วันที่ 29 เม.ย.2568 ที่รัฐสภา นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ประธานคณะกรรมาธิการการทหาร สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึง การเรียกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เข้ามาชี้แจง ในคดีมาตรา 112 ของนายพอล แชมเบอร์ส ว่า ตอนนี้ยังติดใจอยู่หลายเรื่อง พอได้อ่านคำชี้แจงผ่านสื่อของพล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก คำถามที่เกิดขึ้นคือ พล.ต.วินธัย มีตำแหน่งอะไรในกอ.รมน. ซึ่งเคยเป็นอดีตโฆษกกอ.รมน. แต่รายละเอียดในข่าวระบุตำแหน่งว่าเป็นโฆษกกองทัพบก เขาสับสนขนาดไม่รู้ต้นสังกัด สายการบังคับบัญชาของตนเองแล้วหรือ ว่าโฆษกกองทัพบก ขึ้นตรงกับกองทัพบก  กองทัพบกก็ขึ้นตรงกับกระทรวงกลาโหม ขณะที่ กอ.รมน. ขึ้นตรงกับสำนักนายกรัฐมนตรี คนละกระทรวง

ตนอยากจะหาคำตอบจาก พล.ต.วินธัย เหมือนกันว่าคุณมีตำแหน่งอะไรใน กอ.รมน. คุณรับเงินเงินเดือนกี่ทาง โชคดีที่ตอนอ่านข่าวพบว่า พลตรี ธรรมนูญ ไม้สนธิ์ โฆษก กอ.รมน. ตัวจริง ได้ออกมาให้สัมภาษณ์แล้ว แต่ก็ให้สัมภาษณ์ในลักษณะทำนองเดียวกัน เหมือนก๊อปปี้กันมา เพราะเนื้อหาตรงกัน จึงต้องตั้งคำถามว่าในเมื่อ พล.ต.วินธัย ไม่ได้กล้าที่จะชี้แจงแทนกอ.รมน. ทั้งที่ตัวเองไม่ได้เป็นโฆษก กรรมาธิการทหาร จึงคิดว่า คงมีความรู้ทางด้านกฎหมายมหาชน และพระราชบัญญัติ กอ.รมน. ด้วย ดังนั้นในวันที่ 8 พ.ค.นี้ก็จะเชิญ พล.ต.วินธัย และพล.ต.ธรรมนูญ มาด้วย  

นายวิโรจน์ กล่าวว่า วันนี้มาตรา 112 เป็นอาญาแผ่นดิน ตามหลัก ป.วิอาญา ประชาชนหรือบุคคลทั่วไป ที่พบเห็นการกระทำความผิด ก็สามารถแจ้งดำเนินคดีได้ นี่เป็นเรื่องพื้นฐานทางกฎหมาย แต่ กอ.รมน. เป็นหน่วยงานรัฐ ต้องยึดหลักกฏหมายมหาชน วันนี้ กอ.รมน. แยกตัวเองไม่ออกแล้วหรือ ว่าตัวเองเป็นบุคคลทั่วไปหรือหน่วยงานรัฐ ถ้าเกิด พล.ท.กิตติพงษ์ แจ่มสุวรรณ แม่ทัพภาคที่ 3 ไปร้องเรียนในฐานะบุคคลธรรมดา ย่อมทำได้ แต่นี่ไปร้องทุกข์กล่าวโทษ ในฐานะ กอ.รมน. ก็ต้องตั้งคำถามว่าในตัวพระราชบัญญัติ กอ.รมน.ได้ให้อำนาจไว้ในมาตราใด  ซึ่งในวันที่ 8 พ.ค.นายทหารพระธรรมนูญ มาก็ได้ เพราะตนก็จะเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายมารับฟังด้วยเช่นกัน

“วันนี้กองทัพไม่สนใจกฎหมายมหาชนแล้วหรือ สับสน ขนาดที่ตัวเองเป็นบุคคลธรรมดาหรือหน่วยงานรัฐ  ตกลงคนที่ไปแจ้งความชื่อ นาย กอ. นามสกุล รมน. หรือ ตกลงแล้วหลักกฏหมายมหาชน กอ.รมน. จะไม่เคารพแล้วหรือ อย่างนั้นคณะนิติศาสตร์ มหาลัยต่างๆ คงปั่นป่วนหมด ตกลง กอ.รมน. กับ ทบ. มีความสัมพันธ์กันอย่างไร อดีตโฆษกก็มาตอบแทนกันได้แล้วหรือ” นายวิโรจน์ กล่าว

เมื่อถามว่าพล.ต.วินธัย ออกมาให้สัมภาษณ์ กังวลเรื่องของการถูกไล่บี้ ภายใน กมธ. นายวิโรจน์ สวนกลับว่า ถ้าไม่ผิด กลัวอะไร คำพูดนี้ กอ.รมน. ก็ชอบพูด ไม่ใช่หรือ ถ้าใช้อำนาจโดยชอบ ไม่เข้าข่ายการประพฤติมิชอบ เคารพหลักกฏหมายมหาชน คุณกลัวอะไร และต้องยอมรับว่าทำไมต้องตรวจสอบ เพราะแม้นายทักษิณ ชินวัตร ก็ออกมายอมรับ ว่าการดำเนินคดี การแจ้งข้อกล่าวหากับนายพอลครั้งนี้ มีส่วนไม่มากก็น้อย เกี่ยวกับการเจรจาภาษีศุลกากรตอบโต้สหรัฐ ใช่หรือไม่ นั่นหมายความว่าหากการดำเนินการของ กอ.รมน. ครั้งนี้ไม่รอบคอบ เพียงพอ ไม่เคารพหลักกฏหมายมหาชน ที่สามารถอธิบายกับนักนิติศาสตร์ในและต่างประเทศได้ นี่อาจเป็นต้นเหตุของหายนะทางเศรษฐกิจ ที่กระทบกระเทือน ปากท้องกับประชาชนทั้งประเทศ ใครจะรับผิดชอบ

และการแจ้งความในมาตรา 112 ก็อาจจะ ถูกพิจารณา และถูกวิพากษ์วิจารณ์ จากเวทีโลกได้ว่า คุณกำลังนำเอาสถาบันเข้าไปอยู่ท่ามกลางข้อพิพาท ซึ่งเกี่ยวข้องกับประเด็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ กระทบกระเทือนกับพระเกียรติยศ ของสถาบัน อาจจะเข้าข่ายแอบอ้างความจงรักภักดี ไปกลั่นแกล้งบุคคลให้ต้องคดีอาญาด้วย ตนขอถาม ไปทั้งพล.ต.วินธัย และ พล.ต.ธรรมนูญ หากเกิดผลกระทบ และภายหลังยกฟ้องหรือสั่งไม่ฟ้อง หรือมีคำพิพากษาถึงที่สุดว่านายพอลไม่ผิด ใครจะรับผิดชอบกับหายนะทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นกับประชาชน

เมื่อถามว่ากองทัพ ขออย่าโยงเรื่องภาษีสหรัฐ กับเรื่องนี้ นายวิโรจน์ ถึงกับร้องอ้าว นี่เห็นไหม เขาก็บอกว่าไม่เกี่ยวข้อง วันนี้ผมถึงบอกว่า ถ้าเกี่ยว วันนี้ นายทักษิณออกยอมรับแล้ว ว่าอาจเกี่ยว ขออย่าตอบว่าไม่เกี่ยว เพราะคำถามที่ถามกองทัพ จริงๆ ต้องถาม กอ.รมน.  อย่าสับสน ถ้าสับสนเมื่อไหร่ กอ.รมน. ก็จะกลายเป็นมือที่มองไม่เห็นของกองทัพ ที่จะแทรกแซงอำนาจรัฐ และคุกคามประชาชน จึงขอถามไปที่ กอ.รมน. ว่า ถ้าเกี่ยวใครรับผิดชอบ มีดาวบนบ่านี่ ใครรับผิดชอบช่วยออกมาพูดหน่อย พล.ต.ธรรมนูญ ถ้าเกี่ยว ใครรับผิดชอบ พูดมา พล.ต.วินธัย เห็นแสดงภาพยนตร์ เก่ง สบบทบาท พูดมาใครบุคคลใด ใน กอ.รมน. กองทัพบก กระทรวงกลาโหม จะเป็นผู้รับผิดชอบ ชื่ออะไร ชั้นยศอะไร  จะรับผิดชอบกับการที่สถาบัน ถูกหยิบยกไปอยู่ท่ามกลางข้อพิพาท ที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และอาจจะเสื่อมเสียถึง พระเกียรติยศในเวทีโลก สายตานานาอารยประเทศ  ใครจะรับผิดชอบ ไม่ต้องบอกว่าไม่เกี่ยวผมถามว่าถ้าเกี่ยวไง ถ้าตอบไม่ได้ ก็เหมือน คุณแทงหวยว่า ไม่เกี่ยวอย่างเดียว แสดงว่า ถ้าเกี่ยวขึ้นมาจับมือใครดมไม่ได้ ไอ้ที่บอกว่า ทหาร หาญ กล้าทำกล้ารับไม่จริง บอกมาเลยไม่เกี่ยวก็ไม่เกี่ยว แต่ก็ต้องให้ความเป็นธรรม ถ้าคิดว่าทำโดยชอบด้วยกฎหมายก็ทำไป แต่ถ้าสุดท้ายยกฟ้องหรือสั่งไม่ฟ้อง ใครรับผิดชอบ ไหนบอกว่ากล้าหาญไง นี่คือ หาร ที่ยังไม่ใช่ ญ ขนาด หาร รอ เรือ คุณยังไม่กล้าหาญความรับผิดชอบกันเลย แหม พูดแล้ว ลม สันดานขึ้นจริงๆ

เมื่อถามว่าหาก กอ.รมน.และ พล.ต.วินธัย ไม่มาชี้แจงต่อกรรมาธิการในสัปดาห์หน้า นายวิโรจน์ กล่าวว่าจะเรียกจนกว่าจะมา ไหนว่ากล้านัก อยากได้ไมค์แทงปากไม่ใช่เหรอ และยืนยันต่อพล.ต.วินธัย ที่ประชุมกรรมาธิการวันที่ 8 พฤษภาคมจะไม่มีปิดไมค์แน่นอน อย่าปิดไมค์และปิดกล้อง

“ผมอยากให้พล.ต.วินธัย มาเอง เพราะอยากรู้ว่าไอ้ห้อยไอ้โหนที่คอยส่งโพยให้หน้าตาเป็นอย่างไร และอยากให้ พล.ต.วินธัย มาพร้อมกับหลักกฏหมายมหาชน และเตรียมอ่าน พ.ร.บ.กอ.รมน. ของตัวเองมาให้เรียบร้อยก่อน หลักกฏหมายมหาชน ฟังให้ดีทั้ง พล.ต.ธรรมนูญ ไม้สนธิ์ และ พล.ต.วินธัย สุวารี ไปถามทหารพระธรรมนูญ ที่มีมีความรู้ด้านกฎหมายได้ หน่วยงานรัฐต้องยึดหลักกฏหมายมหาชน ถ้าไม่ให้อำนาจไว้ก่อน ให้ถือว่ากระทำไม่ได้ ซึ่งต่างจากกฎหมายเอกชน คือถ้ากฎหมายไม่ห้าม” นายวิโรจน์กล่าว

นายวิโรจน์ กล่าวว่า ในกรณีนี้ กอ.รมน. ตามพระราชบัญญัติของตัวเอง ให้อำนาจโดยที่มาตราใด อยู่ดีๆ จะตอบว่าเกี่ยวกับมาตรา7การทำแผน แล้วมาตราใด แล้วบอกว่าบุคคลทั่วไปธรรมดาสามารถแจ้งความได้ แยกไม่ออกหรือว่า กอ.รมน. เป็นบุคคลหรือหน่วยงาน ซึ่งจริงๆ ต้องการเชิญ พล.ต.วินธัย เพราะต้องการเชิญ พล.ต.ธรรมนูญ ไม้สนธิ์ มากกว่า

“แต่ถ้าดูแล้วปากสั่นอยากจะมาตอบแทน กอ.รมน.ไง เลยคิดว่าท่านจะมีความรู้ ก็เลยเชิญมา อย่าบังอาจตอบว่าไม่ไม่เกี่ยวข้องกับ กอ.รมน. ถ้าตอบว่าไม่เกี่ยวข้อง แล้วมาให้สัมภาษณ์ทำไม สับสนในต้นสังกัดของตัวเองทำไม ในเมื่อกล้าให้สัมภาษณ์ก็ต้องกล้ามา ” นายวิโรจน์ กล่าว