จากเหตุการณ์ที่มีเศษก้อนปูนหล่นใส่รถยนต์กระบะบนช่องทางหลัก (ช่องทางด่วน) พระราม 2 ขาออกกรุงเทพฯ ตรง กม.ที่ 27+500 ซึ่งเป็นสะพานต่างระดับตัวเก่าที่เชื่อมจากกระทุ่มแบน มายังฝั่งเข้าตัวเมืองมหาชัย ทำให้นายอำนาจ ทองขำ อายุ 46 ปี ผู้ช่วยหัวหน้าฝ่ายงานช่างของโรงงานอุตสาหกรรมแห่งหนึ่ง ซึ่งเป็นคนขับรถยนต์กระบะได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลวิภาราม (สมุทรสาคร) ก่อนที่จะมีการส่งต่อผู้บาดเจ็บมายังโรงพยาบาลสมุทรสาคร ในช่วงบ่ายของวันที่ 29 เมษายน 2568 เพื่อทำการรักษาจากภาวะอาการบาดเจ็บภายในขั้นสาหัส (ตับฉีก เลือดออกในช่องท้อง ความดันต่ำ) นั้น
กระทั่งเมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. วันที่ 29 เม.ย.68 ที่ผ่านมา นางจันทร์แรม ทองขำ อายุ 46 ปี ภรรยาและญาติของนายอำนาจฯ ที่มาเฝ้ารอการผ่าตัดอยู่ที่โรงพยาบาลสมุทรสาคร นับตั้งแต่แรกรับตัวผู้บาดเจ็บนั้น ก็ได้รับแจ้งข่าวแห่งการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ว่า นายอำนาจฯ หัวใจหยุดเต้นและเสียชีวิตลงอย่างสงบ
ต่อมาเมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 30 เม.ย.68 ที่อาคารสันตินิรามัย (ห้องเก็บศพ) โรงพยาบาลสมุทรสาคร นายจันทร์แรม ทองขำ ภรรยาของผู้เสียชีวิต พร้อมด้วย นายณัฐพงษ์ สุมโนธรรม สส.สมุทรสาคร (ผู้ให้การช่วยเหลือประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ตั้งแต่วันแรกนั้น) ตลอดจนน้องชายผู้เสียชีวิต ญาติ พี่น้อง รวมถึงมารดาของผู้เสียชีวิตที่เดินทางมาจากจังหวัดนครสวรรค์ ภายหลังได้รับข่าวร้าย ก็ได้เดินทางมาพร้อมเพรียงกันเพื่อรอรับศพของนายอำนาจ ทองขำ กลับไปบำเพ็ญกุศลที่วัดยางตาล ต.ยางตาล อ.โกรกพระ จ.นครสวรรค์ โดยเบื้องต้นทางครอบครัวผู้เสียชีวิตกำหนดไว้เป็นเวลา 3 คืน นับตั้งแต่คืนนี้เป็นคืนแรก และจะประกอบพิธีฌาปนกิจศพในวันเสาร์ที่ 3 พฤษภาคม 2568
นางจันทร์แรม ทองขำ อายุ 46 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ความรู้สึกของตนตอนนี้ยังทำอะไรไม่ถูกเพราะว่ามันกะทันหันมันเร็วมากไม่ทันจะได้ตั้งตัวเลย ซึ่งตนอยากจะบอกหน่วยงานที่ดูแลการก่อสร้างถนนพระราม 2 ว่า เรื่องแบบนี้ไม่อยากให้มันเกิดกับใครเลยก็ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยตรวจสอบกันอย่างเต็มที่ด้วยเพื่อไม่ให้มันเกิดเหตุการณ์แบบนี้กับครอบครัวอื่นๆอีก โดยสาเหตุการเสียชีวิตนั้นทางคุณหมอบอกว่าหลังจากการผ่าตัดแล้วเลือดที่ให้ไปมันซึมไหลออกมาเรื่อยๆ แล้วความดันต่ำลงมาก หมอให้ยากระตุ้นแล้วแต่ว่าไม่สามารถช่วยให้เขาฟื้นขึ้นมา โดยหลังจากรับศพแล้วจะพาเขาไปที่บ้านเกิด โดยจัดงานที่วัดยางตาล อ.โกรกพระ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ทั้งนี้ตนก็อยากจะบอกกับดวงวิญญาณสามีว่า ขอให้ไปอย่างสงบไม่ต้องห่วงลูกสาว ตนจะดูแลเขาให้ดีที่สุด ให้เขาได้ศึกษาในระดับปริญญาตรีตามที่เขาตั้งใจอยากจะเรียนด้านโลจิสติกส์ ตามแบบงานของทั้งพ่อและแม่ ให้เขาสำเร็จตามที่มุ่งหวังไว้
ขณะที่นายณัฐพงษ์ สุมโนธรรม หรือ สส.ฟลิ้นท์ ก็บอกว่า ก่อนอื่นตนต้องขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวของนายอำนาจ ที่ได้สูญเสียผู้เสียชีวิต เพราะเมื่อคืนตนได้ทราบข่าวจากทางน้องชายของนายอำนาจ ตนก็รู้สึกตกใจและก็แสดงความเสียใจมากๆ เพราะนายอำนาจเป็นทั้งคุณพ่อ เป็นทั้งสามี เป็นทั้งพี่ชาย และเป็นเพื่อนร่วมงาน ของใครหลายๆ คน ซึ่งเท่าที่ตนทราบเพื่อนๆร่วมงานหลายคนรู้สึกตกใจ และเสีย ซึ่งตนขอแสดงความเสียใจเป็นอย่างยิ่ง เบื้องต้นตนจะได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะกรมทางหลวงถึงการรับผิดชอบดูแลเยียวยาค่าเสียหายและค่าทำศพต่างๆให้กับนายอำนาจ เพราะว่านายอำนาจไม่ได้ผิดอะไรเลยที่ขับรถไปทำงานแล้วต้องมา สูญเสียชีวิตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้ หลังจากนี้ตนคงจะต้องกระทุ้งถามไปถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดว่าจะทำยังไงให้เหตุการณ์ครั้งนี้เป็นเหตุการณ์ครั้งสุดท้าย เราพูดกันบ่อยมากนะครับว่า เหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง โครงสร้างถนนในความรับผิดชอบ ของกระทรวงคมนาคมมันต้องไม่มีใครควรเสียชีวิตหรือบาดเจ็บอีกแล้ว ซึ่งตนจะถามว่าพอบาดเจ็บพอเสียหายแบบนี้จะรับผิดชอบอย่างไร มากไปกว่านั้นทุกวันนี้คนไม่มีใครอยากใช้ถนนพระราม2 อีกแล้ว ซึ่งมันกระทบกับเศรษฐกิจชีวิตของคนในจังหวัดสมุทรสาครหรือแม้แต่จังหวัดใกล้เคียง ตนต้องขอวอนจริงๆเรื่องความปลอดภัย ของพี่น้องประชาชนอยากให้เอาจริงเอาจังและทำให้เห็นว่าเรื่องแบบนี้จะต้องไม่เกิดขึ้นอีกมาตรการที่มีอยู่ปลอดภัยเพียงพอหรือไม่ ไม่ว่าจะเป็นการ สร้างต่างๆและมีการบังคับใช้ที่เข้มงวดเพียงพอหรือไม่ อยากให้นึกถึงหน้าพี่น้องประชาชนทุกคนมีครอบครัวมีคนที่เขารักไม่อยากเห็นการสูญเสียอีกแล้วครับ อีกทั้งยังจะผลักดันเรื่องการดูแลอนาคตทางการศึกษาให้แก่บุตรผู้เสียชีวิตอีกด้วย
ส่วนนายธนสาร สิทธาภา ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงสมุทรสาคร เปิดเผยว่าขณะนี้ได้ส่งให้ทีมงานศูนย์สะพานตรวจสอบโครงสร้าง และสั่งให้โครงการทำตะแกรงล้อมรอบอีกทีหนึ่ง ส่วนผู้เสียชีวิตทางกรมทางหลวงได้ทำการช่วยเหลือโดยจัดรถเคลื่อนศพไปยังจังหวัดนครสวรรค์ นอกจากนี้ก็ได้มีการเยียวยาช่วยเหลือดูแลค่าทำศพในเบื้องต้นก่อน ส่วนค่าเสียหายต้องมาเจราจากันอีกครั้งหนึ่ง ส่วนตัวสะพานนั้นผู้เชี่ยวชาญทางด้านสะพานจะมาดูอีกทีหนึ่งและจะมีมาตรการในการป้องกันไม่ให้หล่นมาอีกแล้วจะมีการซ่อมใหญ่เลย ซึ่งจะดูทั่วไปแต่เบื้องต้นจะดูสานจุดเกิดเหตุก่อน
นอกจากนี้ พ.ต.ท.วิชิต ลุนผา รองผกก.สอบสวน สภ.เมืองสมุทรสาคร เจ้าของคดี บอกว่า กฎหมายเป็นเรื่องการดูแลวัสดุอุปกรณ์ ถือว่าเป็นการละเมิด ผู้ดูแลต้องรับผิดชอบ ในทางแพ่ง เป็นการไม่ดูแลอุปกรณ์ เครื่องใช้และไม่บำรุงดูแลรักษาสะพานให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง ทำให้เศษปูนเสื่อมสภาพหลุดร่อนลงมา โดนรถและมีผู้เสียชีวิตดังกล่าว เมื่อเศษปูนมันอยู่ในการดูแลความรับผิดชอบของแขวงการทางดังนั้นแขวงการทางต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายให้เขา ซึ่งจะเรียกแขวงทางการสมุทรสาครเข้ามา สอบเพิ่มเติมเพื่อจะได้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป