หนังสือพิมพ์สยามรัฐ ยืนหยัดฟันฝ่า ทุกอุปสรรค ทุ่มเท ทำงานรับใช้สังคม นำเสนอความจริง ผลงานก้าวสู่ปีที่ 75 เป็นเครื่องพิสูจน์...*...
30 เมษายน 68 นี้กลายเป็นวันลุ้นระทึก “ชะตากรรม” ของคนชื่อ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกฯคนที่ 23 จะต้องถูกส่งกลับเข้าเรือนจำหรือไม่ เมื่อ ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดฟังคำสั่งคำร้อง ที่ “ชาญชัย อิสระเสนารักษ์” อดีตสส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ ได้เคยยื่นคำร้องต่อศาลฎีการ ให้นำตัว “ทักษิณ” มาลงโทษติดคุก เพราะ “กรมราชทัณฑ์” ส่งตัวไปรักษาที่ รพ.ตำรวจ ชั้น 14 ไม่ได้ขออนุญาตศาลก่อน จึงขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ม.89 และ ม. 246 ส่วนกรมราชทัณฑ์ อ้างอำนาจตาม ม. 55 วรรคสอง แห่ง พ.ร.บ.ราชทัณฑ์ 2560 เป็นเพียงกฎหมายชั้นรอง และขัดต่อบทบัญญัติประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ...*...
สิ่งที่จะเกิดขึ้น ก่อนถึงวันที่ 30 เมษายนคือ “แรงกดดัน” ที่กำลังก่อตัวขึ้นที่ “พรรคเพื่อไทย” เองในฐานะแกนนำรัฐบาล ที่ก่อนหน้านี้ก็แทบไม่มี “แต้มต่อ” ในมือ มากพอที่จะทำให้ “พรรคร่วมรัฐบาล” เกรงอกเกรงใจ ยิ่งถ้า “ผู้นำทางจิตวิญญาณ” ของ “พรรคเพื่อไทย” เจอคำสั่งศาลฯ ออกมาในทางที่เป็น “ลบ” แน่นอนว่า “ผลกระทบ” จะส่งแรงสั่นสะเทือนมาถึง “พรรคเพื่อไทย” เป็นระลอกใหม่ทันที ...*...
จากเดิมที่เคยหวังว่าจะเป็น ฝ่ายเลือกปรับครม. หรือจะบีบพรรคไหนออกจาก “รัฐบาลผสม” เหมือนกับที่เคยเกิดขึ้นกับ “พรรคพลังประชารัฐ” เห็นที่ ต้องตั้งคำถามกันใหม่ว่า ใครจะเป็นฝ่าย “ถืออำนาจต่อรอง” ในมือมากกว่ากัน ...*...
ดังนั้นที่จะหวังให้ “พรรคฝ่ายค้าน” กระโดดเข้าร่วมรัฐบาล ด้วยคงยากเต็มที โดยเฉพาะ “พลังประชารัฐ” ยังเย้ยเยาะว่า “เรือใกล้จะล่ม ใครจะไปร่วม” ตามที่ “ชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์” แกนนำของพรรค บอกกับสื่อ...*...
แต่หากจะให้ “ทักษิณ” รีบหนีออกนอกประเทศ ตามที่ “ลูกน้องเก่า” อย่าง “ตู่” จตุพร พรหมพันธุ์ อดีตแกนนำคนเสื้อแดง แนะนำ “นายเก่า” ก็ยิ่งทำได้ยาก เพราะการจะเดินทางออกนอกประเทศ อย่าลืมว่า “ทักษิณ” ต้องขอนุญาต “ศาล” เสียก่อน เพราะเจ้าตัวยังมี “คดีม.112” ติดตัวอยู่ แถมยามนี้การเดินทางออกนอกประเทศ ก็ยังเป็น “เงื่อนไข” ที่ศาลได้สั่งห้ามเอาไว้ก่อนหน้านี้ ...*...
“พรรคเพื่อไทย” ยามนี้ดูเหมือนเจอศึกหลายทางตีโอบล้อมเข้ามา ทั้งทางตะรางและทางอ้อม ทั้งการปรับครม. จาก “แพทองธาร 1” ไปสู่ “แพทองธาร2” เพื่อหวัง “สร้างผลงาน” ก่อนเลือกตั้งครั้งหน้ามาถึง เพราะมีแนวโน้มว่ารัฐบาลอาจอยู่ไม่ครบเทอมไปถึงปี 2570 กลับสร้างความวุ่นวายเพิ่มเข้ามา เรื่อง “ปรับใหญ่” คงต้องเอาไว้ก่อน เพราะแค่ “ปรับเล็ก” เฉพาะ “เพื่อไทย” เอง สมาชิกพรรคทั้ง “อาวุโส” และ “คนรุ่นใหม่” ก็พากันวิ่งจนเท้าแทบขวิดกันอยู่แล้ว คนที่ “มีความหวัง” จ่อคิวขึ้น “รัฐมนตรี” ก็มีลุ้น ส่วนกลุ่มที่จ่อคิวเตรียมร่วง มีชื่อติดโผ จะ “ถูกปรับออก” ก็ต้องวิ่งเช่นกัน จะทำอย่างไรเพื่อให้ได้ “อยู่ต่อ” และจะวิ่งไปทางไหน ระหว่าง “บ้านจันทร์ส่องหล้า” หรือ “ตึกไทยคู่ฟ้า” ที่ “นายกฯอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร นายกฯทางการ นั่งทำงานอยู่ มองไปมองมา ต้องขอยืมคำพูด “นายกฯอิ๊งค์” เพราะวุ่นๆ ชนิด “หัวจะปวด” มึนไปหมด !! …*…
ที่มา:พันแสง (28/04/68)