“บี้จนยอม!” กกพ. ลดค่าไฟเหลือ 3.98 บาท หลัง รมว.พลังงานจับโป๊ะซุกเงิน Claw Back 2 หมื่นล้าน

วันที่ 30 เมษายน 2568 สำนักงานคณะกรรมการ.กำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ประกาศลดค่าไฟฟ้ารอบบิลเดือนพฤษภาคม – สิงหาคม 2568 เหลือหน่วยละ 3.98 บาท ซึ่งต่ำกว่ากรอบที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เคยตั้งไว้ที่ 3.99 บาทต่อหน่วย หลังถูกกดดันอย่างหนักจาก นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน

สาเหตุหลักที่ทำให้ กกพ. ต้องยอมปรับลดค่าไฟฟ้า มาจากการที่ รมว.พลังงาน ตรวจสอบพบว่า กกพ. กอดเงิน “Claw Back” มูลค่ากว่า 20,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินที่เรียกคืนจาก 3 การไฟฟ้าใหญ่ ได้แก่ กฟผ., กฟน. และ กฟภ. โดยเป็นเงินส่วนเกินจากงบลงทุนที่ไม่ได้ใช้ตามแผน จึงเสนอให้นำเงินจำนวนดังกล่าวมาอุดหนุนค่าไฟ เพื่อลดภาระประชาชนในภาวะเศรษฐกิจยากลำบาก

ก่อนหน้านี้ กกพ. ได้เปิดประชาพิจารณ์เสนอ 3 ทางเลือก ค่ากระแสไฟฟ้าอยู่ในช่วง 4.15 – 5.16 บาทต่อหน่วย และประกาศตรึงไว้ที่ 4.15 บาทต่อหน่วย แม้ ครม. จะมีมติให้ปรับลดเหลือไม่เกิน 3.99 บาทต่อหน่วย โดยไม่มีการอุดหนุนจากงบประมาณแผ่นดิน

การเจรจาระหว่าง รมว.พลังงาน กับ กกพ. ดำเนินมานานกว่า 1 เดือน แต่ กกพ. ก็ยืนยันเดิมว่าไม่สามารถลดอัตราได้ จนกระทั่งมีการเปิดโปงเงิน Claw Back ที่ยังคงอยู่ในมือกว่า 20,000 ล้านบาท สุดท้าย กกพ. จำต้องใช้เงิน 12,200 ล้านบาทจากกองนี้ มาอุดหนุนและลดค่าไฟฟ้าลงเหลือ 3.98 บาทต่อหน่วย

ทั้งนี้ มีเสียงวิจารณ์ตามมาว่า หากไม่มีการตรวจสอบเงิน Claw Back ดังกล่าว ประชาชนอาจยังต้องจ่ายค่าไฟสูงถึง 4.15 บาทต่อหน่วยต่อไปอย่างไม่มีทางเลือก

#ลดค่าไฟ #ข่าววันนี้ #พลังงาน #พีระพันธุ์สาลีรัฐวิภาค #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์