วันที่ 24 เม.ย.68 นายมานะ นิมิตรมงคล ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) โพสต์บทความเรื่อง ตึก สตง.ถล่ม: ภาพสะท้อนวงจรคอร์รัปชันในงานก่อสร้างภาครัฐ ผ่านเพจเฟซบุ๊ก องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน ระบุว่า...

ตึก สตง. ถล่ม: ภาพสะท้อนวงจรคอร์รัปชันในงานก่อสร้างภาครัฐ

งานก่อสร้างภาครัฐมูลค่า 7.8 แสนล้านบาทต่อปี[1] ประเมินว่าถูกคอร์รัปชันไปราว 2 แสนล้านบาท ผ่านการล็อกสเปก ฮั้วประมูล ลดงาน ลดคุณภาพวัสดุและอีกสารพัดกลโกง ทั้ง 2.3 แสนโครงการ[2] ที่รัฐลงทุนไปนั้นล้วนตกอยู่ในวงจรคอร์รัปชันแทบไม่ต่างกัน

บทความนี้จะอธิบายถึง “ตัวละคร” ที่เกาะกินวงการก่อสร้างภาครัฐ จนหลายโครงการสร้างไม่เสร็จ หรือปล่อยทิ้งร้าง ไม่ต่างจากอาคาร สตง. ที่ถล่มลงมา ดังนี้

1. บริษัทออกแบบ

มีรายได้จากค่าจ้างออกแบบ และโดยทั่วไปเขายังเป็นผู้กำหนดสเปกสินค้าเป็นการเฉพาะอย่าง ทั้งวัสดุก่อสร้าง - ตกแต่ง อุปกรณ์เครื่องใช้ ฯลฯ ทำให้ได้ค่าตอบแทนหรือคอมมิชชั่นจากผู้จำหน่ายสินค้าเหล่านั้น เช่น ผนังอาคารกระจก (Curtain Wall) มูลค่างานนับร้อยล้าน งานประตูหน้าต่าง เฟอร์นิเจอร์ อุปกรณ์แสงเสียง และวัสดุงานระบบต่างๆ เป็นต้น

การคัดเลือกบริษัทออกแบบโดยทั่วไปใช้วิธีประกวดแบบ จึงมักต้องวิ่งเต้นผู้มีอำนาจในหน่วยงาน โดยจ่ายเป็นเงินใต้โต๊ะ หรือยอมทำตามความต้องการของผู้มีอำนาจ เช่น เขียนเงื่อนไขล็อคสเปกให้ได้ผู้รับเหมาก่อสร้างที่ผู้มีอำนาจต้องการ หรือประเมินราคากลางสูงเกินจริง 20 – 30% เพื่อนำมาเป็นเงินทอน หรือวางสเปกสินค้าราคาแพงบางอย่างจากผู้จำหน่ายที่เจาะจงไว้

2. บริษัทที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้าง

นอกจากได้ค่าจ้างตามสัญญาแล้ว ยังมีรายได้เพิ่มจากเบี้ยเลี้ยง/ค่าโอที ที่การเรียกเก็บจากบรรดาผู้รับเหมาในโครงการ บริษัทควบคุมงานฯ ที่ไม่ซื่อสัตย์ จะลดจำนวนวิศวกรหรือเจ้าหน้าที่คุมงานจริง ลดการเก็บวัสดุก่อสร้างไปทดสอบคุณสมบัติให้น้อยครั้งกว่าที่กำหนดในสัญญาจ้าง บางรายใจกล้ามากก็สมรู้ร่วมคิดกับผู้รับเหมายอมให้ลดงาน ลดสเปก

โดยทั่วไปพบว่า บริษัทออกแบบมักเป็นพวกเดียวกันกับบริษัทควบคุมงาน

3. บริษัทรับเหมาก่อสร้าง

ผู้รับเหมามีทั้งที่ชนะการประมูลงานโดยสุจริตและพวกที่ล็อกสเปก/ฮั้วประมูลเข้ามา ผู้รับเหมาที่ดีจะทำกำไรจากความสามารถในการบริหารจัดการก่อสร้าง

ส่วนผู้รับเหมาที่คดโกงจะกอบโกยจากผลพวงการฮั้วประมูลที่กำหนดราคากลางไว้สูงมาก ทำกำไรเพิ่มจากการลดสเปก ลดคุณภาพงาน รวมทั้งวิ่งเต้นให้มีการแก้แบบ ลดปริมาณงาน เพิ่มงาน หรือยกเลิกงานบางส่วนแล้วออกแบบใหม่ หากงานส่วนนั้นตนได้กำไรน้อยหรือขาดทุน

4. ผู้บริหารระดับสูงของหน่วยราชการนั้นเอง

หากผู้บริหารระดับสูงต้องการมีผลประโยชน์จากงานก่อสร้าง จะเริ่มจากบงการการกำหนดรูปแบบโครงการ แต่หากโครงการเดินหน้าไปแล้วก็อาจสั่งเปลี่ยนแปลง โยกย้ายสถานที่ เพื่อให้มีการแก้ไขหรือเขียนโครงการใหม่ส่งผลให้เรื่องกลับมาอยู่ในเกมอำนาจของตน

เมื่อเริ่มโครงการก็จะแอบชักใยอยู่เบื้องหลัง ยืมมือผู้ออกแบบ ผู้ควบคุมงาน และผู้รับเหมา เพื่อคอร์รัปชันในโครงการ ซึ่งกรณีนี้เป็นกรณีที่อันตรายที่สุดและทำให้ราชการเสียประโยชน์มากที่สุด โดยเฉพาะเมื่อพวกเขายอมให้เอกชนเขียนเงื่อนไขสัญญาที่รัฐเสียเสียเปรียบหรือต้องจ่ายค่าโง่ในอนาคต

5. เจ้าหน้าที่ในหน่วยงาน

โดยปรกติหน่วยงานเจ้าของโครงการจะแต่งตั้ง “คณะกรรมการตรวจการจ้าง” บางกรณีมีเจ้าหน้าที่ควบคุมงานประจำโครงการ คนเหล่านี้คือตัวแทนของหน่วยงานในการรักษาผลประโยชน์ แต่บ่อยครั้งที่พวกเขากลับไปรีดไถผู้รับเหมาเป็นเงินก้อน พาไปเลี้ยงอาหารเที่ยวสถานบันเทิง จ่ายค่าเดินทาง ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าตรวจงาน ฯลฯ

สินบนที่กล่าวมาคือต้นทุนการก่อสร้างที่ผู้รับเหมารู้อยู่แล้วว่าต้องจ่าย แลกกับความสะดวกหรือสมคบคิดกันทำสิ่งไม่ถูกต้องบางอย่าง แต่หากเป็นโครงการที่มีกำไรน้อย ผู้รับเหมาอาจตกในภาวะจำยอมหรือต้องบ่ายเบี่ยง เป็นเหตุให้ถูกกลั่นแกล้งหรือดึงเรื่องเมื่อตรวจรับงาน ขอเบิกเงินค่างวด ผู้รับเหมาหลายรายทนการรีดไถไม่ไหวอาจถึงขั้นต้องทิ้งงาน

บทสรุป..

นอกจากที่กล่าวมา หลายโครงการยังต้องเผชิญการชักเปอร์เซ็นต์จาก “นายหน้าขายงาน” และ “ขบวนการจัดฮั้วประมูล”

โดยรวมทิศทางการพัฒนาการใช้จ่ายของรัฐ กระบวนการจัดทำงบประมาณ การจัดซื้อจัดจ้างฯ และการติดตามประเมินความคุ้มค่า ยังมีข้อจำกัดมาก สิ่งที่ต้องเร่งปรับปรุงคือ

1. เร่งรื้อระบบจัดซื้อจัดจ้างฯ ให้มีกติกาเปิดกว้าง จูงใจให้เอกชนเข้าแข่งขันมากขึ้น สนับสนุนการแข่งขันเสรี เปิดให้รัฐมีทางเลือกมากขึ้น มีโอกาสเลือกผู้รับเหมาที่มีศักยภาพในการทำงานให้บรรลุเป้าหมายของรัฐมากกว่าเน้นราคาถูก ลงโทษเอกชนทุกรายที่ไม่ซื่อสัตย์ ทำให้รัฐเสียหาย ฯลฯ

2. เปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใส ให้ภาคประชาชนมีส่วนร่วมมากกว่าเดิม เริ่มจากการใช้ ‘ข้อตกลงคุณธรรม’ อย่างเข้มข้น จริงจัง

3. ใช้เทคโนโลยีเพิ่มประสิทธิภาพในการติดตาม ตรวจสอบ เช่น ระบบ GPS และ Ai เป็นต้น

นายมานะ นิมิตรมงคล

ประธานองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย)

24 เมษายน 2568

อ่านประกอบ: เมกะโปรเจค โกงกันอย่างไร https://www.thaipost.net/main/detail/36028#

อ้างอิง:

[1] “แนวโน้มธุรกิจ/อุตสาหกรรม ปี 2567-2569: ธุรกิจรับเหมาก่อสร้าง” โดย Puttachard Lunkam, วิจัยธนาคารกรุงศรีอยุธยา

[2] ผลการจัดซื้อจัดจ้างจำแนกประเภทการจัดซื้อฯ ประจำปี 2565, กรมบัญชีกลาง

#จัดซื้อจัดจ้าง #ก่อสร้างภาครัฐ #สตง #คอร์รัปชัน #หมาเฝ้าบ้าน #ต้องแฉ #ชมรมสตรอง