“พิชัย” โต้ฝ่ายค้าน “สหรัฐฯ หรือ ไทย” เลื่อนเจรจาภาษี ไม่ใช่ประเด็น ย้ำต้องดูจังหวะเวลาที่เหมาะสม ยอมรับปัจจัยสำคัญ รอดูท่าที “สหรัฐฯ-จีน” ให้คู่ค้ารายใหญ่คุยกันรู้เรื่องก่อน พร้อมภาวนาให้คลื่นเล็กลง ให้ไทยทำงานขึ้น
วันที่ 25 เมษายน 2568 นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังกล่าวถึงกรณีที่ฝ่ายค้านตั้งข้อสงสัยว่า ความจริงแล้วสหรัฐอเมริกาเลื่อนการเจรจา หรือไม่ได้มีการนัดตั้งแต่แรกว่า กรณีนี้จะเป็นกรณีไทยเลื่อน หรือสหรัฐฯ เลื่อนไม่ใช่ประเด็น แต่อยู่ที่ว่า เวลาที่เหมาะสมคือ คำตอบ เพราะถ้าเวลาไม่เหมาะสมไทยก็อยากขอเลื่อน เพราะจริงๆแล้ว ถ้าถามตนเองวันนี้ก็ต้องดูเวลาโอกาสที่เหมาะสมคือ ข้อที่หนึ่งไทยไม่ได้เป็นประเทศคู่ค้าที่ใหญ่ อยู่ใน 10 อันดับแรก แม้ว่า ไทยจะได้เปรียบดุลการค้า แต่การเจรจาใดๆจะมีกรอบของการเจรจา ซึ่งต้องเดินตามกรอบของรายใหญ่ ดังนั้นถ้าไทยรู้ว่า คู่ค้ารายใหญ่ ตกลงกันได้อย่างไร ไทยก็ต้องหันมาปรับ เพื่อให้เข้ากัน ดังนั้นต้องรอจังหวะเวลา
ส่วนตัวดีใจที่ไทยไม่รีบไปยืนอยู่บนข้างล่าง เพราะ อย่างไรก็ต้องคุยเรื่องกรอบใหญ่ให้ได้ข้อยุติก่อน ส่วนข้อสองคิดว่า เมื่อมีการดำเนินการไปแล้ว พบว่า มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นตลอดเวลาระหว่างเกิดการเจรจา ทั้งที่ทราบข่าวอย่างเป็นทางการและไม่เป็นทางการก็พบว่า มีการขอพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องมาตรการอัตราภาษี และมาตรการทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี
นอกจากนี้ได้พูดอยู่เสมอว่า เงื่อนไขทางการค้าที่เปลี่ยนไป นำมาซึ่งเงื่อนไขทางเศรษฐกิจ และการที่เปลี่ยนไป วันนี้เงื่อนไขการเมืองที่เปลี่ยนไปส่งผลกระทบต่อทุกคน ดังนั้นการพูดคุยอาจจะต้องมีเรื่องนี้ที่จะต้องประกอบกับเงื่อนไขทางการค้าด้วย ดังนั้นแอบดีใจที่ไทยแอบคิดไว้ก่อน ซึ่งได้ทราบว่า มีการพูดคุย และสอบถาม เรื่องเหล่านี้ และก็ต้องมีการเตรียมการ ในเรื่องเงื่อนไขทางการเงินควรจะดำเนินการอย่างไร โดยเฉพาะค่าของเงินอัตราดอกเบี้ย และอีกหลายอย่างที่เกี่ยวข้อง ซึ่งไทยก็ต้องเตรียมไว้โดย แต่ละประเทศไม่เหมือนกัน มีเงื่อนไขทางการเงินที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นตัวเองคิดว่า ใครจะเลื่อนหรือไม่เลื่อน ต้องรอดูจังหวะเวลา และวันนี้ไทยก็ต้องดูว่า เตรียมข้อมูลครบถ้วนแล้วหรือไม่ ถ้าทางสหรัฐฯ ได้กรอบแล้ว และอยากพูดคุยกับไทย มีการส่งสัญญาณมา และไทยเห็นว่า กรอบการพูดคุยครบแล้ว แล้วเดินทางไป ซึ่งส่วนตัวคิดว่า ทั้งหมดนี้มีเป็น 100 ประเทศ สุดท้ายแล้วก็จะถูกแยกออกเป็นสองประเภท
เมื่อถามว่าปัจจัยหนึ่งต้องดูท่าทีการพูดคุยระหว่างสหรัฐฯ และจีนเป็นสำคัญใช่หรือไม่ นายพิชัยกล่าวว่า เป็นเงื่อนไขที่สำคัญ ซึ่งตนเฝ้าจับตาเงื่อนไขนี้มาโดยตลอด และเห็นพัฒนาการไปในทางที่ไทยคาดเดาไว้แล้วว่าจะมาทางนี้ ซึ่งเฝ้าดูอยู่ และภาวนาหวังว่า จะพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นแล้วคลื่น ลูกนี้จะเล็กลง และไทยจะทำงานได้ง่ายขึ้น และเรื่องนี้จำเป็นมากๆที่ต้องดูควบคู่กันไป
เมื่อถามว่า หาก กนง.ลดอัตราดอกเบี้ยลง ส่งผลต่อการเจรจาในครั้งนี้หรือไม่ นายพิชัยกล่าวว่า หากอ่านเงื่อนไขให้ดีจากรัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เรื่องนี้เป็นกติกาที่วางไว้ตั้งนานแล้วเวลาจะดำเนินการใด สหรัฐฯ ไม่อยากเห็นการแทรกแซงค่าเงิน ดังนั้นเมื่อพูดถึงอัตราดอกเบี้ยจะมีผลต่อเรื่องค่าของเงิน ดังนั้นมองว่า ไม่ควรที่จะพูดเป็นหน้าที่ของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ได้มองเห็นทุกอย่างทั้ง ปริมาณเงินที่อยู่ในเมืองไทย เห็นสถานการณ์การค้า เห็นสภาพเศรษฐกิจ และสภาพคล่องต่าง ๆ ซึ่งก็ต้องนำกลับไปคิดว่า จะทำอย่างไร