วันที่  23 เม.ย.2568 เวลา 10.00 น.ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงการทุจริตสหกรณ์ออมทรัพย์รัฐสภา 14 ล้านบาท ว่า ได้พูดคุยกับเลขาธิการสภาฯ และรองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรแล้ว โดยที่ผ่านมาสหกรณ์ ดำเนินการด้วยความเรียบร้อยมาโดยตลอด ซึ่งกรณีการทุจริตที่เกิดขึ้นสภาต้องติดตาม โดยการบริหารจัดการทั้งหมดเป็นเรื่องของคณะกรรมการ บริหารสหกรณ์ ซึ่งขณะนี้ได้มีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวน และทราบแล้วใครกระทำความผิด เพื่อนำตัวมาลงโทษอย่างเด็ดขาดตามกฎหมาย แต่วงเงินที่กระทบประมาณ 14 ล้านบาท
        
นายวันนอร์ กล่าวต่อว่า ขอให้ความมั่นใจกับสมาชิกและผู้เกี่ยวข้องได้ว่า สหกรณ์ไม่มีผลกระทบอะไรมากมาย ยังดำเนินการอย่างเข้มแข็งเพื่อรักษาผลประโยชน์ของสมาชิก และ เมื่อนำผู้กระทำผิดมาลงโทษต้องไล่เบี้ยไปว่า 14 ล้านบาท ว่าใครต้องรับผิดชอบอย่างไร แต่เงินที่เหลืออยู่ในสหกรณ์ไม่มีผลกระทบอะไรถือเป็นบทเรียนที่ สำคัญ ที่ต้องตรวจสอบดูแลอย่างรัดกุม
       
“ยืนยันไม่มีปัญหาต่อผู้ฝากเงินกับสหกรณ์ และผู้ที่เกี่ยวข้องแต่อย่างไร ถือว่าโชคดี ที่รู้ตัวผู้กระทำผิดก่อน แล้วคนที่ทำก็รับสารภาพ ว่าได้ทำจริง แต่ต้องสอบต่อไปว่ามีอีกกี่คน ที่เกี่ยวข้องต้องไล่เบี้ยไป แต่วงเงินที่ถูกทุจริตไป 14 ล้านบาท จากยอดทั้งหมดหลาย 100 ล้านบาท สมาชิกต้องมีขวัญกำลังใจไม่สงสัยต่อกิจการสหกรณ์ ขอให้ฝากและและกู้ ถอนไปตามปกติ “นายวันนอร์ กล่าว
       
นายวันนอร์ กล่าวว่า สถาบันการเงินก็เป็นเช่นนี้ ตราบใดที่สมาชิกยังมีความมั่นใจ ก็ไม่มีปัญหาแต่ถ้าสมาชิกไม่มั่นใจเมื่อไหร่ ก็จะมีผล ในฐานะที่ตนเป็นประธานสภาฯ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้อง สหกรณ์เพราะตนก็ไม่ได้เงินฝาก แต่เมื่อเรื่องเกิดขึ้นในสภาฯ ประธาน รองประธาน เลขาและรองเลขาธิการสภาฯ ต้องดูแลเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับ สมาชิกสหกรณ์ซึ่งทั้งหมดก็เป็นบุคลากรของสภา บางคนเกษียณไปแล้วแต่ยังมีเงินฝากอยู่  ดังนั้นให้ความมั่นใจว่าคนที่ฝากเงิน รวมถึงทำธุรกรรมทำธุรกรรมกับสหกรณ์ก็ขอให้ทำต่อไป ไม่มีปัญหาเพราะกรรมการจะดูแลเป็นอย่างดี แม้ผลกระทบที่เกิดขึ้น จะเป็นเพียงไม่กี่เปอร์เซ็น แต่ถ้าไม่ติดติดตามไม่ดูแลให้ดูแลให้ดีก็จะกระทบได้