วันที่ 23 เมษายน 2568 เวลา 13.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่ห้องประชุม Mini Hall ชั้น 4 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลโคราช สภาอุตสาหกรรมจังหวัดนครราชสีมา จัดเวทีแสดงวิสัยทัศน์และนโยบายผู้สมัครนายกเทศมนตรีนคร (ทน.) นครราชสีมา โดยมี เบอร์ 1 นายพงษ์ยุทธ สุภัทรวณิชย์ พรรคประชาชน ,เบอร์ 2 นายแพทย์วรรณรัตน์  ชาญนุกูล “โคราชชาติพัฒนา” ,เบอร์ 3 นายมารุต  ชุ่มขุนทด กลุ่มอิสระ ,เบอร์ 4 นายอดุลย์  อยู่ยืน “พลังเทศบาล” เปิดโอกาสให้ผู้สมัครนายกทั้ง 4 คน แสดงวิสัยทัศน์เรียงตามเบอร์คนละ 20 นาที  

 

โดย นายพงษ์ยุทธ เบอร์ 1 กล่าวว่า สิ่งที่จะดำเนินการทันที เรื่องแรกคือขยะมูลฝอยสะสม แก้ปัญหาน้ำประปาขาดแคลน ระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ โดยเพิ่มปรับปรุงประสิทธิภาพรถสองแถวและจัดรถบัสอีวีให้บริการทั่วถึงครอบคลุมในเส้นทางหลัก ปัญหาปากท้องจัดกิจกรรมใช้เอกลักษณ์ของดีท้องถิ่นดึงดูดนักท่องเที่ยวเขาใหญ่ วังน้ำเขียวให้มาตัวเมือง ส่วนอาคารร้าง เข้าไปคุยกับเจ้าของให้ช่วยลดค่าเช่า เพื่อส่งเสริมให้คนมาเช่าประกอบธุรกิจ เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้คึกคัก โครงการหมอใกล้บ้านเพิ่มบุคลากรทางการแพทย์ในศูนย์สุขภาพชุมชน เพื่อลดภาระโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา ที่มีปัญหาความแอดอัด 

ด้าน น.พ วรรณรัตน์ เบอร์ 2 กล่าวว่า นโยบายทั้งหมดสามารถนำไปใช้ได้จริงไม่ได้อยู่ในโลกจินตนาการและพัฒนาต่อเนื่อง เพื่อรองรับโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล ทั้งมอเตอร์เวย์ M 6 รถไฟความเร็วสูง รถไฟทางคู่และเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดงานพืชสวนโลก 2572 เพื่อให้เป็นโคราชมหานครในอนาคต ศูนย์กลางการค้า การลงทุน เศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การแพทย์รวมทั้งเป็นประตูสู่อีสาน ส่วนน้ำประปาขาดแคลน สมัยนายกกระเสริฐ  บุญชัยสุข ได้ประสานขอสนับสนุนงบรัฐบาลกว่า 2 พันล้านบาท มาแก้ปัญหาท่อส่งน้ำดิบจากลำตะคองมาโรงกรองน้ำบ้านมะขามเฒ่าหมดอายุการใช้งาน ทำให้น้ำรั่วซึมกว่า 5-60 % เพื่อเปลี่ยนและวางท่อใหม่รวมทั้งติดตั้งระบบตรวจสอบปัญหาเหล่านี้ เลือก “โคราชชาติพัฒนา” ยกทีม เข้าไปสานต่อให้สำเร็จ

ส่วน นายมารุต เบอร์ 3 กล่าวว่า การนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้พัฒนาและแก้ปัญหาเมืองโคราช ทั้งน้ำประปาขาดแคลน ขยะมูลฝอยสะสม เพื่อลดผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม เพิ่มประสิทธิภาพในทุกมิติทั้งเศรษฐกิจและการศึกษา รวมทั้งส่งเสริมคุณภาพชีวิตของชาวเทศบาล เพื่อให้เป็นเมืองสมาร์ทซิตี้ เมืองน่าอยู่ ปลอดภัยอย่างยั่งยืน

ขณะที่ นายอดุลย์ ผู้สมัครนายกเบอร์ 4 กล่าวว่า สิ่งแรกคือปัญหาเศรษฐกิจซบเซา ส่งเสริมผู้ประกอบการรายย่อยและจัดกิจกรรมต่อเนื่องโคราชเที่ยวทั้งปี ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาจับจ่ายใช้สอย ปัญหาน้ำท่วมขังซ้ำซากรอการระบาย โดยขยายท่อระบายน้ำและเชื่อมต่อไปยังแหล่งน้ำธรรมชาติอย่างเป็นระบบ ตนจะใช้ประสบการณ์การทำงานทั้งภาคการเมืองและสังคมกว่า 20 ปี มาประสานให้เมืองโคราชอย่างเต็มที่

พร้อมกันนี้นางธนภร หรือพี่นาง  แตงพันธ์ อายุ 58 ปี ชุมชนบ้านพักทหารหนองไผ่ล้อม เปิดเผยว่า ปัจจุบัน “โคราช” กำลังเติบโตเป็นเมืองหลวงแห่งที่ 2 ของประเทศไทย ผู้บริหารต้องเข้าหาง่ายและใจกล้าลุยทุกพื้นที่ แก้ทุกปัญหา เช่นน้ำประปาขาดแคลน ตนประสบบ่อยครั้ง ปัญหาน้ำท่วมขัง การซ่อมแซมปรับปรุงเส้นทางสัญจร รวมทั้งมีใจสาธารณะช่วยเหลือประชาชนจริงๆ  

อีกทั้ง นางสาวเบญจวรรณ หรือน้องแหม่ม  เกรัมย์ อายุ 26 ปี ประชาชนชุมชนทุ่งสว่าง กล่าวว่า ความคิดของวัยรุ่นนายกเทศมนตรีที่อยากได้ต้องใกล้ชิดกับประชาชน เปิดรับฟังความคิดเห็นของทุกฝ่าย โดยเฉพาะเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่มีสิทธิ์มีเสียง มีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนพัฒนาบ้านเมืองไปด้วยกัน ที่สำคัญมีความเข้าใจปัญหามากที่สุด สิ่งที่ต้องการเร่งด่วนคือระบบรักษาความปลอดภัย ทำเมืองให้สะอาดเป็นระเบียบ รวมทั้งกระตุ้นเศรษฐกิจให้กลับมาคึกคัก