จากกรณีที่มีนักท่องเที่ยวเข้าไปโพสต์ข้อความในเพจดังของสวนผึ้งจากการเดินทางมาท่องเที่ยวที่ตลาดหินหล่น ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี แล้วพบว่าถูกเรียกเก็บค่าซุ้มแคร่ไม้เล็กๆถึงซุ้มละ 80 บาท ซึ่งถือว่าแพงมากแล้วยังมีการห้ามนำอาหารและเครื่องดื่มจากภายนอกเข้าไปรับประทานภายในตลาดด้วย หลังจากที่ได้โพสต์ข้อความไปแล้วได้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก รวมทั้งมีการแชร์ข้อความดังกล่าวออกไปด้วย สร้างความเสียหายต่อชื่อเสียของตลาดดังกล่าว
วันที่ 23 เม.ย. 68 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่ตลาดหินหล่น ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุพบว่า ตลาดดังกล่าวนั้นอยู่ติดกับลำธารธรรมชาติ บรรยากาศร่มรื่นเงียบสงบ น้ำในลำธารใส ซึ่งเป็นสถานที่เหมาะสำหรับเด็กๆจะมาเล่นน้ำคลายร้อน เนื่องจากลำธารนั้นไม่ลึก โดยพบนายสุรวุฒิ สุขการี ปลัดอำเภอหัวหน้ากลุ่มงานความมั่นคง อ.สวนผึ้ง ได้เข้าไปตรวจสอบที่ตลาดแห่งนี้ด้วย
จากการสอบถามนายดำรงค์ศักดิ์ จันทร์หล้า ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ต.สวนผึ้ง ซึ่งเป็นคณะกรรมการที่ดูแลตลาดหินหล่น ก็บอกว่าจากกรณีที่มีนักท่องเที่ยวไปโพสต์ว่ามาเที่ยวที่ตลาดหินหล่นแล้วถูกเรียกเก็บค่าซุ้มแคร่ไม้แพง ซึ่งในเรื่องนี้ทางคณะกรรมการก็ต้องขอโทษไปนักท่องเที่ยวที่เข้ามาเที่ยวแล้วเกิดเหตุการณ์แบบนี้ ส่วนของราคาซุ้มแคร่ไม้ ทางตลาดก็ไม่ได้นิ่งนอนใจและจะปรับปรุงและขอบคุณทุกๆความคิดเห็นที่ได้เสนอได้นำมาปรับปรุงให้ดีและหวังว่าตลาดหินหล่นนั้นจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและพักผ่อนหย่อนใจสำหรับนักท่องเที่ยวตลอดไป
ซึ่งการเรียกเก็บค่าซุ้มแคร่ไม้ในราคา 80 บาท นั้นทางคณะกรรมการก็มีการประชุมกันแล้วว่าจะงดเก็บในราคา 80 บาททั้งหมด และจะเก็บแค่ 20 บาท ทุกซุ้มเพื่อจะได้สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน และเป็นการลดภาระและค่าใช้จ่ายให้กับนักท่องเที่ยว โดยรายได้จากการเก็บค่าซุ้มแคร่ไม้นั้นก็จะนำไปบริหารจัดการเรื่องของการจัดเก็บขยะในพื้นที่ การจราจรที่จะต้องจ้างคนมาช่วยบริการ และเป็นค่าบำรุงรักษาในช่วงที่เกิดน้ำท่วมทุกปี รวมทั้งจะนำไปมอบให้กับผู้สูงอายุที่ช่วยจัดทำแคร่ไม้ให้ ซึ่งเป็นการจ้างผู้สูงอายุที่ว่างงานได้ทำแคร่
ส่วนเรื่องของการห้ามนำอาหารจากภายนอกเข้ามานั้นที่ผ่านมาก็มีการอนุญาติให้นำเข้ามา ทำให้พ่อค้าแม่ค้าภายในตลาดขายของไม่ได้ ท่องเที่ยวซื้อเข้ามานั่งรับประทานและเล่นน้ำไปด้วยทั้งวัน ไม่ได้อุดหนุนพ่อค้าแม่ค้าในตลาดเลย จึงได้ขอความร่วมมืออย่านำอาหารเข้ามาแต่หากซื้อมาแล้วยังทานไม่หมดก็สามารถที่จะนำเข้ามาได้ แต่ก็คงจะไม่ใช่ทั้งหมดหรือในปริมาณมาก ซึ่งนักท่องเที่ยวที่เข้ามาในตลาดหินหล่นนั้นก็จะมานั่งพักผ่อนริมลำธารเอาลูกหลานเข้ามาเล่นน้ำ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่คอยดูแลในเรื่องความปลอดภัยตลอดเวลาทั้งเรื่องของการเล่นน้ำและการจอดรถด้านบน และหวังว่าตลาดหินหล่นจะยังเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวจะเลือกเข้ามาพักผ่อนหย่อนใจได้
ขณะที่บรรดาแม่ค้าหลายคนก็สะท้อนให้ฟังว่า นักท่องเที่ยวที่เข้ามานั้นมีหลายประเภท ซึ่งมีทั้งมากลุ่มเล็ก กลุ่มใหญ่ มาแบบครอบครัว และส่วนใหญ่จะเลือกซุ้มแคร่ไม้ใหญ่ๆเพราะมากันหลายคนนั่งสบาย แต่พ่อค้าแม่ค้าก็จะบอกกับนักท่องเที่ยวทุกคนถึงราคาแต่ละซุ้ม ซึ่งก็อาจจะเกิดความสับสนได้ แต่หลังจากนี้ไปคณะกรรมการจะให้เก็บค่าซุ้มเท่ากันหมดก็เป็นเรื่องที่ดี แต่เรื่องของอาหารนั้นก็อยากจะให้เห็นใจพ่อค้า แม่ค้าบ้างเพราะช่วงที่จะขายของได้คือช่วงวันหยุดหรือช่วงเทศกาล แต่ในวันอื่นๆนั้นบางวันขายของแทบไม่ได้เพราะไม่มีนักท่องเที่ยวจึงอยากให้นักท่องเที่ยวได้ช่วยอุดหนุนบ้างเพราะทุกคนในตลาดแห่งนี้เป็นชาวบ้านในชุมชนทั้งหมด