ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า เมื่อวันที่ 21 เมษายน 68 เวลา 01.00 น. พ.ต.อ.สรวิศ เสมอใจ ผกก.2 บก.ปส.4 ได้รับแจ้งจากสายข่าวว่าจะมีขบวนการค้ายาเสพติดลักลอบขนยาเสพติดมาจากภาคกลางลงใต้ โดยใช้รถบรรทุก 10 ล้อ ยี่ห้อ ฮีโน่ หมายเลขทะเบียน 71-5297 เพชรบุรี จึงได้สั่งการให้ทาง พ.ต.ท.กันต์ธีทัต รวมทรัพย์ รอง ผกก.2 บก.ปส.4 จัดกำลังตำรวจประจำด่านตรวจยานพาหนะ (ยายไท) เตรียมความพร้อมในการตั้งด่านสกัดจับ บนถนนสายเพชรเกษม ขาล่องใต้ พร้อมทั้งจัดกำลังตำรวจ อีก 2 ชุด นำรถยนต์ส่วนตัว ออกลาดตระเวนสังเกตการณ์
จนกระทั่งเวลา 10.10. น.วันที่ 21 เมษายน 68 ได้รับแจ้งจากตำรวจชุดลาดตระเวน ว่าพบรถบรรทุก 10 ล้อ ยี่ห้อ ฮีโน่ ทะเบียนป้ายเหลือง 71-5297 เพชรบุรี ซึ่งตรงตามเป้าหมาย ได้ขับผ่านจุดพักรถเขาโพธิ์ กำลังมุ่งหน้าลงใต้ จึงได้นำกำลังออกตั้งด่านสกัดจับ บริเวณที่ทำการด่านตรวจยานพาหนะ หมู่ที่ 2 ต.หงษ์เจริญ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร จนรถบรรทุกคันดังกล่าว ซึ่งคลุมผ้าใบมามิดชิด ขับมาในด่าน เจ้าหน้าที่จึงได้เรียกขอตรวจค้น
ทราบชื่อ มี นายสมศักดิ์ อายุ 57 ปี อยู่บ้าน หมู่ที่ 2 ต.วังคีรี อ.ห้วยยอด จ.ตรัง เป็นคนขับและมีนายดนัยวิทย์ อายุ 29 ปี อยู่บ้าน หมู่ที่ 2 ต.บางดี อ.ห้วยยอด จ.ตรัง นั่งมาด้วย ซึ่งทั้งสองทราบภายหลังเป็นลุงกับหลานกัน สอบถามแจ้งว่าเป็นอาหารสัตว์ แต่ทั้งสองออกอาการมีพิรุธ เจ้าหน้าที่จึงได้ให้ขับเข้าไปในบริเวณที่ทำการด่านตรวจเพื่อขอทำการ X-ray และตรวจค้นยานพาหนะอย่างละเอียด
จากการ X-ray รถบรรทุกคันดังกล่าว ปรากฏสิ่งของที่มีลักษณะเป็นก้อน ๆ บริเวณด้านในสุดของกระบะท้ายบรรทุก เชื่อได้ว่าเป็นยาเสพติด จึงได้นำรถออกมาเปิดผ้าใบคลุมกระบะออก พบกระสอบปุ๋ยวางเรียงกองอยู่ จึงได้เปิดดูพบไอซ์ ซุกอยู่เต็มกระสอบปุ๋ย ตรวจนับได้ 269 กิโลกรัม จึงทำการตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน
สอบสวน ทราบว่า นายสมศักดิ์ และ นายดนัยวิทย์ ลุงหลาน ได้ขับรถบรรทุกจาก จ.ตรัง ไปส่งสินค้าที่กรุงเทพ และขากลับ ได้ขับไปรับยาเสพติดดังกล่าว มาจาก จ.อยุธยา โดยปลายทางส่งให้ขบวนการค้ายาเสพติด ที่ อ.ทุ่งใหญ่ จ.นครศรีธรรมราช โดยค่าจ้างเที่ยวละ 2 แสนบาท แต่ได้รับมาเบื้องต้น 14,000 บาทเป็นค่าเดินทาง ที่เหลือจะจ่ายกันภายหลังจากที่ส่งของแล้ว
ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมได้แจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันจำหน่ายโดยมีไว้เพื่อจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ไอซ์) โดยไม่ได้รับอนุญาต และจากตรวจสารเสพติดในร่างกาย ผลการตรวจพบเมทแอมเฟตามีนในน้ำปัสสาวะ จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติม “เป็นผู้ขับขี่ยานพาหนะในขณะที่มีสารเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) อยู่ในร่างกายโดยผิดกฎหมาย” ก่อนได้นำตัวทั้งสองพร้อมของกลางส่งพนักงานสอบสวน บก.ปส.4 บช.ปส . เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป