ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า  พ.ต.ต.คชา อ่อนเหลา สารวัตรเวรสภ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ได้รับเเจ้งเหตุคนถูกอาวุธปืนยิงเสียชีวิต  ที่ ม.5 ต.ยางหัก อ.ปากท่อ จึงรายงานให้ พ.ต.อ.พศพงศ์  มณฑา ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรอ.ปากท่อ ได้รับทราบก่อนจะเดินทางไปตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน และเจ้าหน้าที่มูลนิธิประชานุกูล จุดปากท่อ ในที่เกิดเหตุพบศพเป็นชาย 1 ราย สวมเสื้อยืดสีฟ้า กางเกงขายาวสีเทา  และรองเท้าบูท นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่ที่บริเวณข้างบ้าน ที่ศีรษะมีร่องรอยถูกอาวุธปืนเป็นแผลฉกรรจ์  ซึ่งทราบชื่อต่อมาคือนายณัทร  อายุ 72 ปี   อยู่บ้าน ต.หลุมดิน อ.เมือง จ.ราชบุรี ใกล้กันพบ นายบุญมี  อายุ 79 ปี  เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ ยืนรอมอบตัวกับเจ้าหน้าที่พร้อมกับอาวุธปืนลูกซองยาว 1กระบอก และลูกกระสุนอีกจำนวนหลายนัดใส่อยู่ในซองเก็บกระสุน พบปอกกระสุนตกอยู่ในที่เกิดเหตุจำนวน 1 ปลอก  เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ก่อนจะนำตัวนายบุญมี  ไปสอบสวนที่สภ.ปากท่อ 

เบื้องต้นภรรยาของผู้ตายให้การว่า  ผู้ตายนั้นเป็นสามีของตนเอง ส่วนมือปืนก็เป็นพ่อของตนเองเหมือนกัน  ช่วงเช้าที่ผ่านมาตนกับผู้ตายได้เข้าไร่ไปช่วยพ่อฉีดยาพืชผักที่ปลูกไว้  จากนั้นตนก็ชวนผู้ตายกลับเพราะจะต้องไปหาหมอที่โรงพยาบาลราชบุรีและเมื่อตนกับผู้ตายกลับมาที่บ้านเตรียมของที่จะกลับไปบ้านซึ่งอยู่ในตัวเมืองราชบุรี  จากนั้นไม่นานก็เห็นผู้เป็นพ่อโวยวายอยู่ในไร่  และขี่รถตามออกมาซึ่งตนก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะพ่อเป็นคนใจร้อนอยู่เเล้วจากนั้นตนจึงเดินเข้าบ้าน  ส่วนผู้ตายนั้นยืนอยู่ด้านนอก   จู่ๆก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด   จึงได้รีบเดินออกมาดูก็พบกับพ่อที่ยืนถือปืนอยู่และบอกกับตนว่า ผัวมึงตายเเล้ว ตนก็ทำอะไรม่ถูกได้เเต่ร้องไห้และเเจ้งเจ้าหน้าที่ได้เข้ามาตรวจสอบดังกล่าว  

ส่วนปมปัญหานั้นคาดว่าน่าจะเกิดปัญหาความขัดแย้งภายในครอบครัวซึ่งพ่อนั้นจะไม่ชอบให้ใครมายุ่งด้วยเพราะกลัวว่าจะมีคนมาแย่งสมบัติที่มีไป  ประกอบกับที่ผ่านมาแม่ของตนเองก็อยู่ที่บ้านนี้ไม่ได้เพราะทะเลาะกับพ่อตลอด  จนต้องหนีไปอยู่ที่อื่นอาจจะทำให้พ่อเกิดความเครียดสะสมด้วย  

ด้านนายนพรัตน์  จั่นสำอางค์  ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านม.5  ต.ยางหัก   ซึ่งมาตรวจสอบที่เกิดเหตุด้วย ก็บอกว่า  หลังจากที่ก่อเหตุแล้วมือปืนก็ขี่รถกลับเข้าไปในไร่และไปขนเครื่องมือทางการเกษตรกลับมาบ้าน และไม่ได้หลบหนีไปไหน  ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็มาถึงจึงได้ควบคุมตัวไว้เชื่อว่าสาเหตุที่ทำนั้นน่าจะมาจากเรื่องของการห่วงทรัพย์สมบัติที่มีอยู่ ประกอบมีอาการเครียดด้วย ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ก่อเหตุไปสอบสวนเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจภูธรปากท่อ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป