วันที่ 25 เมษายน 2568 เมื่อเวลา 22.35 น. ของ วันที่ 24 เมษายน ตำรวจสถานีตำรวจทางหลวง1 กก.8 บก.ทล.(ตร.ทางหลวงอ่อนนุช) ได้รับแจ้งมีอุบัติเหตุ รถบรรทุกเทรลเลอร์ชนกัน 2 คันและรถเอสยูวี บนถนนมอเตอร์เวย์(7) หลัก กม.ที่ 23 +4000 มุ่งหน้าชลบุรี จึงเข้าตรวจสอบพร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยทางหลวงและอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เกิดเหตุอยู่ช่องจราจรซ้ายสุดของจุดพักรถชั่วคราว พบรถบรรทุกเทรลเลอร์ทะเบียนชลบุรี ลักษณะบรรทุกยางมะตอยแต่เป็นรถเปล่า พุ่งชนท้ายรถเอสยูวีสีขาว ทะเบียนอุดรธานี ถูกอัดพังยับเยิน ภายในรถพบผู้เสียชีวิต 8 ราย กู้ภัยต้องใช้เครื่องอุปกรณ์ตัดถ่างหลายชุด งัดซากรถ นำร่างผู้เสียชีวิตออกมา เด็กเล็กหญิง 2 ราย เด็กชาย 1 ราย ผู้ใหญ่เพศหญิง 4 ราย ผู้ใหญ่เพศชาย 1 ราย เป็นคนขับรถ นำส่งพิสูจน์สถาบันนิติเวชโรงพยาบาล รามา สมุทรปราการ ส่วนอีก 2 คน เป็นหญิงได้รับบาดเจ็บ กระเด็นออกมาจากรถ กู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9
นอกจากนี้ยังพบรถบรรทุกเทรลเลอร์อีก 1 คัน ที่จอดอยู่สีขาว ทะเบียนชุมพร บรรจุน้ำมันดิบ เสียหายบริเวณท้าย สอบถามนายกวางแก้ว อายุ 51 ปี คนขับรถบรรทุกน้ำมันดิบบอกว่ามาจากชุมพร จะไปส่งน้ำมันดิบที่จังหวัดปราจีนบุรี จากนั้นได้จอดรถพักบริเวณจุดพักรถดังกล่าว ได้ไม่นานก็ได้ยินเสียงดังขึ้น จึงพบว่ามีรถมาชนท้ายและยังบอกว่าตอนจอดรถไม่เห็นรถเอสยูวีคันดังกล่าวจอดอยู่ท้ายรถของตน
ส่วนคนขับรถบรรทุกคันต้นเหตุทราบชื่อ นายเสน่ห์ อายุ 62 ปี ได้รับบาดเจ็บทางกู้ภัยนำส่ง โรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 เจ้าหน้าที่ตำรวจจะ ไปตรวจสอบวัดแอลกอฮอล์ผู้ขับขี่รถบรรทุกเทรลเลอร์คันต้นเหตุ และนำตัวมาสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อหาสาเหตุการเกิดเหตุครั้งนี้
พ.ต.อ.กึกก้อง ดีศวัฒน์ ผู้กำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ระบุว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น รถเก๋งคันนี้โดยสารมาทั้งหมด 10 คนมาจากกรุงเทพมหานครกำลังมุ่งหน้าไปหาญาติที่จังหวัดระยอง เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุมีรถบรรทุกจอดอยู่ด้านหน้าในช่องทางฉุกเฉินหรือจุดพักรถชั่วคราวอยู่ก่อนหนึ่งคันคนขับจึงได้จอดรถต่อท้ายเพื่อให้คนในรถลงมาหยิบแพมเพิสมาเปลี่ยนให้เด็กบนรถ ต่อมาได้มีรถบรรทุกอีกหนึ่งคันวิ่งเข้ามาในช่องทางฉุกเฉินและพุ่งชนท้ายเข้ากับรถคันเกิดเหตุอย่างรุนแรง จนทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากดังกล่าว ซึ่งขนาดนี้สามารถติดต่อทางครอบได้แล้วอยู่ระหว่างเดินทางมายังโรงพยาบาล ส่วนรายละเอียดทางด้านพนักงานสอบสวนจะได้เข้าสอบปากคำคนขับและผู้บาดเจ็บอีกครั้งพร้อมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้
