เศรษฐกิจภูมิภาคเดือนมีนาคม 2568 มีปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชน โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ และการท่องเที่ยวที่ขยายตัวได้ในภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวลดลงทุกภูมิภาค
วันที่ 28 เมษายน 2568 นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยภาวะเศรษฐกิจภูมิภาคประจำเดือนมีนาคม 2568 ว่า “เศรษฐกิจภูมิภาคเดือนมีนาคม 2568 มีปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชน โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ และการท่องเที่ยวที่ขยายตัวได้ในภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับตัวลดลงทุกภูมิภาค” โดยมีรายละเอียดดังนี้
เศรษฐกิจภาคตะวันออกเฉียงเหนือในเดือนมีนาคม 2568 มีปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชน การลงทุนภาคเอกชนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร และการท่องเที่ยวที่ขยายตัว โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ และจำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ขยายตัวที่ร้อยละ 16.5 และ 5.9 ต่อปี ตามลำดับ ขณะที่จำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่หดตัว ที่ร้อยละ -6.4 ต่อปี แต่ขยายตัวที่ร้อยละ 4.0 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล อย่างไรก็ตาม รายได้เกษตรกรหดตัวที่ร้อยละ -9.4 ต่อปี ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 59.3 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 60.3 เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ขยายตัวที่ร้อยละ 1.5 ต่อปี ขณะที่จำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -16.6 ต่อปี แต่ขยายตัวที่ร้อยละ 0.8 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล ทั้งนี้ เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการหดตัว ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 68.0 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 71.3 เครื่องชี้ภาคการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนขยายตัวที่ร้อยละ 6.5 และ 8.2 ต่อปี ตามลำดับ
เศรษฐกิจภาคเหนือในเดือนมีนาคม 2568 มีปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชน การลงทุนภาคเอกชน และการท่องเที่ยวที่ขยายตัว โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ และจำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ขยายตัวที่ร้อยละ 10.7 และ 2.6 ต่อปี ตามลำดับ ขณะที่จำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -3.6 ต่อปี แต่ขยายตัวที่ร้อยละ 7.9 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล อย่างไรก็ตาม รายได้เกษตรกรหดตัวที่ร้อยละ -4.3 ต่อปี ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 56.8 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 57.9 เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ขยายตัวที่ร้อยละ 3.2 ต่อปี อย่างไรก็ตาม จำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -23.0 ต่อปี ทั้งนี้ เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการขยายตัวที่ร้อยละ 73.4 ต่อปี โดยเป็นการลงทุนในโรงงานโรงงานห้องเย็นในจังหวัดเชียงใหม่ เป็นสำคัญ ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 87.4 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 90.5 เครื่องชี้ภาคการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนขยายตัวที่ร้อยละ 0.4 และ 0.6 ต่อปี ตามลำดับ
เศรษฐกิจภาคกลางในเดือนมีนาคม 2568 มีปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชน เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการ และการท่องเที่ยวที่ขยายตัว อีกทั้งดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมที่ปรับตัวดีขึ้น โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ จำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ และรายได้เกษตรกรขยายตัวที่ร้อยละ 1.9 1.2 และ 1.4 ต่อปี ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม จำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -18.6 ต่อปี ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 55.8 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 56.9 เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -27.8 ต่อปี แต่ขยายตัวที่ร้อยละ 13.5 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล อย่างไรก็ตาม จำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -40.1 ต่อปี ทั้งนี้ เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการขยายตัวที่ร้อยละ 892.5 ต่อปี โดยเป็นการลงทุนในโรงงานการผสม และแบ่งบรรจุปุ๋ยเคมี ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นสำคัญ ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 100.4 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 99.3 เครื่องชี้ภาคการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนขยายตัวที่ร้อยละ 1.3 และ 2.2 ต่อปี ตามลำดับ
เศรษฐกิจ กทม. และปริมณฑล ในเดือนมีนาคม 2568 มีปัจจัยสนับสนุนจากการจับจ่ายใช้สอย เพื่อการบริโภค รายได้เกษตรกร และเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการที่ขยายตัว โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจ ด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ และรายได้เกษตรกรขยายตัวที่ร้อยละ 11.9 และ 8.4 ต่อปี ตามลำดับ ขณะที่จำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -0.1 ต่อปี แต่ขยายตัวที่ร้อยละ 7.1 เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาล อย่างไรก็ตาม จำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -5.5 ต่อปี ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 55.9 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 57.2 เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -17.9 และ -8.6 ต่อปี ตามลำดับ ทั้งนี้ เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการขยายตัวที่ร้อยละ 7.8 ต่อปี โดยเป็นการลงทุนในโรงงานผลิตยาหม่อง ยาเหลือง ยาเขียวในจังหวัดนครปฐม เป็นสำคัญ ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 100.4 เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 99.3 เครื่องชี้ภาคการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนหดตัวที่ร้อยละ -3.5 และ -4.6 ต่อปี ตามลำดับ
เศรษฐกิจภาคใต้ในเดือนมีนาคม 2568 มีปัจจัยสนับสนุนจากการบริโภคภาคเอกชน ขณะที่การลงทุนภาคเอกชน และภาคการท่องเที่ยวหดตัว โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ จำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ขยายตัวที่ร้อยละ 13.8 0.1 และ 5.2 ต่อปี ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม รายได้เกษตรกรหดตัวที่ร้อยละ -0.3 ต่อปี ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 54.9 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 55.9 เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -13.2 และ -9.9 ต่อปี ตามลำดับ ทั้งนี้ เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการหดตัว ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 84.8 ลดลงจากเดือนก่อนหน้า ซึ่งอยู่ที่ระดับ 86.7 เครื่องชี้ภาคการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนหดตัวที่ร้อยละ -1.3 และ -0.5 ต่อปี ตามลำดับ
เศรษฐกิจภาคตะวันออกในเดือนมีนาคม 2568 มีปัจจัยสนับสนุนจากรายเกษตรกร และการท่องเที่ยวที่ขยายตัว ขณะที่การลงทุนภาคเอกชนหดตัว โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ และรายได้เกษตรกรขยายตัวที่ร้อยละ 2.1 และ 21.3 ต่อปี ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม การจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ และจำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -14.5 และ -13.8 ต่อปี ตามลำดับ ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 59.3 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 60.3 เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่ และจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -13.6 และ -25.4 ต่อปี ตามลำดับ อีกทั้ง เงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการหดตัว ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคอุตสาหกรรม สะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมอยู่ที่ระดับ 98.3 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 99.4 เครื่องชี้ภาคการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนขยายตัวที่ร้อยละ 3.7 และ 2.7 ต่อปี ตามลำดับ
เศรษฐกิจภาคตะวันตกในเดือนมีนาคม 2568 มีปัจจัยสนับสนุนจากการท่องเที่ยวที่ขยายตัว ขณะที่การบริโภคภาคเอกชน และการลงทุนภาคเอกชนหดตัว โดยเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่จำนวนรถยนต์นั่งจดทะเบียนใหม่ จำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ และรายได้เกษตรกรหดตัวที่ร้อยละ -21.4-16.8 -2.2 และ -5.4 ต่อปี ตามลำดับ อีกทั้ง ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคอยู่ที่ระดับ 55.8 ลดลงจากเดือนก่อนหน้าซึ่งอยู่ที่ระดับ 56.9 เครื่องชี้ด้านการลงทุนภาคเอกชน สะท้อนจากจำนวนรถยนต์บรรทุกส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -17.1 ต่อปี เช่นเดียวกับจำนวนรถบรรทุกจดทะเบียนใหม่หดตัวที่ร้อยละ -19.7 ต่อปี และเงินทุนของโรงงานที่เริ่มประกอบกิจการหดตัว ด้านอุปทาน เครื่องชี้ภาคการบริการ สะท้อนจากจำนวนผู้เยี่ยมเยือน และรายได้จากผู้เยี่ยมเยือนขยายตัวที่ร้อยละ 0.5 และ 3.3 ต่อปี ตามลำดับ
นอกจากนี้ ผลการสำรวจภาวะเศรษฐกิจภูมิภาคของไทย ประจำเดือนมีนาคม 2568 ซึ่งสำรวจจากสำนักงานคลังจังหวัดและสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยพบว่า ภาวะเศรษฐกิจภูมิภาคเดือนมีนาคม 2568 ปรับตัวชะลอลงจากเดือนก่อนหน้าทุกภูมิภาค โดยความเชื่อมั่นในภาพรวมชะลอลงทั้งในภาคเกษตร อุตสาหกรรม และบริการ ในขณะที่กำลังซื้อสะท้อนจากดัชนีความเชื่อมั่นภาคประชาชนปรับตัวชะลอลงจากเดือนก่อนหน้าในเกือบทุกภูมิภาค ยกเว้นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อย่างไรก็ดี ดัชนียังมีแรงหนุนจากรายได้ในภาคบริการที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นได้ สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาคใน 6 เดือนข้างหน้าปรับตัวชะลอลงในหลายภูมิภาค โดยภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรมยังเผชิญแรงกดดันจากปัจจัยภายนอก โดยเฉพาะสภาพอากาศที่แปรปรวน ต้นทุนการผลิตสูง สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีน และภาวการณ์ลงทุนที่ยังชะลอตัวในหลายพื้นที่ อย่างไรก็ดี ภาคบริการและการจ้างงานยังมีสัญญาณฟื้นตัวจากการท่องเที่ยวและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ
#ความเชื่อมั่นผู้บริโภค #เศรษฐกิจภูมิภาค #ข่าววันนี้ #ท่องเที่ยว #สยามรัฐ #สยามรัฐออนไลน์