วันที่ 22 เม.ย.68 เวลา 14.30 น. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางเข้าตรวจสอบดูสภาพของไม้กั้นทางรถไฟ หรือเครื่องกั้นจุดตัดทางข้ามรางรถไฟ ที่มีสภาพการใช้งานแบบไม่สมประกอบและบาดสายตาประชาชนที่กำลังสัญจรผ่านไปมา ที่บริเวณท้ายซอยถนนมหาจักพรรดิ์2 ซึ่งเป็นทางข้ามรางรถไฟที่สามารถเดินทางเชื่อมไปยังชุมชนริมคลองท่าไข่ และมุ่งหน้าเป็นเส้นทางลัดไปยัง อ.บางน้ำเปรี้ยว และ อ.คลองเขื่อนได้นั้น

ปรากฏว่า พบมีแขนเครื่องกั้นหรือไม่กั้นรางรถไฟ ที่อยู่ในสภาพหักงอ ส่วนปลายห้อยลงมายังพื้นดินไม่สามารถยกขึ้นลงได้โดยสะดวก และส่วนที่หักงอลงมายังปิดขวางเส้นทางการสัญจรของชาวบ้านที่เดินทางข้ามไปมาด้วย แต่ได้มีชาวบ้านได้ช่วยกันนำท่อนไม้หน้าสามพร้อมกับนำเชือกมาพันมัดดามเอาไว้ให้ติดกันแน่น ตรงบริเวณส่วนโคนและปลายที่หักเพื่อให้สามารถสัญจรข้ามผ่านกันต่อไปได้

 

แต่แขนไม้กั้นก็ยังไม่ได้อยู่ในแนวระนาบเป็นเส้นตรง หรือทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบตามปกติ ท่ามกลางการสัญจรที่มี ปชช.ข้ามไปมาเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะในชั่วโมงเร่งด่วน ชาวบ้านผู้ใช้เส้นทางจึงอยากฝากไปถึงยังหน่วยงานที่รับผิดชอบ ได้เข้ามาช่วยทำการซ่อมแซมปรับปรุงเครื่องกั้นรางรถไฟที่ชำรุดให้อยู่ในสภาพที่ใช้งานได้อย่างสมบูรณ์ หรือมีความสะดวกปลอดภัยต่อผู้ใช้เส้นทางผ่านบริเวณดังกล่าว

 

ทั้งนี้เนื่องจากทางข้ามรางรถไฟสายนี้ เป็นเส้นทางลัดผ่านเข้าสู่กลางใจตัวเมือง หรือเดินทางมายังศาลากลาง จ.ฉะเชิงเทรา ได้ง่าย สำหรับผู้ที่เดินทางมาจาก อ.บางน้ำเปรี้ยว หรือ อ.คลองเขื่อน รวมถึงคนในชุมชนตำบลบางขวัญ ต.ท่าไข่ ต.บางแก้ว อ.เมือง จ.ฉะเชิงเทรา อีกทั้งเส้นทางรถไฟสายนี้ยังเป็นเส้นทางขนส่งสินค้าทางรางสายหลักของประเทศ ที่เชื่อมโยงระหว่างสถานีชุมทางรถไฟฉะเชิงเทรา ไปยังท่าเทียบเรือแหลมฉบัง จ.ชลบุรี และมาบตาพุด จ.ระยอง ในการกระจายสินค้าไปยังสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง (ไอซีดี) ลาดกระบัง กทม. และเชื่อมโยงภาคการขนส่งทางรางผ่านไปยังสถานีรถไฟคลอง 19 มุ่งหน้าไปยังสถานีแก่งคอย จ.สระบุรี เพื่อขนส่ง ถ่ายสินค้าทั้งขาขึ้น-ขาล่อง ไปยังกลุ่มจังหวัดทางภาคเหนือและภาคอีสานอีกด้วย จึงทำให้มีขบวนรถไฟผ่านช่วงตอนสถานีรถไฟชุมทางฉะเชิงเทรา มายังสถานีย่อยแปดริ้วเป็นจำนวนมากเกือบตลอดทั้งวัน