กรณีเพจอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน part 6 โพสต์ภาพ และข้อความว่าคุณยายอายุ 93 ปี โดนน้องชายและหลานเขยหลอกให้เซ็นเอกสารฉบับหนึ่ง ต่อมามีการติดป้ายขายที่ 4 ไร่ ซึ่งเป็นที่ที่ยายพักอาศัยอยู่ ยายตกใจมากหวั่นไม่มีที่อยู่ จึงร้องขอความเป็นธรรม

รายการ โหนกระแส วันที่ 23 เม.ย. ดำเนินรายการโดย “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 12.35 น. ทางช่อง 3 กดหมายเลข 33 ได้สัมภาษณ์ ยายใบ ยายที่ร้องขอความเป็นธรรม , เอก หลานยายใบ, ทนายกบ ธนกฤต สิทธิราช ทนายคนกลาง, ป้าน้อย ลูกสาวยายใบ  อีกฝั่ง ตาปทุม น้องชายยายใบ , ธรรม หลานเขย, ป้าสะเทิ้น เมียตาปทุม

ยายอายุเท่าไหร่?

ยายใบ : 92 ย่าง 93 ปี

ถามอะไรยายตอบได้หมดเลย ตาอายุเท่าไหร่?

ตาปทุม : 85 ปี

กับพี่สาวรักกันมา แต่วันนี้ทะเลาะกัน?

ตาปทุม : ไม่ทะเลาะ

ทะเลาะมั้ย?

ยายใบ : ไม่ทะเลาะ แต่เขาจะขายที่ เราไม่มีที่อยู่ จะขอที่อยู่ อยู่บ้านเดิมที่อยู่เนี่ย และมีทางออกด้วย ขอแค่นั้นเอง

ฟังทีละมุม เรื่องราวเกิดอะไรขึ้น?

ยายใบ : พ่อแม่มีที่นาประมาณ 40 ไร่ ลูก 7 คน แบ่งคนละ 5 ไร่ ส่วนที่เหลืออีก 5 ไร่เป็นส่วนพ่อส่วนแม่ เขาก็ขายให้น้องคนเล็กเป็น 10 ไร่ตอนนี้

อีก 5 ไร่ให้ใคร?

ยายใบ : พ่อแม่ขายให้นายปทุม 5 ไร่ ก็เป็น 10 ไร่

ยายมายได้กี่ไร่?

ยายใบ : 10 ไร่ เพราะที่เหลือเท่านั้น เขาไม่อยากจะแบ่ง

เอก : ยายมายป่วยเป็นโรคพิการทางสมอง

ที่ยาย 5 ไร่ยังอยู่มั้ย?

ยายใบ : ฉันก็ขายไปแล้วและซื้อที่บ้านแบ่งให้ลูก

ยายอยู่ไหน?

ยายใบ : อยู่ในที่ยายมาย 10 ไร่ อยู่มาตั้งแต่อ้อนออก ปลูกบ้านแยกกันอยู่

ที่แปลงนี้ถูกแบ่งขายมั้ย?

ยายใบ : ไม่ได้ขาย มันอยู่เฉย แต่นายปทุม บอกว่ายายเอาที่ 5 ไร่ไปขาย เอาเงินไปใช้หมดเลย แล้วยายใบก็เอาเงินไปใช้หมดเลย

เอก : ที่ 10 ไร่ไม่ถึง 10 ไร่ดี เขาพูดว่าที่อาศัยอยู่มีที่ 4 ไร่ ที่ตาปทุมพูดไปคือขายไป 5 ไร่ ไม่เต็ม 10 ไร่ดีครับ

เอกเล่าเองซิ?

เอก : ที่ยายมาย มี 9 ไร่ หายไป 5 ไร่ แต่เขาให้สัมภาษณ์ในช่องนึงว่ายายขายเอาไปกิน แต่ยายไม่ได้ขาย เป็นอีกคนที่ขาย คือพี่สาวของยายที่เสียชีวิตไปแล้ว

ที่แปลงนี้เลยเหลือ 4 ไร่ เป็นชื่อของใคร?

เอก : ยายมายครับ

ตอนนี้ใครอยู่ที่แปลงนั้น?

เอก : มีแค่ยายใบครับ ยายอยู่ในที่ 4 ไร่มาตั้งแต่เกิดเลยครับ 93 ปีแล้วครับ

แล้วเกิดอะไรขึ้น?

เอก : ที่อาศัยอยู่ มีป้ายมาติดที่หน้าบ้านยาย บอกว่าขายที่ตรงนี้ จำนวน 4 ไร่

ที่แปลงนี้อดีตเป็นของพ่อแม่ แม่แบ่งให้ทุกคน ยายมายได้ไป 9 ไร่ พี่สาวเอาที่ยายมายไปขาย 5 ไร่?

เอก : ใช่ครับ แต่ตรงที่แบ่งไม่ใช่ที่อยู่อาศัย เป็นการแบ่งที่นา ที่มรดก อันนี้คือที่อยู่อาศัยกัน

ใครมาติดป้าย?

ยายใบ : นายปทุมกับลูกสะใภ้ ภรรยานายบุญธรรม

ยายรู้สึกไม่เป็นธรรมยังไง?

ยายใบ :   บอกว่าจะแบ่งให้งานนึง พูดมาทีนึงแล้วนะ ไม่ใช่พูดคนเดียวกับยาย พูดกับหลานเขยด้วย หลานสาวด้วย มาหนักเข้าบอกว่าจะขาย แล้วมาติดประกาศเป็นชื่อเขาแล้วเหรอ นายปทุมก็นิ่ง แล้วถามว่าบุญธรรมแล้วยายจะไปอยู่ที่ไหน บุญธรรมบอกให้ยายย้ายไปอยู่หลังบ้าน มันทำแบบนี้ได้เหรอ

อดีตพ่อแม่คุณยายมีที่ 40 ไร่ แบ่งให้ลูก 5 ไร่ มีลูก 7 คน ทั้งหมด 35 ไร่ อีก 5 ไร่ใส่ชื่อยายมาย ยายมายมีเกือบๆ 10 ไร่?

ยายใบ : ยายมายไม่ได้ที่นา ได้แต่ที่บ้านที่อยู่ตรงนี้ ประมาณ 10 ไร่

มันก็ไม่ลงตัว?

ทนายกบ : ที่ดูในโฉนด ที่ตรงนี้ 9 ไร่กว่าๆ ที่นาเขาแบ่งให้ลูกๆ ทุกคนไปแล้ว เหลือที่ 9 ไร่กว่าๆ แบ่งให้ยายละมาย อยู่เป็นครอบครัว มีการตั้งรกราก ตั้งเป็นบ้านกันอยู่ หลังจากนั้นมีการแบ่งขายกันไป ล่าสุดปี 2539 ได้แบ่งเป็นของป้าละมาย 3 ไร่กว่าๆ ที่เป็นเหตุอยู่ ณ ปัจจุบันนี้

ตอนแรกยายมายอยู่ที่นี่มั้ย?

เอก : อยู่ครับ

แล้วตอนนี้ยายมายอยู่ที่ไหน?

ยายใบ : นายปทุมรับไปอยู่ด้วย เขาบอกจะเอาที่ยายละมาย เขาเอาไปเลี้ยงตอนนี้

ยายมายอยู่กับตา เอาเขาไปทำไม?

ตาปทุม : เอาไปเลี้ยง เอาไปอยู่ด้วย

เขาว่าเอายายมายไปหวังที่ จริงมั้ย?

ตาปทุม : ไม่จริง เอาไปเพราะยายมายอยู่คนเดียว บ้านหลังเดียว

ที่ 4 ไร่เป็นชื่อใคร?

ธรรม : ชื่อยายละมายครับ

ป้าใบอยู่ในที่แปลงนั้น แล้วทำไมถึงจะขาย?

ธรรม :  จะเอาเงินมาเป็นค่าเลี้ยงดูป้ามาย และเป็นค่าทำศพตอนแกเสียชีวิต เงินที่เหลือจะให้ป้าใบส่วนนึง ที่ผมพูดกับพ่อไว้

แต่ถ้าขายเขาจะไม่มีที่อยู่?

ธรรม : จะให้ที่ไว้ 100 ตารางวา ให้อยู่ เพราะบ้านอยู่ตรงกลาง ถ้าซื้อต้องรื้อบ้านป้าใบ มีข่าวเกิดขึ้นมา พ่อผมไม่ขายแล้ว

เราถือสิทธิ์อะไรถึงจะขาย เพราะยายมายก็เป็นผู้พิการทางสมอง?

ธรรม : พ่อเป็นผู้อนุบาล

ทำไมเป็นผู้อนุบาลได้ เพราะทางนี้ต้องอนุญาต?

ตาปทุม : เขาอนุญาต

อนุญาตมั้ย?

เอก : เอกสารตัวนี้ยายเซ็นกับหลานเขย ยายไม่ได้อ่านครับ ยายไม่ทราบว่าตรงนี้คือเอกสารอะไร ตัวผมที่เป็นหลานและแม่ ก็ไม่รู้ว่าเป็นเอกสารอะไร แล้วก็ยังไม่เห็นเอกสารว่าเป็นเอกสารอะไร

เอกสารอะไร?

ธรรม : เป็นผู้อนุบาล ป้าใบเซ็นอนุญาตให้

เอก : ทางผมก็มีผู้ใหญ่บ้านไปสืบว่าเป็นเอกสารอะไร แต่ตัวผมเองไม่รู้ว่าเป็นเอกสารอะไร

ทางนี้รู้สึกว่าไม่เป็นธรรม มาหลอกให้เซ็นเพื่อเอาที่ไปขาย?

ยายใบ : ฉันอ่านไม่ได้ ไม่ค่อยรู้หนังสือ ไม่ได้อ่านด้วย ไม่ได้บอกกับลูกกับหลาน

ตาปทุม : ให้คนอื่นอ่านให้ฟังแล้ว ให้หลานอ่านให้ฟัง

เอก : ตัวลุงปทุมไปมั้ยวันนั้น รู้ได้ยังไงว่าเขาอ่านให้ฟัง

ฝั่งยายใบอยู่ที่แปลงนึง มี 4 ไร่ ชื่อเป็นของยายมาย เป็นหนึ่งในน้องสาวยายใบ เป็นพี่สาวตาปทุม ยายใบเป็นคนที่ 4 ยายมายเป็นคนที่ 6 ปทุมเป็นคนที่ 7 คนอื่นเสียชีวิตไปหมดแล้ว เหลือ 3 คนที่ยังมีปัญหา ประเด็นคือพี่สาวของยายใบเคยเอาที่ยายมายไปขายมาแล้ว ประมาณ 5 ไร่กว่าๆ เลยเหลือ 4 ไร่ ซึ่ง 4 ไร่พร้อมบ้าน ทุกคนอยู่หลังนี้มาก่อน แต่ตอนนี้เหลือยายใบอยู่คนเดียว ยายมายเมื่อก่อนก็อยู่บ้านหลังนี้ ปรากฏตาปทุมก็เอายายมายไปอยู่ด้วย แกบอกว่าเป็นพี่สาว เอายายมายไปดูแล สงสาร แต่ถ้าต่อไปยายมายต้องตาย ต้องเอาเงินมาเผาศพ หรือจัดงานศพ ต้องเลี้ยงดูกัน ก็เลยบอกยายมายว่าจะขายที่แปลงนี้ ไม่รู้หรอกยายมายจะรับรู้มั้ย เพราะแกพิการทางสมอง แต่ที่แน่ๆ วันนึงตาปทุมเอาเอกสารฉบับนึงให้ยายใบเซ็นชื่อเพื่อให้ตาปทุมเป็นผู้อนุบาลยายมาย การให้ใครคนใดคนหนึ่งญาติพี่น้องดูแลคนป่วย อนุบาลเขา ก็ต้องได้รับการยินยอมจากญาติคนๆ อื่นด้วย ยายมายเหลือญาติสองคน คือยายใบกับตาปทุม ยายใบบอกว่าฉันอ่านหนังสือไม่ออกหรอก เขาเอาอะไรมาให้เซ็นก็เซ็นไป จากนั้นไม่นานก็มีป้ายขายที่ดิน 4 ไร่มาแปะที่หน้าบ้าน พอไปถาม ทางตาปทุมก็บอกว่าฉันเป็นผู้อนุบาล ก็เลยขายที่ ทางนี้เลยรู้สึกว่าไม่เป็นธรรมเพราะจะไม่มีที่อยู่แล้ว ตอนนั้นยืนยันว่าเราไม่รู้เลยที่เขาเอามาให้เซ็น?

ยายใบ : ไม่รู้เลย อ่านหนังสือไม่ค่อยออก หูตาลายก็ดูหนังสือไม่รู้เรื่อง

ยังไง?

ตาปทุม : โทรไปขอใบมรณะพ่อแม่ที่เสียไปแล้ว พร้อมลายเซ็นยายใบ ที่ยายใบเซ็นไว้แล้ว ไม่ได้บังคับ  ก็ให้หลานสาวอ่านให้ฟัง ยายใบก็โอเคแล้วว่าจะให้เป็นคนอนุบาลยายมาย

เขาอ่านให้ฟังมั้ย?

ยายใบ : ไม่ได้อ่านเลย

เอก : วันที่เขาบอกหลานสาวอ่านให้ฟัง วันที่ไปอำเภอ ไปเซ็นกัน หลานสาวไปด้วยมั้ย เอกสารต้องมาจากฝั่งลุงทุมใช่มั้ย ถึงให้ยายเซ็นได้

ธรรม : ก่อนมาให้เซ็น หลานก็อ่านให้ฟัง ป้าใบก็โอเค ตามนั้น

ยายใบ : เอกสารมาจากไหน ใครร่างมาให้ยายเซ็น

เขาบอกมั้ยว่าใบนี้เซ็นเพื่อดูแลฝั่งยายมาย เคยมาบอกมั้ย?

ยายใบ : ไม่เคยบอก

ป้าสะเทิ้น : ขั้นแรกไปกรมที่ดินก่อน หลานเขาไปด้วย ไปรับยายตอนหลัง ไปกรมที่ดินเสร็จ เขาบอกว่าเซ็นไม่ได้ ต้องไปขอทนายให้ทนายทำเรื่อง เราบอกเราไม่มีเงิน เขาบอกว่าทนายช่วยเหลือ วันนั้นเซ็นไม่ได้ หลานก็ไปรับพี่ใบมา และแยกทางกลับบ้านกัน น้าเทิ้นพูดว่าไง กอดกับยายบอกว่าไม่ต้องกลัว ไม่ทิ้ง ถึงไงพี่ใบต้องมีที่อยู่ ถ้าขายได้จะให้งานนึง พี่ใบอยู่เลย

หมายถึงขายที่ 4 ไร่แล้วจะให้งานนึง ขายแล้วจะเหลืออีกงานนึงเหรอ?

เอก : ผมก็งงตรงนี้ ขายแล้วยายจะอยู่ยังไง ติดป้ายขาย 4 ไร่

ป้าสะเทิ้น : 4 ไร่ เราก็ต้องบอกเขาว่าเอาให้พี่ใบงานนึง

มันเป็นไปไม่ได้หรอก ประกาศขาย 4 ไร่ แต่ขอไว้ 100 วาให้ทางนี้ คนไปซื้อคงไม่ยอมมั้ง?

ป้าสะเทิ้น : ต้องบอกเขาว่าต้องให้เขาอยู่

ธรรม : 4 ไร่คงขายไม่ถึง 4 ไร่แน่ ทุกวันนี้ก็ไม่ถึง 4 ไร่ มันขาดไป 3 วา แต่ผมใจจริงถ้ามีคนซื้อ ก็คิดว่า 4 ไร่ไม่ถึงแน่ จะขอ 100 ตารางวาให้ป้าเขาอยู่

มันก็ยากนะ แต่ไม่เป็นไร ความประสงค์เป็นแบบนี้ ใครไม่ยินยอมก็ไม่ขาย?

ป้าสะเทิ้น : ใช่ คุยกันแล้วว่าไม่ต้องกลัว ถึงไงก็ให้อยู่

พี่กบ คำว่าผู้อนุบาลคืออะไร?

ทนายกบ : ง่ายๆ คือกรณีบุคคลทั่วไป มีโรคจิตฟั่นเฟือน ไม่สมประกอบ ทำอะไรไม่ได้ด้วยตัวเอง จะต้องมีการตั้งผู้อนุบาลเพื่อจัดการทรัพย์สินและดูแล ถ้าพูดกันง่ายๆ ให้เหมือนผู้ปกครองของผู้เยาว์

การให้คนใดคนนึงเป็นผู้อนุบาล ต้องได้รับการยินยอมจากทุกคนก่อนมั้ย?

ทนายกบ : การตั้งเป็นผู้อนุบาลต้องให้ลูกหลาน บิดามารดาหรือพี่น้องญาติยื่นคำร้องเข้าไปที่ศาล เพื่อตั้งใครก็ได้เป็นผู้อนุบาล แต่ถ้ามีญาติหลายคน หรือมีพี่น้องอยู่ การอนุบาลนั้นต้องได้รับความยินยอมจากทุกคนที่มีอยู่ และให้คนใดคนหนึ่งเป็นผู้อนุบาล หรือผู้อนุบาลร่วมกัน

เอกสารนี้ถือว่าถูกต้องหรือยัง?

ทนายกบ :   ถือว่าสำเร็จแล้ว แต่ข้อเท็จจริงมีอยู่ว่า ป้า 93 แล้ว ณ วันนั้นใครทำเอกสาร เอาเอกสารไปให้เซ็น แล้วได้อธิบายมั้ยว่าทำผู้อนุบาลให้ใคร มีผลอย่างไร เอาไปใช้อย่างไร บอกป้าหรือเปล่า ถ้าไม่บอกถือว่าหลอก หรือซ่อนเร้นปิดบังอำพรางไว้ เพราะป้าอ่านหนังสือไม่ออก หนังสือนี้เชื่อว่าผู้มีความรู้ทางกฎหมายทำให้ แต่การเอาไปให้เซ็น แกรู้ แกเข้าใจความหมายตรงนั้นหรือไม่ เพราะอย่างเราๆ เรื่องผู้อนุบาล ผู้พิทักษ์ ย่อมไม่เข้าใจโจ่งแจ้งอยู่แล้ว ถึงอยากถามว่าวันนั้นใครเอาไปให้เซ็น แล้วอธิบายให้เข้าใจหรือเปล่า

ทนายกบเป็นทนายคนกลาง ยังไง?

ธรรม : คือว่าน้องสาวไปกับพ่อผม และหลานสองคน ไปปุ๊บก็เชิญป้าใบมาที่บ้านพี่ไก่ ที่เป็นเครือญาติกัน มาปุ๊บก็ให้เซ็น และอ่านให้ฟังว่าเป็นผู้อนุบาลนะ ป้าใบก็เซ็น หลานอธิบายให้ฟังหมดเลย

หลาน : อธิบายค่ะ ตามข้อความที่ระบุไว้เลยค่ะ

อธิบายมั้ยคำว่าอนุบาลคืออะไร?

หลาน : หนูอ่านตั้งแต่บรรทัดแรกจนถึงบรรทัดสุดท้าย

ธรรม : อ่านโดยที่ว่าหลานเขาไม่รู้

เป็นผู้อนุบาลคือการดูแลผู้ป่วย ทำไมถึงไปเซ็นขายได้ สิทธิ์ครอบครอง ใครอนุญาต?

ป้าสะเทิ้น : สิทธิ์ต้องไปที่ศาล

เอก : ผมอ่านคอมเมนต์เวลาดูข่าว เวลาเขาให้สัมภาษณ์ คอมเมนต์บอกยายขายที่ตรงนี้ไปแล้ว 5 ไร่ ยายใบขายกินไปแล้ว แล้วจะอะไรอีก ที่ตรงนี้ตาทุมเป็นคนดูแลยายมาย ก็ควรมีสิทธิ์ขายที่ตรงนี้สิ 4 ไร่

ทางนี้บอกตาเอาเอกสารไม่ชอบไปให้เขาเซ็น แล้วประกาศขายได้ยังไง?

ตาปทุม : ศาลให้ขายที่แปลงนี้ได้

ธรรม : พ่อผมบอกว่าไปติดป้ายประกาศขาย ผมก็ไปร้องเรียกป้าใบ ป้าใบมาดูจะประกาศขายนะ ป้าใบบอกกูจะอยู่กับใคร ก็บอกว่าไม่เป็นไร มาอยู่กับแม่ผมก็ได้ แม่ผมรับเลี้ยง ป้าใบบอกอยากอยู่กับลูกกับหลาน ก็โอเค ตามนั้น ผมพูดกับป้าใบแบบนี้ แต่ขายได้ไม่ได้ไม่ได้คิด ประกาศขายเฉยๆ ถ้าขายไม่ได้ก็ให้ป้าอยู่จนเสียชีวิต ตามนั้นก็ได้

ยายใบ : แล้วลูกหลานจะอยู่ที่ไหน แล้วมาไล่ 30 วันให้รื้อถอนไป

ตาปทุม : ไม่ได้ไล่ ให้อยู่ไปตลอด

ยายใบ : ต้องมีหลักฐาน ไม่ได้ขอมาก ขอเฉพาะที่ปลูกบ้านอยู่ ขอเท่านั้น

ตาปทุม : จะแบ่งให้ 100 วา จาก 4 ไร่ เชิญรังวัดมาวัด

ตาโมโหแล้วนะ?

ตาปทุม :   อธิบายให้ฟัง

ทนายกบ :   ตาบอกผมว่าจะขาย ในนั้นมี 3 ไร่ จะขายตรงนั้น แต่ 3 ไร่นั้นจะขายไม่หมด จะยกให้เขา 100 ตารางวา

เขาบอกไม่เป็นธรรมกับเขา ที่ตั้ง 4 ไร่ ไร่ 400 ตารางวา 2 ไร่ก็ 800 4 ไร่ก็พันหก จะแบ่งให้เขา 100 วา เขาบอกไม่เป็นธรรมกับเขา?

ตาปทุม : ก็เป็นผู้อนุบาลจากศาลมา ก็มีสิทธิ์เต็มที่ แบ่งให้ยายใบ 100 เดียว

เอามั้ย?

ยายใบ : 100 ตารางวา ได้งานนึง

เอก : ไม่พอที่บ้านเลยมั้ง ไม่รู้ว่าที่บ้านที่อาศัยรวมทางออกไม่รู้เท่าไหร่ แต่เขายื่นข้อเสนอมาวันนี้

ยายปทุม : รู้หรือเปล่า 5 ไร่แยกไปแล้ว ไม่ได้อยู่ที่นี่

เอก : รู้ครับ แต่ลุงพูดในการสัมภาษณ์วันนั้นว่ายายใบขายกิน

ตาปทุม : ไม่ใช่

เอก : ผมไม่เข้าใจที่ลุงพูด

ป้าสะเทิ้น : รู้ว่าป้าใบแกห่วงลูกห่วงหลาน

ความหมายทางนี้เอามาขายเพื่อเอาเงินไปดูแล รักษายายมาย มีคนมาซื้อหรือยัง?

ธรรม : ยังไม่มีเลยครับ

จะขายเท่าไหร่?

ธรรม : จริงๆ พ่อผมจะขาย 8 แสน

 พี่กบอธิบาย?

ทนายกบ : จากข้อเท็จจริงที่ผมทราบ จากบ้านทั้งหมด ที่ดินเดิมเป็นของแม่ของครอบครัวนี้ ป้าทองใบปลูกบ้านอยู่ตรงกลาง เนื้อที่ประมาณ 1 งาน หรือ 2 งาน

ตาปทุม : ไม่ได้วัด

ทนายกบ : แกปลูกมาตั้งแต่สมัยอยู่ด้วยกันเป็นครอบครัวใหญ่ มีที่อยู่ผืนนึง ลูกๆ ก็ปลูกบ้านอยู่ข้างๆ พ่อแม่ บ้าใบแกปลูกมาตั้งแต่ดั้งเดิม อยู่มาวันนึงแม่เสียชีวิต ปี 39 สามไร่กว่าก็เป็นของป้าละมาย พอเป็นของป้าละลาย ปี 68 ป้าละมายแกพิการทางสมอง ก็ตั้งผู้อนุบาลขึ้นมา การตั้งผู้อนุบาล ได้ไปปรึกษาทนายความ ทนายร่างเอกสารขึ้นมาเพื่อให้ญาติพี่น้องยินยอมให้ตั้งเป็นผู้อนุบาล ซึ่งเมื่อถามคุณยาย หรือคนอื่น ก็ไม่ทราบว่าผู้อนุบาลมีสิทธิ์ทำหน้าที่อะไรได้บ้าง ผู้อนุบาลเหมือนเป็นผู้ปกครองดูแลลูก ต้องจัดการทรัพย์สินเขาด้วย เพื่อประโยชน์ของเขา เรื่องการเซ็นเอกสารถ้ามีญาติพี่น้อง 3 คน 3 คนต้องยินยอมทั้งหมด แต่ลักษณะการทำมาให้เซ็น ป้าใบน่าจะไม่รู้ความหมายที่แท้จริงของผู้อนุบาล และมีผลอะไรบ้าง ศาลตั้งเป็นผู้อนุบาล ทางนี้ก็จะขาย ก็มีปัญหาคัดค้านกันว่า บ้านอยู่ตรงกลางมาประกาศขาย ป้าใบก็ช็อก น้อยใจ ทำไมจะขาย แกอยู่มาตั้งนานแล้ว ฝั่งโน้นบอกว่าไม่ได้ขายหมด แต่ให้ป้าใบย้ายออกมา แล้วจะกันที่ให้ 100 ตารางวา แล้วยกบ้านใหม่ กฎหมายคือผู้อนุบาลมีสิทธิ์ขายที่ดินแปลงนี้เพื่อประโยชน์ในการเลี้ยงดู รักษาดูแลป้ามาย แต่ปัญหานอกจากคุณขายได้ตามสิทธิ์ อย่าลืมว่าป้าอยู่มาตั้งแต่รุ่นแม่ ก่อนแบ่งปี 39 เขาอยู่โดยปกติ สงบสุข เป็นเจ้าของมาตั้งแต่ต้น เข้าเงื่อนไขครอบครองปรปักษ์มาด้วย พี่จะไล่เขาไม่ได้ ถ้าเขาจะฟ้องครอบครองปรปักษ์ก็สู้กันใหญ่เลย เขาอยู่ตั้งแต่รุ่นแม่ ไม่ได้รุกล้ำไปเขตอื่น เฉพาะที่อยู่อาศัย ยายใบมีสิทธิ์เข้าเงื่อนไขครอบครองปรปักษ์ด้วยซ้ำ ถ้าป้าใบจะต่อสู้นี่คือครอบครองปรปักษ์

ตาปทุม : เมื่อยายใบมาอยู่ มาอยู่เฉยๆ ต้นไม้ก็มีแล้ว ขอแม่อยู่ ขอปลูกบ้านอยู่ บ้านหลังนี้ผมก็ช่วยปลูก

ยายใบ : คนละประเด็นแล้ว

จะเอาไงกันดี?

ธรรม : ผมบอกตรงๆ ป้าใบกับหลานกับพี่สาวอยู่ไปเหอะ อยู่ได้

ป้าสะเทิ้น : ตอนนั้นพี่ใบเขาเจ๊งจากไร่มา เขาแยกครอบครัวแล้ว เขาไม่มีที่อยู่ แล้วมาอยู่ที่นี่ มาขอแม่อยู่

ทนายกบ :   มาขอพ่อแม่อยู่ พ่อแม่ก็ให้อยู่ตั้งแต่พ่อแม่ยังมีชีวิตอยู่ จนถึงปัจจุบัน แต่พอพ่อแม่เสียอะไรไป เพิ่งตกไปหาป้ามายปี 39 แต่ถ้าอ้างครอบครองปรปักษ์เขาก็มีสิทธิ์ เชื่อผมวันนี้ถ้าต้องการขายที่ดินผืนนี้จริง เพื่อไปรักษาป้ามายจริง ก็ทำได้ โดยเราเป็นพี่น้องกัน เราคุยกันได้ ขยับขยายให้แกไปอยู่ตรงมุมเสีย ยกบ้านใหม่ให้ ส่วนขายที่ได้เท่าไหร่ก็เอาไปไว้ดูแลป้า นั่นทำกันได้ แต่ถ้าไม่ยอมกัน ถ้าทางนี้ครอบครองปรปักษ์มา ที่ดินแปลงนี้จะไม่มีราคาเลย

อย่างนี้ได้มั้ย ที่ 4 ไร่ เพื่อความเป็นธรรม ยายมายแกเป็นเจ้าของ แกมีพี่น้องเหลืออยู่ 2 คน ไม่ได้มีทายาท ที่ 4 ไร่ เหลือญาติอยู่สองคน คือตาทุมกับยายใบ เราผ่าครึ่งแบ่งคนละ 2 ไร่มั้ยล่ะ?

ยายใบ : เอางั้นมั้ยล่ะ

ตาปทุม : อย่างนั้นไม่ได้ ยายใบไม่ใช่ผู้อนุบาล จะมาเอายังไง

ผมเข้าใจตา แต่ประเด็นถ้าตัดเรื่องผู้อนุบาลทิ้งไปก่อน เอาในมุมความเป็นธรรม ยายมายไม่มีญาติพี่น้องแล้ว เหลืออยู่สองคน คือตาทุมกับยายใบ ไม่มีผัว ไม่มีลูก แกเป็นผู้พิการทางสมอง สองคนคุยกันได้มั้ยล่ะ แบ่งครึ่ง เอาไปอย่างละ 2 แบบนี้ก็เป็นธรรมดีนะ?

ทนายกบ : สมมติถ้าเขาเสียชีวิต ลุงไปขายที่มา เงินบาทเดียวลุงใช้ส่วนตัวไม่ได้นะ ลุงต้องเอาไว้เลี้ยงดูจนเขาตาย ลุงต้องทำบัญชีนะ ถ้าเขาตายวันไหน เงินนั้นมีสองคนพี่น้อง ถ้าแกเสียชีวิต เงินที่อยู่หรือได้จากการขายที่ ก็ต้องแบ่งสองคนนะ

สิ่งที่ผมกำลังอธิบาย ผมเข้าใจความรู้สึกของทั้งสองฝ่าย แต่วันนี้ลองคิดตามผม ถ้าวันนี้ยายใบไม่ได้ฝั่งตาเป็นผู้อนุบาลยายมาย ตาก็ไม่มีสิทธิ์ตั้งแต่แรก ถ้าวันนึงยายมายตายไป ที่ดิน 4 ไร่ก็ต้องถูกหารครึ่ง แบ่งให้ตา 2 ยาย 2 อยู่ดี เพราะตัวแกเองไม่ได้มีญาติพี่น้อง เราต้องมองมุมนี้ด้วยว่าถ้ายายไม่ได้เซ็นให้ตาเป็นผู้อนุบาลตั้งแต่แรก เท่ากับที่ดินแปลงนี้ก็ต้องถูกหารครึ่งอยู่ดี แค่ย้อนกลับไปต้นเรื่องก่อนเป็นผู้อนุบาลดีมั้ย?

ทนายกบ : แล้วการที่แกเซ็นเป็นผู้อนุบาล แกไม่เข้าใจด้วยซ้ำว่าการเป็นผู้อนุบาลมีสิทธิ์ขายที่อย่างไรด้วยนะ

ป้าสะเทิ้น : ก็ให้อยู่ไปอย่างนี้

ยายใบ : ไม่ได้ ถ้าแบ่งครึ่งก็แบ่ง ถ้าไม่แบ่ง จะขอเฉพาะวงบ้านที่ปลูก แล้วก็ทางออกเท่านั้น ไม่ต้องรื้อ อยู่เหมือนเดิม เอาเท่านั้นเอง

มันทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะถ้ายายขอแค่ที่ตรงนี้ไว้ ก็เท่ากับเป็นไข่แดง?

ยายใบ : ไม่ใช่ไข่แดง ข้างริมเลย เฉพาะแค่นั้น

ไม่เอา 2 ไร่?

ยายใบ : ตกลงขอแค่นั้นเท่านั้นเอง ถ้าตรงอื่นขายได้ก็เอาเลย ไม่ได้ว่า

เขาขอบ้านกับที่ทางออกเขาให้ได้อยู่ ได้มั้ย?

ยายใบ : ขอเท่านั้น ขอที่ปลูกบ้านอยู่และทางออกหน้าบ้าน ขอเท่านั้น เทิ้นว่าไง

ผู้ใหญ่ว่าไง?

ผู้ใหญ่ : ที่เราคุยเบื้องต้นกับยาย ที่สรุปได้ คือยายไม่ต้องการเอาสองไร่ แต่ยายต้องการเอาแค่ที่บ้านที่ยายอยู่พร้อมทางออก ซึ่งเนื้อที่ประมาณ 2 งาน ยายไม่เอา 2 ไร่นะ ยายขอแค่ 2 งานแค่นั้น ผมว่าเป็นทางออกที่ดีครับ เรื่องนี้อยากให้จัดการให้เสร็จสิ้น ตอนที่ยายยังมีชีวิตอยู่ จะได้ช่วยดำเนินเรื่อง

ยายใบ : แบ่งหน้าโฉนดเป็นชื่อของยาย ให้เรียบร้อยเลย

ป้าสะเทิ้น : ก็นั่นแหละ ก็ตั้งใจให้นั่นแหละ

ขอ 400 วา ได้มั้ย ไร่นึง ทางตาปทุมเอาไป 3 ไร่ เพื่อความเป็นธรรม แกก็ไม่มีอะไรเหลือแล้ว ผมต่อรองให้เอง พี่น้องกัน ให้แกไปเถอะ แกอยากได้ 200 แต่ผมขอให้เอง 400?

ป้าสะเทิ้น : เราอยากให้แกมีเงินใช้บ้าง

แกไม่ได้ใช้หรอก ทางนี้เดี๋ยวหลานดูแล ก็ว่ากัน เรื่องอื่นยังไม่ต้องพูดถึง สายเลือดเดียวกัน เดี๋ยวปรับความเข้าใจกันได้ ถ้าตาตกลงต่อหน้าสาธารณชน ให้แกสักไร่ ตาเอาไป 3 ไร่ จบเลย?

ยายใบ : จบกัน แล้วเชิญรังวัดมา

ทนายกบ : พูดถึงอนาคตไปเลย เดี๋ยวทางยายจะเซ็นหนังสือยินยอม ว่าจะไม่เอาอีกแล้วมรดก ยกให้ฝั่งคุณตาไปเลย แยกกันชัดเจน เอารังวัดมาและชี้กันเลย เขาตายก็ไม่ไปยุ่งเลย
 

สรุปว่าที่เจ้าปัญหาแห่งนี้ 4 ไร่ ในฐานะเราเป็นผู้อนุบาล เดี๋ยวไปตัดโฉนด แบ่งส่วนที่มีบ้านกับส่วนพื้นที่ต่างๆ ที่จำเป็น 1 ไร่ ให้ยายใบไป ที่เหลือเป็นของตาปทุม อีกมุมถ้าจากนี้ไป ยายมายเสียชีวิต ทางยายใบจะไม่เข้าไปเกี่ยวข้องกับ 3 ไร่อีกแล้ว เดี๋ยวให้ทำสัญญาไว้เลย เอามั้ย?

ธรรม : ผมโอเค พ่อโอเคนะ

ยายใบ : ทำหนังสือสัญญาไว้เลย

ตอนแรกจะขอแค่ 200 วา แต่นี่ได้ 400 วา?

ยายใบ : ตกลงกัน พี่น้องจะได้รักกัน ไม่ต้องมาผิดใจกัน

รักมั้ย?

ตาปทุม : ไม่รู้ นานทีเจอ

ป้าสะเทิ้น : ไม่เป็นไร น้องสะใภ้รัก (หัวเราะ) 

ยายใบ : ตกลงนะทุม

ไม่ได้เจอกันนานแค่ไหน?

ตาปทุม : เป็นปี

ตอนเด็กๆ วิ่งเล่นกันมั้ย โดดน้ำโดดท่ากันมั้ย?

ยายใบ : ก็อยู่ร่วมกัน

ยายมายมาด้วย ยายใบอยากเจอมั้ย?

ยายใบ : อยากเห็นน้อง หลายปีแล้วไม่เจอน้องเลย

เหลือกัน 3 คนพี่น้องไม่เจอนานใช่มั้ย?

ยายใบ : ไม่เจอหลายปี ฉันอยู่อยุธยา เขาอยู่นนทบุรี ก็อยู่ไกลกัน เราแก่กันแล้ว ปรองดองกันดีกว่าเทิ้น

ป้าสะเทิ้น : สมบัติตายไปก็เอาไปไม่ได้ 

เอก :   ป้าเทิ้นพูดถูก ตามนั้น

ยายมายอายุเท่าไหร่?

ป้าสะเทิ้น : 88

ยายใบไปหายายมาย?

ยายใบ : จำได้มั้ย

ยายมาย : จำได้

ยายใบ : ไม่เจอตั้ง 4-5 ปีแล้ว ถึงวันไปยังไม่รู้ว่าวันไหนจะไป (เสียงสั่นเครือ)

ป้าสะเทิ้น : รักกันไว้ อยู่กันแค่นี้

ยายใบ : (ร้องไห้) รักกันนะ ลูกหลานรักกัน อายุเยอะๆ กัน จะกลับบ้านเก่าเมื่อไหร่ก็ไม่รู้

ตาปทุม : (ร้องไห้)

ยายใบ : ยายได้ไร่นึงก็ขอบคุณมาก

เอก : ขอโทษฝั่งตาด้วย ที่โพสต์ไป ผมอยู่บ้านตรงนั้นทุกวัน มีการมาติดป้าย ก็น่าจะเข้าใจผมนะครับ ขอโทษครับ (ยกมือไหว้ขอโทษ)

ป้าสะเทิ้น : ไม่ต้องโกรธกัน

เดี๋ยวทางนี้จัดการให้เลย จบจากรายการอาจให้ร่างไว้คร่าวๆ มุมกรมที่ดินอาจต้องใช้เวลาในการยื่นเรื่อง ต้องรอเขาเดินรังวัดอีก ค่ารังวัดเดี๋ยวผมจ่ายให้?

ยายใบ : ถามให้เข้าใจ เพราะไม่ค่อยรู้ คนสมัยก่อนไม่ค่อยรู้เรื่องกัน ไม่รู้กฎหมาย อนุบาลก็ไม่รู้อะไร