วันที่ 22 เม.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า จากกรณีดร.ดำรง ลีนานุรักษ์ อดีตรองอธิการบดี มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ได้ออกมาระบุว่าคณะกรรมการกำกับ San Francisco Asian Art Museum (SFAAM) จะมีการประชุมเพื่อพิจารณาถอนสถานะการครอบครองประติมากรรมสัมฤทธิ์ ‘ประโคนชัย’ 4 องค์ เป็นครั้งที่ 2 เพื่อส่งคืนไทย ตามคำร้องต่อศาล โดยหน่วยสืบสวนเพื่อความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ (Homeland Security Investigations: HSI) และอัยการกลาง เนื่องจากประติมากรรมสัมฤทธิ์ประโคนชัย 4 องค์นี้อยู่ในรายการโบราณวัตถุ 32 รายการที่รัฐบาลไทยส่งหนังสือไปยังรัฐบาลสหรัฐอเมริกาอย่างเป็นทางการ แบบความร่วมมือรัฐต่อรัฐ ตั้งแต่ พ.ศ. 2562 โดยหน่วยสืบสวนเพิ่มความมั่นคงแห่งมาตุภูมิของสหรัฐฯ (Homeland Security Investigations: HSI) และอัยการกลางนำขึ้นสู่ศาล ขอหมายเรียก โดยอยู่ในขั้นตอนการเจรจา กับพิพิธภัณฑ์ 7 แห่งและเป็นที่ทราบกันทั่วไปว่า โบราณวัตถุชุดนี้ เป็นการซื้อหาจากชาวบ้านที่ลักลอบขุด และส่งออกไปต่างประเทศ โดยเฉพาะในช่วงแรกที่ส่งไปให้ บริษัท Spink and Son ที่กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดยนายดักลาส แลชฟอร์ด (Dauglash Latchford)ซึ่งยังลุ้นกันว่าสัมฤทธิ์ประโคนชัยจะได้กลับคืนไทยหรือไม่นั้น
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบนายสมัคร พรหมลักษณ์ อายุ 83 ปี บ้านเลขที่ 79 ม.1 ตำบลสำโรงใหม่ อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งใน 6 คนเป็นคนขุดพบโพธิสัตว์ประโคนชัย ที่ยังมีชีวิตอยู่ เล่าว่าตอนนั้นเมื่อประมาณปี 2516-2517มีคนชวนไปขุดหาสมบัติที่เขาปลายบัด บ้านโคกเมือง ต.จรเข้มาก อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ ไปขุดตอนแรกไม่พบอะไร หลังจากนั้นตนฝันว่าให้ไปขุดอีกจุดหนึ่ง ตนกับพวกรวม 6 คนในจำนวนนี้มีภรรยาตนไปด้วย ไปขุดตามจุดที่ฝัน ปรากฏว่าพบของโบราณเป็นจำนวนมาก จึงเอามาเก็บไว้ที่บ้าน
ต่อมาได้มีนายทุนในพื้นที่มาขอซื้อทั้งหมดเป็นเงิน 110,000 บาท แต่พวกตนไม่ขายเพราะไปกันหลายคน สุดท้ายนายทุนคนดังกล่าวมาขู่ว่าถ้าไม่ขายจะแจ้งตำรวจ พวกตนจึงยอมขายให้เอาเงินมาแบ่งกัน หลังจากนั้นไม่ทราบข่าวเลยว่าสมบัติที่ขุดได้ไปอยู่ที่ไหนแต่ลูกสาวได้พูดถึงเสมอ พอมาทราบข่าวว่าอยู่ต่างประเทศและมีโอกาสที่ประเทศไทยจะได้กลับคืนมา ดีใจมากเพราะเป็นสมบัติของคนไทย ยอมรับว่าสมัยก่อนไม่มีความรู้และไม่คิดว่าเขาจะเอาไปขายไปต่างประเทศ ถ้าโพธิสัตว์ประโคนชัย ได้คืนมาอยากจะดูด้วยตาของตัวเองว่าใช่หรือไม่
ขณะที่ น.ส.พลอยไพลิน พรมลักษณ์ อายุ 37 ปี ลูกสาวนายสมัคร เล่าว่า ตั้งแต่ตนยังเล็กพ่อจะเล่าเรื่องที่ไปขุดสมบัติให้ฟังมาโดยตลอด จนมีความรู้สึกอยากเห็นและอยากได้กลับเมืองไทย ส่วนตัวเชื่อว่าพ่อมีบุญมากกว่าเพื่อนที่ไปขุดด้วยกัน เพราะทุกคนขุดไม่เจอแต่พ่อขุดเจอ แต่ถ้าโบราณวัตถุชิ้นดังกล่าวกลับมาถึงเมืองไทยจริงๆ ก็จะพาพ่อไปชมด้วย