วันที่ 25 เม.ย.68 ที่ศาลาว่าการ กทม. นางสาวพิศมัย เรืองศิลป์ ผู้อำนวยการสำนักการศึกษา เปิดเผยแนวทางจัด 'ห้องหลบร้อน' BKK Cooling Center ให้แก่นักเรียนภายในโรงเรียนว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยา มีประกาศลงวันที่ 28 ก.พ. ที่ผ่านมา ประเทศไทยได้สิ้นสุดฤดูหนาวและเข้าสู่ฤดูร้อนตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ.68 เป็นต้นมา โดยโรคลมแดด หรือ Heat Stroke เป็นภัยร้ายในฤดูร้อนที่เกิดขึ้นทุกปีและทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศโลก ส่งผลต่อสุขภาพกายและสุขภาพจิตของนักเรียน พ่อแม่ผู้ปกครองในชุมชนโดยรอบโรงเรียนที่มีการตั้งบ้านเรือนและที่อยู่อาศัยโดยรอบจำนวนมาก
ผู้บริหาร กทม. ได้มีความห่วงใยในสุขภาพกายและสุขภาพจิต ตลอดจนสวัสดิภาพและความปลอดภัยของนักเรียน ซึ่งอาจได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นและอากาศที่ร้อนอบอ้าวกว่าปกติ จึงขอความร่วมมือโรงเรียนในสังกัด กทม.พิจารณาการใช้ห้อง Safe Zone ที่มีอยู่เดิมและเคยเปิดให้บริการแก่นักเรียน ผู้ปกครองและชุมชนในสถานการณ์วิกฤตฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM/s เปิดเป็นห้อง Cooling Center เพื่อให้บริการแก่นักเรียน พ่อแม่ผู้ปกครองและพี่น้องประชาชนในชุมชนรายรอบโรงเรียน ในระหว่างปิดภาคเรียนซึ่งอยู่ในช่วงฤดูร้อนโดยเฉพาะการเปิดให้บริการในช่วงเวลาเที่ยงของวันซึ่งอุณหภูมิความร้อนจะเพิ่มขึ้นสูงมาก ทั้งนี้ การพิจารณาเปิดให้บริการเป็นไปตามสถานการณ์ ความเหมาะสมและสภาพบริบทของสถานศึกษา
นางสาวพิศมัย กล่าวว่า กทม.โดยสำนักการศึกษา จึงดำเนินการเปิด 'ห้องหลบร้อน' BKK Cooling Center ให้แก่นักเรียนภายในโรงเรียน ปัจจุบันดำเนินการไปแล้ว จำนวน 51 โรงเรียน ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยการจัดห้องไว้สำหรับบริการตู้กดน้ำดื่ม และประชาสัมพันธ์ให้มีการพกแก้วน้ำดื่มส่วนตัวมาด้วย รวมถึงภายในห้องมีการเปิดเครื่องปรับอากาศเต็มเวลาในการบริการ หรือเปิดเครื่องปรับอากาศสลับกับพัดลมทุกหนึ่งชั่วโมง และมีการจัดบอร์ดหรือป้ายนิเทศให้ความรู้ในการดูแลสุขภาพกายและสุขภาพจิตในช่วงฤดูร้อน พร้อมบริการมุมอ่านหนังสือคลายร้อน เพื่อป้องกันโรคลมแดด (Heat Stroke) ช่วงอากาศร้อนจัด โดยจะเปิดให้บริการตลอดเดือน เม.ย.นี้
ด้านการจัดทำห้องเรียนปลอดฝุ่นชั้นอนุบาล ตามมาตรฐานห้องปลอดฝุ่นรูปแบบ 2 กระทรวงสาธารณสุข โดยมีกลุ่มเป้าหมายนักเรียนระดับชั้นอนุบาล 1 - 3 จำนวน 42,954 คน อายุระหว่าง 3 - 5 ขวบ ปี 2567 ได้ปรับปรุงห้องเรียนเป็นระบบปิดโดยการกรุช่องเปิดไปแล้ว 744 ห้อง พร้อมติดตั้งเครื่องปรับอากาศ 744 เครื่อง รวมถึง จะมีการจัดหาและติดตั้งเครื่องฟอกอากาศจำนวน 1,734 เครื่อง โดยติดตั้งในห้องปลอดฝุ่น 744 เครื่อง ส่วนที่เหลือจะติดตั้งในห้องประเภทชั่วคราว โดย กทม.มีโรงเรียนที่มีชั้นอนุบาลในสังกัด 429 แห่ง จำนวน 1,966 ห้อง ในปี 2568 ตั้งเป้าเพิ่มห้องเรียนปลอดฝุ่น 1,222 ห้อง ปัจจุบันอยู่ระหว่างดำเนินการ