เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 29 เม.ย. 68 ที่หอประชุมอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง มหาวิทยาลัยนครพนม จ.นครพนม นายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ กล่าวถึงกรณีที่นายพีระพันธ์ุ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ถูกร้องเรื่องคุณสมบัติ การถือหุ้นในบริษัทเอกชน 4 แห่งว่า ตนเห็นตามข่าว ไม่ทราบรายละเอียด นายพีระพันธุ์มีความรู้ด้านกฎหมายอยู่แล้ว ตนเชื่อว่าน่าจะสามารถชี้แจงได้  และเลขาธิการพรรคจะต้องเป็นผู้ชี้แจง ตนไม่รู้เรื่องนี้เพราะเป็นเรื่องส่วนตัว 

 

เมื่อถามว่า กังวลจะกระทบกับตำแหน่งของรัฐมนตรีหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า ตำแหน่งรัฐมนตรี เป็นเรื่องของนายกฯ เพราะนายกฯแต่งตั้ง ส่วนจะกระทบไปถึงนายกฯหรือไม่นั้นไม่ทราบ เพราะยังไม่รู้ว่าต้นทางคืออะไร ตนก็ได้ยินข่าวมาจากสื่อมวลชน ยังไม่มีข้อมูล 

 

เมื่อถามว่า จะส่งผลต่อเสถียรภาพในการต่อรองอะไรหรือไม่ นายสุชาติ กล่าวว่า คงไม่ถึงขนาดนั้น แต่เรื่องนี้ก็คงต้องถามกรรมการบริหารพรรค หรือเลขาธิการพรรค ตนเป็นแค่ สส.และสมาชิกพรรค นายพีระพันธุ์เป็นหัวหน้าพรรค ต้องชี้แจงเอง เพราะมีข่าวออกมาต่อเนื่อง

 

เมื่อถามว่า หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง พรรครวมไทยสร้างชาติจะต้องสรรหาบุคคลมาแทนอย่างไร นายสุชาติ กล่าวว่า หากถึงวันนั้นจริงๆสมมุติใช้คำว่าสมมุติ ตนว่าในพรรครวมไทยสร้างชาติมีคนที่มีความรู้ความสามารถเยอะแยะ เราเป็นพรรคการเมืองไม่ได้ยึดติดกับตัวบุคคล เราทำงานในภาพรวม เป็นตัวแทนประชาชน จึงไม่ยึดติดกับตัวบุคคล 

 

เมื่อถามว่า สังคมจับตามาที่ตัวของนายสุชาติ นายสุชาติ กล่าวว่า คงยังไม่ถึงเวลา เมื่อถามว่าสำหรับกระแสข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี(ครม.) ในส่วนของพรรครวมไทยสร้างชาติ มีการหารือกันอย่างไรบ้าง นายสุชาติ กล่าวว่า เรื่องการปรับครม. เป็นอำนาจของนายกฯ ตอนนี้ก็ยังไม่มีสัญญาณอะไรทั้งสิ้น ทุกอย่างอยู่ที่การตัดสินใจของนายกรัฐมนตรี ที่จะตั้งพวกเรามาทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง เราไม่สามารถตัดสินตัวเองได้

 

เมื่อถามย้ำว่า ในพรรครวมไทยสร้างชาติได้มีการพูดคุยกันถึงเรื่องนี้หรือไม่ นายสุชาติกล่าวว่า ยังไม่มี อาจจะมีเพียงสมาชิกพรรคที่พูดคุย เพราะทุกคนอยู่ในข้อมูลเดียวกัน และรู้จากสื่อ ส่วนรัฐมนตรี ในสัดส่วนของพรรค รวมไทยสร้างชาติได้พูดคุยกันหรือไม่นั้น ไม่ได้พูดถึงตรงนั้น เพราะยังไม่มีข้อมูลหรือสัญญาณอะไร แล้วเราต้องให้เกียรตินายกฯเพราะมีอำนาจสูงสุดในการแต่งตั้ง เราเป็นพรรคร่วม ใครเหมาะสมหรือไม่เหมาะสมถึงเวลาวันนั้นในสถานการณ์นั้นก็มาว่ากันอีกที