ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL) นำเสนอผลสำรวจภาคสนาม เรื่อง คุณธรรมสัมปทานรัฐรัฐมนตรี กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพ จำนวนทั้งสิ้น 1,081 ตัวอย่าง โดยดำเนินโครงการระหว่าง วันที่ 17 – 19 มกราคม พ.ศ. 2562 โดยผลสรุปมีดังนี้
ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 70.7 เห็นด้วย ถึงเห็นด้วยอย่างยิ่ง รัฐมนตรีที่ถูกลงมติถือหุ้นสัมปทานรัฐควรลาออกทันที ในขณะที่ร้อยละ 29.3 ไม่เห็นด้วย ถึง ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง และเมื่อจำแนกออกระหว่างหญิงกับชาย พบว่า หญิงส่วนใหญ่หรือร้อยละ 69.5 และชายส่วนใหญ่หรือร้อยละ 71.6 เห็นด้วยถึงเห็นด้วยอย่างยิ่งให้รัฐมนตรีถือหุ้นสัมปทานรัฐลาออกทันที นอกจากนี้ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 67.1 ระบุ กรณีรัฐมนตรีถือหุ้นสัมปทานรัฐกระทบภาพลักษณ์รัฐบาล และ คสช. ในขณะที่ร้อยละ 32.9 ระบุไม่กระทบ
ที่น่าพิจารณาคือ ส่วนใหญ่หรือร้อยละ 77.1 จะไม่เลือก พรรคการเมืองที่ฝ่าฝืนระบบคุณธรรมและจริยธรรมการเมือง แม้ได้รับผลประโยชน์ ในขณะที่ร้อยละ 22.9 จะเลือก ถ้าได้ผลประโยชน์ตอบแทน ที่น่าเป็นห่วงคือ ก่ำกึ่งกัน ร้อยละ 50.6 มองว่า การเมืองวุ่นวายไม่เป็นอุปสรรคขัดขวางเสรีภาพการเดินทางและหารายได้ แต่ร้อยละ 49.4 ระบุเป็นอุปสรรค
ผู้อำนวยการซูเปอร์โพล กล่าวว่า จิตใจคนไทยส่วนใหญ่สูงส่ง ไม่เลือกพรรคการเมืองที่มีปัญหาฝ่าฝืนระบบคุณธรรม จริยธรรมทางการเมืองเข้ามาบริหารประเทศชาติ ถึงแม้ตนเองจะได้ผลประโยชน์ตอบแทน แต่น่าเป็นห่วงคือ กลุ่มคนก่ำกึ่งกันระหว่างกลุ่มคนที่มองสถานการณ์การเมืองลุกลามบานปลายไม่เป็นอุปสรรคขัดเสรีภาพการเดินทางและหารายได้ของประชาชน กับกลุ่มคนที่มองว่าเป็นอุปสรรค ผู้ใหญ่อาจจะกำลังคิดเอาคณะบุคคลที่ฝ่าฝืนคุณธรรมจริยธรรมทางการเมืองมาเป็นเกราะกันชน ผู้นำประเทศ แทนที่จะเอาระบบคุณธรรมจริยธรรมทางการเมืองมาเป็นกลไกคุ้มครอง จะได้อยู่ในอำนาจต่อหรือไม่ได้อยู่ต่อ อะไรจะสำคัญเท่า ให้ระบบคุณธรรมจริยธรรมได้คงอยู่สืบต่อให้ลูกหลานมีหลักยึดหลักธรรมาภิบาลในการปกครองบ้านเมืองต่อไป