HFT ผู้นำตลาดยางรถจักรยาน-มอเตอร์ไซค์ ลุยสร้างแบรนด์ครองใจผู้ใช้ทั่วโลก

จากรากฐานที่แข็งแกร่งของบริษัทแม่ "Hwa Fong Rubber Industries (HFR)" ซึ่งเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ประเทศไต้หวัน สู่การพัฒนาโรงงานผลิตยางนอกและยางในรถจักรยานและรถจักรยานยนต์ ในประเทศไทยกว่า 30 ปี บริษัท ฮั้วฟงรับเบอร์ (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ HFT ได้พิสูจน์ให้เห็นถึงศักยภาพของผู้ประกอบการไทยในการผสานนวัตกรรม เทคโนโลยี และมาตรฐานสากลไว้ด้วยกันอย่างลงตัว จนกลายเป็นหนึ่งในผู้ผลิตยาง OEM ให้กับแบรนด์ดังระดับโลก และครองใจผู้ใช้ทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างเหนียวแน่น สามารถยืนหยัดเป็นผู้นำในระดับสากลได้อย่างแข็งแกร่ง พร้อมมุ่งเสริมสร้างภาพลักษณ์แบรนด์สินค้า Duro ให้เป็นที่รู้จัก เพื่อยกระดับมูลค่าและความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก

ผู้ผลิตยางรถจักรยานและรถจักรยานยนต์ครบวงจร

HFT ดำเนินธุรกิจหลักในการผลิตและจำหน่ายยางนอก-ยางในสำหรับรถจักรยานและรถจักรยานยนต์ ครอบคลุมตั้งแต่กลุ่มผู้ใช้ทั่วไปในประเทศ ไปจนถึงตลาดส่งออกทั่วโลก โดยมีผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภท ได้แก่ 1. ยางนอกและยางในรถจักรยานยนต์ (Motorcycle tires & tubes) มีสัดส่วนการขาย 64% 2.ยางนอกและยางในรถจักรยาน (Bicycle tires & tubes) มีสัดส่วนการขาย 31% และ 3. อื่นๆ อาทิ ยางรถอุตสาหกรรม รถขนาดเล็ก มีสัดส่วนการขาย 5% ภายใต้แบรนด์ DURO, Quick และ Dunlop รวมถึงผลิตสินค้าให้กับแบรนด์นานาชาติในลักษณะ OEM ให้กับแบรนด์ชั้นนำระดับโลกต่างๆ

กระจายตลาดครอบคลุมทั่วโลก

หนึ่งในจุดแข็งที่สำคัญของบริษัทฯ คือความสามารถในการกระจายตลาดครอบคลุมหลายภูมิภาคทั่วโลก โดยมีสัดส่วนรายได้จากการขาย แบ่งออกเป็น 1. ประเทศไทย 34% ซึ่งเป็นฐานรายได้สำคัญ โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้า OEM ยางในและยางนอกรถจักรยานยนต์ที่มีความต้องการอย่างต่อเนื่อง 2. ยุโรป 30% ถือเป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับหนึ่ง โดยกลุ่มลูกค้าคือ ฝรั่งเศส และ อิตาลี ซึ่งเน้นการส่งออกยางนอกและยางในสำหรับรถจักรยานเป็นหลัก สอดคล้องกับเทรนด์การใช้จักรยานเพื่อสุขภาพและลดคาร์บอนในยุโรป 3. เอเชีย 25% โดยตลาดหลักอยู่ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น พม่า กัมพูชา ลาว มาเลเซีย และฟิลิปปินส์ โดยมีสินค้าหลักคือ ยางนอกและยางในรถจักรยานยนต์ ซึ่งในภูมิภาคนี้นิยมใช้รถจักรยานยนต์เป็นพาหนะหลัก 4. อเมริกา 10% ส่วนใหญ่เป็นการผลิตในรูปแบบ OEM ยางล้อรถ ATV และรถกอล์ฟ และ 5. โซนตะวันออกกลาง 1% ถึงแม้ว่าจะมีสัดส่วนไม่มากนัก แต่คาดว่าจะสามารถขยายเข้าสู่ตลาดในภูมิภาคตะวันออกกลางได้มากขึ้นในอนาคต

รับมือภาษีทรัมป์

ตามที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำหนดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากไทยสูงถึง 37% ซึ่งมาตรการดังกล่าวส่งผลกระทบต่อ HFT ไม่มากนัก เนื่องจากกลุ่มลูกค้าส่งออกของบริษัทฯ อยู่ในทวีปยุโรปเป็นหลัก แต่อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังคงติดตามความเคลื่อนไหวของสถานการณ์อย่างใกล้ชิด พร้อมเดินหน้าแผนขยายตลาดยางรถกอล์ฟและยางรถเอทีวีในสหรัฐอเมริกาตามเดิม

ส่งเสริมสิ่งแวดล้อม สร้างการเติบโตยั่งยืน

บริษัทฯ เดินหน้าพัฒนาอย่างต่อเนื่องด้วยวิสัยทัศน์ด้าน ESG (สิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล) โดยบริษัทฯ ลงทุนติดตั้งโซลาร์รูฟทั้ง 2 โรงงาน เพื่อลดการใช้พลังงานจากไฟฟ้า เตรียมติดตั้ง Biomass Boiler โรงงานที่ 2 เพื่อลดก๊าซเรือนกระจกได้ประมาณ 6,500 ตันคาร์บอนไดออกไซด์ ทั้งนี้บริษัทฯ ได้รับใบรับรองพลังงานหมุนเวียน (I-REC) เพื่อเป็นองค์กรที่ใช้พลังงานสะอาด 100% และเข้าร่วมเป็นสมาชิกสมาคมพลังงานหมุนเวียนไทย (กลุ่ม RE100) ซึ่งตอกย้ำให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการใช้พลังงานทางเลือกที่ยั่งยืน

นอกจากนี้บริษัทฯ ยังเดินหน้าลงทุนเทคโนโลยีใหม่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตและลดต้นทุนแรงงาน ซึ่งการลงทุนในครั้งนี้จะช่วยลดต้นทุนในระยะยาว และสร้างความน่าเชื่อถือในสายตาคู่ค้าต่างประเทศที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

ก้าวสู่ผู้นำระดับโลก

บริษัทฯ ตั้งเป้าก้าวสู่การเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการผลิตยางล้อเฉพาะทางระดับโลก โดยเตรียมขยายสายการผลิตเพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นของตลาดจักรยานไฟฟ้าและจักรยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว พร้อมเดินหน้าวิจัยและพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ยางล้ออย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการเสริมสร้างภาพลักษณ์แบรนด์สินค้า Duro ให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง เพื่อยกระดับมูลค่าและความสามารถในการแข่งขันในตลาดโลก