประกอบสุดยิ่งใหญ่  

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  นางสาวนิรชา  บัณฑิตย์ชาติ  รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์  พร้อมด้วยพระอธิการวรกูล ธรรมธิณโณ  เจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุทุ่งยั้ง อ.ลับแล  นายสุรพันธ์ เจริญทรัพย์ วัฒนธรรมจังหวัดอุตรดิตถ์ นายนันทสิทธิ์ โพธิ์งาม  รองปลัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุตรดิตถ์  และ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานแพร่ , อุตรดิตถ์  แถลงข่าวจัดงานประเพณีอัฐมีบูชา ประจำปี 2568 ระหว่างวันที่ 11-19 พฤษภาคม นี้ โดยมีนายเอนก ชื่นอารมณ์   เกษตรจังหวัดอุตรดิตถ์ ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ฯ และ ประชาชนชาวทุ่งยั้ง-ไผ่ล้อม อ.ลับแล จ.อุตรดิตถ์  เข้าร่วมและรับฟังการแถลงข่าว ฯ ท่ามกลางบรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่น  ที่บริเวณลานเอนกประสงค์วัดพระบรมธาตุ ตำบลทุ่งยั้ง อำเภอลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์


นางสาวนิรชา บัณฑิตย์ชาติ รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุตรดิตถ์  กล่าวว่า  วันอัฏฐมีบูชา คือ วันสำคัญทางศาสนาอีกวันหนึ่งที่มิได้กล่าวถึงกันมากนัก เนื่องจากมีวันวิสาขบูชาอยู่ก่อนหน้านี้เพียงห้วงวันพระเดียว หมายถึงวันวิสาขบูชาตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 6 แต่ถัดมาอีกหนึ่งวันพระ คือแรม 8 ค่ำ เป็นวันอัฐมีบูชา ความสำคัญของวันนี้ก็คือ เป็นวันถวายพระเพลิงพระบรมศพของพระพุทธเจ้า ที่พุทธศาสนิกชนในสมัยเมื่อ 2,566 ปีล่วงมาแล้ว ต่างมีความโศกเศร้าที่ต้องสูญเสียพระบรมศาสดาอันเป็นที่รักเคารพยิ่งของตนนั่นเอง ในพุทธประวัติและปรินิพพานสูตร กล่าวไว้ว่าเมื่อพระพุทธเจ้าเสด็จดับขันธ์ปรินิพพานในวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 6 ที่เรียกว่าวันวิสาขบูชา พระเจ้ามัลละแห่งกรุงกุสินารา พร้อมด้วยคณะสงฆ์ อันมีพระมหากัสสปะเถระเป็นประธาน ได้พร้อมใจกันกระทำพิธีถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ ณ มกุฏพันธนเจดีย์ แห่งกรุงกุสินารานั่นเอง  โดยจำลองเหตุการณ์ในครั้งนั้นตามขั้นตอนอย่างละเอียด ตั้งแต่เสด็จปรินิพพาน ซึ่งจะมีชาวบ้านที่มีฝีมือด้านงานจักสานมาช่วยกันใช้ไม้ไผ่สานองค์พระพุทธเจ้าปางปรินิพพานขนาดใหญ่ ตกแต่งอย่างสวยงามบรรจุไว้ในโลงแก้ว ตั้งประดิษฐานไว้บนศาลา เพื่อให้คณะสงฆ์สวดพระอภิธรรม และ  ชาวบ้านทำบุญตักบาตร ปฏิบัติธรรม ตั้งแต่วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 จนถึงวันแรม 7 ค่ำ เดือน 6 และ เมื่อถึงวันแรม 8 ค่ำ ซึ่งเป็นวันอัฐมีบูชาหรือวันถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระพระพุทธเจ้า ก็จัดการแสดง แสง สี เสียง ประกอบอย่างยิ่งใหญ่ จำลองทุกขั้นตอนในพิธีถวายพระเพลิง พระบรมศพเสมือนครั้งพุทธกาล


ด้านนายสุรพันธ์ เจริญทรัพย์ วัฒนธรรมจังหวัดอุตรดิตถ์  กล่าวว่า  งานประเพณีอัฐมีบูชา จะจัดขึ้นโดย จังหวัดอุตรดิตถ์ ร่วมกับ วัดพระบรมธาตุ และส่วนราชการทุกภาคส่วนในจังหวัดอุตรดิตถ์ ในช่วงสัปดาห์วันวิสาขบูชาถึงวันอัฐมีบูชา (วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 ถึงวันแรม 8 ค่ำ เดือน ๖) ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 11 - 19 พฤษภาคม นี้  เพื่อน้อมรำลึกถึงองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า สืบต่ออายุพระพุทธศาสนาและสืบสานประเพณีอัฐมีบูชาให้คงอยู่ รวมทั้งเป็นการส่งเสริมจิตสำนึกที่ดีของพุทธศาสนิกชนต่อพระพุทธศาสนา ตลอดจนเป็นการนำทุนทางวัฒนธรรมมาสร้างคุณค่าและมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจในรูปแบบของการส่งเสริมการท่องเที่ยว และการจำหน่ายสินค้าทางวัฒนธรรม โดยปีพุทธศักราช 2568 นี้ เป็นการจัดงานปีที่ 70 


ภายในงาน มีกิจกรรมสำคัญ ประกอบด้วย วันแรกของงาน ตรงกับวันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม 2568  ซึ่งเป็นวันวิสาขบูชา มีพิธีทำบุญตักบาตร เวียนเทียนรอบพระบรมธาตุ และกิจกรรมลานวัฒนธรรม โดยจะมีการรำบูชาพระบรมธาตุ และพิธีเปิดงานประเพณีอัฐมีบูชา การแสดงมินิแสง สี เสียง ตำนานเมืองทุ่งยั้ง ในวันจันทร์ที่ 12 พฤษภาคม  ในช่วงระหว่างการจัดงาน ฯ ตั้งแต่วันที่ 12 – 19 พฤษภาคม 2568  มีกิจกรรมต่าง  ๆ ให้พุทธศาสนิกชน และ  ประชาชนชาวอุตรดิตถ์  ได้เข้าร่วมอาทิ ฯ การทำบุญตักบาตรเช้า การร่วมเป็นเจ้าภาพทอผ้าห่มพระบรมธาตุ การร่วมเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมและแสดงพระธรรมเทศนา การเที่ยว ชม ชิม ช็อป ลานวัฒนธรรมตลาดวัฒนธรรมวิถีชุมชนคนทุ่งยั้ง การแสดงศิลปทางวัฒนธรรม การถวายสลากภัต และกิจกรรมบูชาโคมดอกบัว เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาและวันสุดท้ายของงาน “วันอัฐมีบูชา” ซึ่งเป็นวันถวายพระเพลิงพระบรมศพพระพุทธเจ้าจำลอง ตรงกับวันจันทร์ที่ 19 พฤษภาคม  มีการจัดขบวนแห่เครื่องสักการะพระบรมธาตุทุ่งยั้ง ขบวนอันเชิญน้ำสรงพระราชทาน เทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ขบวนอัญเชิญผ้าห่มพระบรมธาตุทุ่งยั้ง ประดับอักษรพระนามาภิไธย ส.ธ. และขบวนแห่ศิลปวัฒนธรรมของทั้ง 9 อำเภอ จาก 3 วัฒนธรรม พิธีสรงน้ำพระบรมธาตุทุ่งยั้ง

ซึ่งได้รับพระราชทานจากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พิธีห่มผ้าพระบรมธาตุทุ่งยั้ง ประดับอักษรพระนามาภิไธย ส.ธ. และชมการแสดงแสง สี เสียง ประกอบพิธีถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระจำลองขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พร้อมถวายดอกบัวเพื่อเป็นพุทธบูชาในงานพิธีดังกล่าว  ฯ
ดังนั้น  จึงขอเชิญชวนพุทธศาสนิกชนและประชาชนชาวอุตรดิตถ์  แต่งกายชุดสีขาว หรือ สีนวล เข้าร่วมงานบุญที่ยิ่งใหญ่และสัมผัสวิถีวัฒนธรรมของเมืองทุ่งยั้ง รวมทั้ง ชม ชิม ช็อป ผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญา จังหวัดอุตรดิตถ์ ตามวันและเวลาดังกล่าวโดยทั่วกัน