วันที่ 30 เม.ย.2568 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่ศาลากลาง จ.เชียงราย เครือข่ายสิทธิชุมชน จ.เชียงราย นำโดย นายวรวุฒิ รุ่งสวัสดิ์ พร้อมตัวแทนชาวบ้านจาก 13 ชุมชน ริมฝั่งแม่น้ำกก ได้พากันไปยื่นหนังสือต่อศูนย์ดำรงธรรม จ.เชียงราย โดยมีเนื้อหาขอให้ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย เร่งรัด ติดตามการตรวจสอบและแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้านจากกรณีแม่น้ำกกมีสารหนูปนเปื้อนเกินมาตรฐาน
อีกทั้งยังมียังระบุ ว่า ปัญหาแม่น้ำกกปนเปื้อนสารหนูเกินมาตราฐานถือว่าเป็นอันตรายทั้งต่อสิ่งมีชีวิตและระบบนิเวศน์ ที่สำคัญคือสร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านที่ใช้น้ำทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยในปัจจุบันได้มีการแจ้งไม่ให้ประชาชนได้สัมผัสกับน้ำในแม่น้ำกก โดยตรง สร้างความวิตกกังวลและหวาดกลัวให้กับชาวบ้านเป็นอย่างมาก รวมทั้งยังกังวลในหมู่ผู้ใช้ประโยชน์ระบบประปาหรือชลประทาน โดยเฉพาะในชุมชนที่ ต.แม่ยาว, ต.ห้วยชมภู อ.เมืองเชียงราย และอีกหลายชุมชนตลอดแนวแม่น้ำกก
ทั้งนี้สถานการณ์ดังกล่าวยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจชุมชนโดยเฉพาะกิจกรรมการท่องเที่ยวริมแม่น้ำกก เช่น แพ ปางช้าง โฮมสเตย์ ฯลฯ ที่ต้องหยุดให้บริการเนื่องจากความกังวลของนักท่องเที่ยวเกี่ยวกับความปลอดภัยจากการสัมผสน้ำ เครือข่ายจึงขอเรียกร้องให้ภาครัฐดำเนินการเร่งด่วนในประเด็นสำคัญ ได้แก่ 1. ตรวจสอบคุณภาพน้ำ ตะกอนดิน แปลงเกษตร และน้ำบาดาลในพื้นที่เสี่ยง พร้อมเปิดเผยข้อมูลต่อ ปชช. อย่างโปร่งใส 2.ดำเนินการจัดการต้นเหตุของการปนเปื้อนสารหนู รวมถึงให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบ และตรวจสุขภาพ ปชช. ในพื้นที่ 3.ให้การประปาจังหวัดชี้แจงความปลอดภัยของน้ำประปาที่ใช้น้ำดิบจากแม่น้ำกก 4.สร้างกลไกการมีส่วนร่วมของ ปชช. ในการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังและยั่งยืน
โดยเวลาต่อมานายลิขิต มีเสรี ผู้อำนวยการศูนย์ดำรงธรรม จ.เชียงราย ได้เข้ารับหนังสือจากเครือขายดังกล่าวและแจ้งว่าจะนำเรื่องดังกล่าวมอบให้ส่วนที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป