# มีรายงานว่า ที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาได้พิจารณาเรื่องที่ นายชาญชัย อิสระเสนารักษ์ อดีต สส.นครนายก พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นคำร้องขอให้ไต่สวนกรณี กรมราชทัณฑ์ นำนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ซึ่งเป็นนักโทษออกจากเรือนจำ โดยขัดหมายศาล และฝ่าฝืนคำพิพากษาของศาล โดยไม่เข้ากรณีที่จะนำนักโทษออกไปนอกเรือนจำได้ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญามาตรา 246 ขอให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ทำการไต่สวนและออกหมายจับจำเลยมาขังไว้ตามคำพิพากษาต่อไป มีรายงานว่า ที่ประชุมศาลฯ ได้นัดแถลงเรื่องคำวินิจฉัยดังกล่าวในวันที่  30 เม.ย.นี้

# นายภูเทพ  ทวีโชติธนากุล  รองเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)  ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช.  กล่าวว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด   นายภูมิ สาระผล  เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรปี 2554 และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ร่ำรวยผิดปกติ  หรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นมากผิดปกติ จำนวน  19,947,750 บาท   

โดยอยู่ในการถือครองของนางอรอนงค์  สาระผล คู่สมรส และ นายภพพล  สาระผล บุตรชาย  ซึ่งได้ส่งไปยังอัยการสูงสุดให้ยื่นคำร้องต่อศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง  เพื่อขอให้ศาลมีคำสั่งยึดทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดินต่อไป

# น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวานิช รมช.มหาดไทย ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวมีรายชื่อถูกปรับพ้นคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดย น.ส.ธีรรัตน์ ระบุเพียงว่าไม่สะดวกเจ็บคอ และกระแอมไอโชว์ผู้สื่อข่าวก่อนจะบอกว่ามีประชุมต่อ

# ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า  สส.พะเยา ในฐานะประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม เปิดเผยว่า ในสัปดาห์หน้าพรรคกล้าธรรม จะมีสมาชิกมาเพิ่มอีก จากพรรคฝ่ายค้านประกาศเข้ามาอยู่กับเรา โดยประกาศจุดยืนและมาร่วมกับพรรคกล้าธรรม โดยจะไม่ใช่สส. พรรคไทยสร้างไทย 5 คนที่เคยเป็นข่าว ซึ่งจะมากันเป็นกลุ่ม

ส่วนที่มีรายงานข่าวว่ารัฐบาลจะดึงพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มาร่วมรัฐบาล  ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ตนคือกล้าธรรม และกล้าธรรมก็มีครอบครัวของเราที่อบอุ่น อยู่กันแบบพี่น้อง ไม่มีนายมีบ่าวหรือลูกน้อง ดังนั้น พรรคไหนจะมาหรือไม่ เราไม่สนและไม่เกี่ยว อย่ามายุ่งกับพรรคเราก็แล้วกัน

# นายปริเยศ อังกูรกิตติ  โฆษกพรรคไทยสร้างไทย จากกรณีที่มีสื่อมวลชนบางสำนักนำเสนอข่าวการปรับคณะรัฐมนตรี จะมีสส.จากพรรคไทยสร้างไทยจะไปร่วมสนับสนุนรัฐบาล และมีผู้แทนบางรายได้รับการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี นั้น 

พรรคยังคงยืนหยัดทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างชัดเจน และพรรคไม่เคยมีการตกลงหรือเจรจาเพื่อเข้าร่วมกับฝ่ายบริหารตามที่มีสื่อมวลชนมีการกล่าวอ้าง พร้อมขอให้ทุกฝ่ายที่นำชื่อของพรรคไปใช้ในการนำเสนอข่าว สำหรับ สส. ที่ฝ่าฝืนมติพรรคเพื่อผลประโยชน์ใด ๆ อาจถือเป็นการกระทำการขัดต่อบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ พรรคไทยสร้างไทยจะรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐาน เพื่อส่งเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายต่อไป