สำนักงาน คปภ. จัดอบรมถ่ายทอดองค์ความรู้ด้าน ESG จุดประกายวัฒนธรรมองค์กรสู่ความยั่งยืนจากภายใน ตั้งเป้าหมายสู่การเป็นองค์กร Green Office

เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2568 สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) จัดกิจกรรมถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านความยั่งยืน โดยมี ดร.ชญานิน เกิดผลงาม รองเลขาธิการ ด้านกลยุทธ์และเทคโนโลยี เป็นประธานเปิดการอบรม โดยได้รับเกียรติจากคุณนวพร ทองไหลรวม ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาองค์กร บริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด ซึ่งเป็นองค์กรเอกชนชั้นนำด้านพลังงานชีวมวลและการพัฒนาอย่างยั่งยืน มาร่วมแบ่งปันประสบการณ์ในหัวข้อ “Sustainability in Practice” เพื่อส่งเสริมความเข้าใจเรื่อง ESG (Environment, Social, Governance) ให้กับพนักงานของสำนักงาน คปภ. ณ ห้องประชุมสถาบันวิทยาการประกันภัยระดับสูง ชั้น 1 สำนักงาน คปภ. ถนนรัชดาภิเษก กรุงเทพมหานคร

รองเลขาธิการ ด้านกลยุทธ์และเทคโนโลยี กล่าวเพิ่มเติมว่า สำนักงาน คปภ. เน้นย้ำถึงความสำคัญของการวางรากฐานด้าน ESG ภายในองค์กร พร้อมทั้งส่งเสริมให้พนักงานทุกคนมีบทบาทในการขับเคลื่อนสำนักงาน คปภ.ไปสู่การเป็นองค์กรต้นแบบด้านการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืน โดยกิจกรรมอบรมดังกล่าว ถือเป็นก้าวสำคัญของนโยบาย Inside ESG ซึ่งเป็นหนึ่งในแนวทางการดำเนินงานของสำนักงาน คปภ. เพื่อขับเคลื่อนแนวคิดด้านการพัฒนาความยั่งยืน ESG จากภายในองค์กร โดยมุ่งหวังให้พนักงานทุกระดับมีความรู้ ความเข้าใจ และสามารถ นำหลักการด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล ไปประยุกต์ใช้ในกระบวนการทำงานประจำวันได้อย่างเป็นรูปธรรม โดยในปี 2568 เป็นปีที่สำนักงาน คปภ. ตั้งเป้าหมายในการก้าวสู่การเป็นองค์กร Green Office โดยลดการใช้พลังงานอย่างเต็มรูปแบบ และปรับโครงสร้างการดำเนินงานให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว เพื่อสอดรับกับเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของประเทศและของโลก

ที่ผ่านมา สำนักงาน คปภ. มีบทบาทสำคัญในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลธุรกิจประกันภัยที่ส่งเสริม ESG อย่างต่อเนื่อง ทั้งผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันภัยที่ตอบโจทย์สังคม เช่น ประกันภัยไมโครอินชัวรันส์ กรมธรรม์สำหรับผู้พิการ และประกันภัยพืชผล ทางการเกษตร ตลอดจนให้ความสำคัญกับการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ของประชาชนในช่วงเกิดภัยพิบัติ เช่น เหตุการณ์น้ำท่วมและแผ่นดินไหว โดยได้ประสานงานกับบริษัทประกันภัยและจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือในพื้นที่อย่างรวดเร็ว เพื่อให้ประชาชนได้รับความคุ้มครองและการช่วยเหลือด้านประกันภัยอย่างทั่วถึงและทันท่วงที สะท้อนถึงการใช้กลไกประกันภัยเป็นเครื่องมือสำคัญในการสร้างความมั่นคงทางสังคม หรือในด้าน Social อย่างแท้จริง

นอกจากนี้ สำนักงาน คปภ. ยังได้ขับเคลื่อน ESG จากภายในองค์กร ผ่านแนวทาง “Sustainability in Practice” โดยส่งเสริมให้พนักงานปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทำงานอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เช่น การลดใช้ทรัพยากร พลังงาน และพลาสติก การแยกขยะ การใช้ระบบอิเล็กทรอนิกส์เพื่อลดกระดาษ รวมถึงการเพิ่มพื้นที่สีเขียวในสำนักงาน และยังมีการรณรงค์ให้พนักงานใช้ถุงผ้าที่ทำจากวัสดุรีไซเคิลแทนถุงพลาสติก รวมถึงส่งเสริมการแยกขยะประเภทต่าง ๆ การปรับเปลี่ยนไปใช้หลอดไฟ LED และอุปกรณ์ประหยัดพลังงาน และในอนาคต จะมีการนำเครื่องย่อยเศษอาหารให้เป็นปุ๋ยมาใช้ เพื่อยกระดับแนวปฏิบัติให้ยั่งยืนยิ่งขึ้น ซึ่งการอบรมในครั้งนี้จึงไม่เพียงถ่ายทอดองค์ความรู้จากองค์กรต้นแบบ แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้พนักงานตระหนักถึงบทบาทของตนในการร่วมขับเคลื่อนองค์กรสู่ความยั่งยืนอย่างแท้จริง

“การจุดประกายวัฒนธรรมองค์กรสู่ความยั่งยืนอย่างแท้จริง จำเป็นต้องเริ่มจากการสร้างความรู้ ความเข้าใจ และจิตสำนึกให้เกิดขึ้นกับพนักงานภายในองค์กร เพื่อให้ทุกคนตระหนักถึงบทบาทของตนในการร่วมขับเคลื่อนองค์กรไปสู่เป้าหมายแห่งความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม โดยหลักการ ESG ไม่ใช่สิ่งใหม่ และไม่ใช่เรื่องของใครเพียงคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นภารกิจร่วมของเราทุกคน ที่จะทำให้สำนักงาน คปภ. ก้าวสู่การเป็นองค์กรภาครัฐที่ทันสมัย โปร่งใส และใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมอย่างแท้จริง” รองเลขาธิการ ด้านกลยุทธ์และเทคโนโลยี กล่าวในตอนท้าย