กรุงเทพมหานคร โดยสำนักการจราจรและขนส่ง เดินหน้าขับเคลื่อนกิจกรรม “โรงเรียนต้นแบบด้านความปลอดภัยทางถนน (Road Safety Culture School)” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ภายใต้โครงการศูนย์อำนวยการความปลอดภัยทางถนนกรุงเทพมหานคร โดยเปิดตัวอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 29 เม.ย.68 ที่ผ่านมาโดยมีนายสิทธิพร สมคิดสรรพ์ ผุ้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่ง เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วยผู้บริหาร ผู้แทนโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร และภาคีเครือข่ายรวมงาน อาทิ บริษัท ไทยฮอนด้า จำกัด และบริษัท ไทยยามาฮ่ามอเตอร์ จำกัด ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ร่วมผลักดันสนับสนุนโครงการฯ มาโดยตลอด
นายสิทธิพร สมคิดสรรพ์ ผู้อำนวยการสำนักการจราจรและขนส่งกล่าวว่า กิจกรรมโรงเรียนต้นแบบด้านความปลอดภัยทางถนน (Road Safety Culture School) ปี 3 เป็นการต่อยอดความสำเร็จที่มุ่งเน้นการสร้างเครือข่ายโรงเรียน ให้ครอบคลุมโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานครทั้ง 437 แห่ง เพื่อเฟ้นหา “ครูผู้พิทักษ์ด้านความปลอดภัยบนท้องถนน” และ “โรงเรียนติดดาว” ภายใต้แนวคิด “เด็กเริ่ม ผู้ใหญ่ร่วม” ส่งเสริมให้เยาวชนเป็นจุดเริ่มต้นของการเปลี่ยนแปลง และขับเคลื่อนพฤติกรรมการใช้ถนนอย่างปลอดภัยในระดับชุมชนและสังคม โดยผลจากการดำเนินกิจกรรมตลอด 2 ปีที่ผ่านมา พบว่าโรงเรียนที่เข้าร่วมมีการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมด้านวินัยจราจรอย่างเป็นรูปธรรม เช่น การใช้หมวกกันน็อกในกลุ่มนักเรียนเพิ่มขึ้น การสร้างกิจกรรมรณรงค์ภายในโรงเรียน และการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองและชุมชน ซึ่งสิ่งต่างๆ เหล่านี้ นับเป็นเป็นกลไกสำคัญที่ทำให้อุบัติเหตุลดลง และสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยทางถนน ในสถานศึกษาได้อย่างยั่งยืน
สำหรับงานวันนี้เป็นการปฐมนิเทศเปิดตัวโครงการฯ เพื่อชี้แจงรายละเอียดและหลักเกณฑ์ในการพิจารณาคัดเลือก และเกณฑ์การตัดสินของคณะกรรมการ ในเข้าร่วมแข่งขันพิชิตตำแหน่ง “ครูผู้พิทักษ์ด้านความปลอดภัยบนท้องถนน” และ “โรงเรียนติดดาว” เพื่อชิงรางวัลกว่า 150,000 บาท พร้อมใบประกาศนียบัตรและโล่รางวัล โดยมีการเปิดรับสมัครเข้าร่วมกิจกรรมเริ่มต้นวันนี้ จนถึงวันที่ 23 พฤษภาคม จากนั้นจะคัดเลือกโรงเรียนเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมไม่น้อยกว่า 18 โรงเรียน โดยแต่ละโรงเรียนจะจัดส่งครูผู้เข้าร่วมแข่งขันจำนวน 2 ท่าน ในการแข่งขัน จะแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ 1) กิจกรรมที่ดำเนินภายในโรงเรียน และ 2) กิจกรรมบนแพลตฟอร์มออนไลน์เพื่อสะสมคะแนน
“กิจกรรมนี้เป็นการเสริมสร้างระเบียบวินัยด้านการใช้รถใช้ถนน ในเรื่องของการจราจร โดยเริ่มตั้งแต่เด็กให้เป็นจุดเริ่มกระจายไปสู่ผู้ปกครอง ครอบครัว และหน่วยงานต่างๆ เริ่มปีแรก 2566 ต่อเนื่องปี 2567 ปีนี้เป็นปีที่ 3 มีการตั้ง ‘ครูผู้พิทักษ์’ และ ’โรงเรียนติดดาว‘ ช่วยส่งเสริมรณรงค์เรื่องความปลอดภัยทางถนน มีการแข่งขันใน 6 กลุ่มเขต ปีที่แล้วได้ ‘โรงเรียนฉิมพลี’ เขตตลิ่งชัน เป็นที่สนใจมาก ในระดับโลก มีผู้แทนทูตของ UN ไปเยี่ยมชม โครงการนี้เป็นกิจกรรมที่ดี จากสถิติอุบัติเหตุของกรุงเทพฯปีนี้ เราลดลงมากกว่าสถิติของทั้งประเทศ ผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุเราลดลงได้เป็นอันดับต้นๆของประเทศ ผู้ว่าฯ และ ผู้บริหารกทม.ก็ให้ความสำคัญในเรื่องนี้ มีการรณรงค์เรื่องทางข้าม สัญญาณไฟ จำกัดความเร็ว อนาคตอุบัติเหตุจะลดลง แต่ถ้าเราแก้ด้านกายภาพแล้ว พฤติกรรมผู้ขับขี่ไม่แก้อุบัติเหตุก็ลดไม่ได้ จึงมีโครงการนี้ขึ้นและควรทำต่อเนื่องไป“
นางสาวนงนุช เลิกบางพลัดผู้อำนวยการโรงเรียนสถานีพรมแดน (รักษาศุขราษฎร์บำรุง) กล่าวว่า เราเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก เด็กนักเรียน 290 กว่าคน ส่วนใหญ่ผู้ปกครองจะรับส่งด้วยรถจักรยานยนต์ อีกส่วนคือเด็กจะปั่นจักรยานมาโรงเรียนเอง ทางโรงเรียนจึงอยากรณรงค์ประชาสัมพันธ์เรื่องของความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน ให้เด็กเห็นความสำคัญของการสวมหมวกนิรภัยป้องกันตนเองรวมไปถึงผู้ปกครองด้วย ที่ผ่านมาเราได้แจกหมวกกันน๊อกจากที่ผู้ว่าฯให้มา มอบแก่เด็กๆ ที่คุณครูได้สำรวจแล้วทั้งเด็กที่โดยสารมากับผู้ปกครอง รวมถึงมอเตอร์ไซด์รับจ้าง และที่ปั่นจักรยานมาเองด้วย มีการจัดกิจกรรมในโรงเรียนส่งเสริมวินัยจราจร เชิญบุคคลภายนอก ตำรวจจราจร มาให้ความรู้กับเด็กๆ
ปีที่ผ่านมายังไม่สำเร็จด้วยผู้ปกครองยังไม่ให้ความร่วมมือ ประกอบกับถนนหน้าโรงเรียนจะเปลี่ยนจาก 2 เลน เป็น 4 เลน และมีการสร้างหน่วยราชการของสภากาชาดในบริเวณใกล้เคียงซึ่งจะทำให้มีรถเข้ามาสัญจรในพื้นที่มากขึ้น เรามองว่าเรื่องความปลอดภัยทางถนนเป็นเรื่องสำคัญ จึงได้เข้าร่วมโครงการในปีนี้เพื่อจะได้ทำกิจกรรมอย่างจริงจังให้เห็นผล เพื่อเด็กจะได้รับความปลอดภัย ต่อยอดไปถึงผู้ปกครองในชุมชน โดยจะเสริมหลักสูตร และนำต้นแบบจากโรงเรียนที่สำเร็จมาปรับ เน้นที่กิจกรรมให้เด็กๆสนใจสนุกในการเรียนรู้และเกิดความตระหนัก เป็นกระบอกเสียงไปถึงผู้ปกครอง