“ภูมิธรรม” ห่วง สถานการณ์ชายแดนใต้ หลังก่อเหตุรายวัน ขันน็อตฝ่ายความมั่นคง ปรับเปลี่ยนการทำงานเชิงรุก อย่ารอตั้งรับ “วันนอร์” บี้รัฐบาลเร่งลากคอคนร้ายก่อเหตุ ดักยิง “สามเณร” มรณภาพให้เร็วที่สุด เหน็บถ้าแก้ไขถูกทาง คงไม่เกิดเหตุแบบนี้ 

 เมื่อเวลา 10.10 น. วันที่ 23 เม.ย.68 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ภาคใต้ขณะนี้ว่า ตนห่วงใยสถานการณ์ และเห็นลักษณะการทำงานที่ถูกโจมตีเป็นรายวัน ซึ่งบางวันมีการก่อเหตุ 2-3 ครั้ง ในรอบ 4-5 วัน ที่ผ่านมา โดยจากสถานการณ์ดังกล่าวตนได้หารือกับ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ผ่านทางโทรศัพท์ เนื่องจากขณะนี้ติดภารกิจอยู่ที่ประเทศสิงคโปร์ว่า อยากให้มีการปรับเปลี่ยนการทำงานเป็นรูปแบบเชิงรุก และสร้างความมั่นใจให้กับประชาชน ไม่ใช่การตั้งรับเพียงอย่างเดียว นอกจากนี้ ยังได้พูดคุยกับ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ซึ่งอยากให้ ผบ.ทบ. และ ผบ.ตร. ได้ประสานงานกัน อีกทั้งเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมายังได้หารือกับ พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรส่วนหน้า ครอบคลุมโครงสร้างทั้งฝ่ายตำรวจภูธรภาค 9, ทหาร และกระทรวงมหาดไทย รวมถึงได้พูดคุยกับรองปลัดกระทรวงมหาดไทย ฝ่ายความมั่นคง รวมไปถึงเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ผ่านระบบซูม ซึ่งตนเองได้แสดงความห่วงใยและได้สั่งการว่า ต้องมีความเปลี่ยนแปลง ต้องยุติสถานการณ์ต่าง ๆ ให้ได้ ซึ่งได้ให้ไปวางแผนว่า จะมีมาตรการเชิงรุกอย่างไร

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีการรายงานเพิ่มเติมด้านการข่าวหรือไม่ ซึ่งนายภูมิธรรมปฏิเสธตอบคำถาม โดยระบุว่า หากพูดไป ฝ่ายตรงข้ามอาจจะรู้ เมื่อถามว่า มีโอกาสจะนำการทหารมานำการเมืองหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนไม่ได้บอกว่า จะให้ทำ แต่บอกว่า จะต้องสร้างความมั่นใจ ให้กับประชาชนที่เผชิญเหตุการณ์ไม่สงบ ไม่ใช่ว่า ไปยิงประชาชน หรือสามเณร เพราะเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ควรเกิดขึ้น และได้สั่งการให้ต้องระงับสถานการณ์ และทำหน้าที่ ใช้ยุทธการ ไม่ใช่นั่งอยู่กับที่ และให้ผู้ก่อเหตุเข้ามาเอง ต้องระงับยับยั้งสถานการณ์ให้จบโดยเร็ว อย่างไรก็ตามนโยบาย หากมีอะไรเกิดขึ้นสามารถรายงานตรงมาที่ตนเองได้ทันที

ด้าน นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร กล่าวว่า ตนขอประณามคนร้ายก่อเหตุความไม่สงบใช้อาวุธปืนลอบยิงรถกระบะ ขณะพระสงฆ์ และสามเณร วัดกุหร่า อ.สะบ้าย้อยจ.สงขลา ออกบิณฑบาต ส่งผลให้มีสามเณร มรณภาพ 1 รูป และบาดเจ็บ 1 รูป เพราะผู้ที่กระทำการที่ส่งผลกระทบต่อผู้ที่นับถือศาสนาต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นพุทธ อิสลามหรือคริสต์ ก็ล้วนแต่เป็นการกระทบจิตใจต่อผู้ที่นับถือศาสนาทั้งนั้น และเป็นเรื่องที่รัฐบาลรวมถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องจัดการอย่างรวดเร็ว ต้องจับกุมผู้ที่กระทำความผิดมาลงโทษให้ได้เพราะเรื่องศาสนาเป็นเรื่องที่กระทบต่อจิตใจของประชาชน ทั้งที่เขาไม่ได้เกี่ยวข้องอะไร จึงอยากให้เจ้าหน้าที่จับกุมผู้กระทำความผิดมาลงโทษให้ได้โดยเร็ว ประชาชนจะได้คลายความกังวลและความเข้าใจผิดต่างๆ จะได้ลดลง  

นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวต่อว่า การแก้ไขปัญหาไฟใต้ ขณะนี้การแก้ไขปัญหาอาจจะยังไม่ถูกจุดซะทีเดียว ต้องพยายามหาสาเหตุและแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ต้องทำอย่างครบวงจรให้ได้ ทั้งการศึกษา เศรษฐกิจ ความเป็นธรรมสังคม ต้องทำไปพร้อมกัน แม้ว่าเหตุการณ์จะเกิดขึ้นในสามจังหวัดชายแดนใต้ แต่ผลกระทบเกิดกับประเทศไทยทั้งประเทศ ทั้ง 77 จังหวัด ทั้งการท่องเที่ยว การลงทุนก็ล้วนได้รับผลกระทบทั้งหมด จึงอยากให้รัฐบาลให้ความสำคัญแก้ไขให้ลุล่วงสำเร็จ ให้ดีกว่านี้  

    
เมื่อถามถึงการแก้ไขปัญหาของรัฐบาล ขณะนี้ถือว่ามาถูกทางแล้วหรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า ถ้าถูกทางสถานการณ์คงไม่เกิดขึ้นแบบนี้ ฉะนั้นคงยังไม่ถูกทางทั้งหมด ต้องหาทางแก้ไข ส่วนตัวเพิ่งได้เจอกับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ซึ่งดูแลด้านความมั่นคง และศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ทราบว่าในวันที่ 26-27 เม.ย.นี้ จะลงพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ เพื่อรับฟังปัญหาและประเมินสถานการณ์เพื่อหาแนวทางแก้ไขให้ดียิ่งขึ้น