เมื่อเวลา 11.40 น. วันที่ 29 เม.ย. 68 ที่หอประชุมอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง มหาวิทยาลัยนครพนม น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีให้สส.พรรคเพื่อไทย ไปทำความเข้าใจประชาชนเกี่ยวกับร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ เอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หากเรื่องดังกล่าวไม่ผ่านสภาฯในรัฐบาลนี้จะเป็นอย่างไรว่า ขออย่าเพิ่งชี้นำว่าจะผ่านหรือไม่ผ่าน ที่ตนให้สส.ไปทำความเข้าใจ เพราะเรื่องนี้เป็นสิ่งใหม่ของประเทศ แต่มีในบางประเทศเช่นญี่ปุ่น เรื่องนี้เป็นการลงทุนจากต่างชาติของภาคเอกชน ที่เราสามารถเก็บภาษีได้ เป็นประโยชน์ที่ประเทศชาติได้รับ และยังมีเรื่องการจัดคอนเสิร์ตที่เข้ามาก็จะมีการจ้างงานและเก็บภาษีได้มากขึ้น เป็นการลงทุนของเอกชน เนื่องจากเรื่องงบประมาณเราตึงพอสมควร

ดังนั้นการลงทุนใหญ่ๆ โดยเอกชนเช่นนี้เป็นประโยชน์ต่อประเทศ ผ่านหรือไม่ผ่านเป็นสิ่งที่ในสภาฯเขาต้องทำงานกัน สส.ก็ต้องทำความเข้าใจกับประชาชนว่าเป็นแบบนี้มีอะไรเข้าใจผิดหรือไม่ หรืออะไรที่ยังไม่ชัดเจน สส.ทุกพรรคมีหน้าที่ไปอธิบาย โดยเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ตนแถลงต่อรัฐสภาฯก็ต้องดำเนินการทำความเข้าใจไปเรื่อยๆ ยืนยันว่าเรารับฟังเมื่อสส. อธิบายไปแล้วประชาชนมีความคิดเห็นอย่างไรก็ต้องรับฟังมา 

เมื่อถามว่า เมื่อกำชับสส.พรรคเพื่อไทยแล้ว ได้ขอความร่วมมือพรรคร่วมรัฐบาลให้ช่วยอธิบายเรื่องนี้ด้วยหรือไม่ น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า กำชับและได้พูดคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลอยู่แล้วว่า จะสามารถทำความเข้าใจได้อย่างไรบ้าง ทุกคนมีแนวทางสื่อสารของพรรคตัวเอง ตนได้คุยแต่กับหัวหน้าพรรคให้ทุกพรรคไปดำเนินการกันเอง ซึ่งหัวหน้าพรรคทุกพรรคก็เห็นด้วย 

เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้มีการประกาศกลางสภาฯของสส.บางคน ตรงนี้ถือเป็นจุดที่ทำให้ฝ่ายที่เห็นต่างหยิบมาโจมตีขยายความว่าเรื่องนี้อาจสะดุดและเดินต่อไม่ได้ น.ส.แพทองธาร ตอบว่า เรายังมีเวลาก่อนเปิดสมัยประชุมสภาฯ ก็ทำให้ดีที่สุดในเรื่องนี้ และสิ่งที่ตนแถลงต่อรัฐสภาคิดว่าจะเป็นประโยชน์ที่ยิ่งใหญ่กับประเทศ ไม่เช่นนั้นก็ไม่อยากตั้งต้นเรื่องนี้ขึ้นมา 

เมื่อถามว่า จำเป็นต้องหันไปถาม นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่ยืนอยู่ข้างๆ ว่าเคลียร์กันเรียบร้อยหรือยัง โดยน.ส.แพทองธาร กระเซ้าว่าให้ส่งไมค์ให้พรรคภูมิใจไทยด้วยเลยหรือไม่ พร้อมกลับยื่นไมค์ไปทางนายอนุทินที่ยืนอยู่แล้วบอกว่า เดี๋ยวให้สัมภาษณ์ข้างนอก ก่อนที่น.ส.แพทองธาร จะกล่าวว่า ความจริงไม่มีปัญหา คุยกับท่านรองนายกฯ อยู่แล้ว ซึ่งทราบดีว่าเป็นนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภาร่วมกัน