วันที่ 22 เม.ย.68    ทอม ธีระฉัตร โพธิสิทธิ์ ช่างภาพอิสระ โพสต์เฟซบุ๊ก "Tom Potisit Photography" ระบุข้อความว่า เมื่อหลายปีก่อน

มีคนแนะนำให้รู้จักเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่สนใจในการช่วยเหลืองานอนุรักษ์ทะเลและสื่อสารประเด็นที่กำลังเกิดขึ้นกับมหาสมุทรผ่านสิ่งที่เขารักอย่างเช่นการว่ายน้ำและการดำน้ำเก็บซากอวน

ณ ตอนนั้น ฉันรู้สึกดีใจที่คนรุ่นใหม่ให้ความสนใจในประเด็นที่กำลังเป็นภัยใหญ่หลวงในยุคโลกรวน ณ วันนี้

ฉันทุ่มกำลัง เวลา และคอนเนคชั่นทุกทาง ตั้งแต่ทีม production ทีมพีอาร์ไปจนถึงนักวิทยาศาสตร์ทางทะเล เพื่อสนับสนุนในสิ่งที่เด็กหนุ่มตั้งใจทำ ทั้งกิจกรรมบนน้ำและใต้น้ำ

และมองว่าการที่เขาเป็นลูกครึ่ง มีการศึกษา มีความเป็นนักกีฬา พูดภาษาอังกฤษได้น่าจะช่วยเป็นกำลังสำคัญในการส่งสารเรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลให้ไปถึงกลุ่มเป้าหมายใหม่ใหม่ได้

ระหว่างทางเป้าหมายและความเข้าใจของฉันในตัวตนของเด็กหนุ่มอาจจะคลาดเคลื่อนจากวันแรกที่ได้คุยกัน เพื่อนพี่น้องและผู้ใหญ่หลายท่านที่ฉันเคารพได้มาแชร์เรื่องราวที่เกิดขึ้นกับการทำงานร่วมกับเด็กหนุ่มไม่ว่าจะเป็นทางตรงหรือทางอ้อม ความหวังที่หวังไว้ค่อยค่อยละลายหายไปผ่านการสื่อสารเรื่องทะเลของเด็กหนุ่มผ่านโซเชียลมีเดียไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารที่ไม่ได้มุ่งเป้าไปเรื่องการให้ความรู้ความเข้าใจเรื่องข้อมูลด้านการอนุรักษ์ ที่มีความละเอียดอ่อนเพราะมีหลายปัจจัย ที่คนทำงาน“อนุรักษ์” จะต้องมองและคำนึงถึงรอบด้านแบบ 360 องศา ไม่ใช่แบบ Top Down สิ่งหนึ่งที่ฉันได้เรียนรู้ในการเป็นอาสาสมัครช่วยเหลืองานนักวิจัยตลอด 10 กว่าปีที่ผ่านมาคือการที่เราสามารถแก้ปัญหาหนึ่งได้มันจะส่งผลกระทบและสร้างอีกปัญหาหนึ่งเสมอ

นักอนุรักษ์ใช้เวลาในการศึกษาข้อมูลด้านปัญหา และทางเลือกของทางออก ผลกระทบที่จะเกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นตัวทรัพยากรทางทะเล นโยบาย ชาวบ้าน ผู้ประกอบการ หรือชาวเน็ต สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นสิ่งสำคัญที่จะนักอนุรักษ์ นักวิจัย หรือแม้แต่ผู้นำชุมชนนำมาคำนึงถึงในการทำงานร่วมกัน

หนึ่งสิ่งที่ยากที่สุดในการทำงานอนุรักษ์ คือเรื่องของการสื่อสาร และการให้ความรู้ความเข้าใจให้กับคนที่อาจจะเข้าไม่ถึงตัวปัญหาให้เข้าใจ ด้านอื่นๆของการให้เกียรติทะเลที่ไม่ได้มีแค่ความรักทะเลเท่านั้นที่จะสามารถแก้ปัญหาได้

เด็กหนุ่มพูดในรายการสัมภาษณ์รายการหนึ่ง ว่า การอนุรักษ์ของเขาไม่มีสีเทามีแค่สีขาวกับสีดำ


เด็กหนุ่มรู้ไหมว่า สีขาวนั้นก็ประกอบด้วยแม่สีสามสีที่มาบรรจบผสมกัน งานอนุรักษ์ก็เช่นเดียวกันมันเกิดจากความร่วมมือ ของหลากหลายฝ่ายใช้ความรู้ความสามารถที่เฉพาะทางแตกต่างกันมาร่วมมือแก้ปัญหาเดียวกัน

เด็กหนุ่มเค้าคงไม่รู้หรอกเพราะหลายครั้งครั้งที่มีผู้คนที่หวังดีในวงการอนุรักษ์หรือคนที่รักทะเลไม่น้อยไปกว่าเขาให้ความเห็นที่แตกต่างจากสิ่งที่เขาคิด และให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ในการสื่อสาร ข้อมูลเหล่านั้นจะถูกแปรสภาพให้เป็นสีดำสำหรับเขาทันทีจนไม่มีสีอื่นใดส่งเข้าไปถึงตัวเขาได้ รวมถึงเสียงเตือนแห่งความปรารถนาดีของฉันเองด้วย

แล้ววันนี้เด็กหนุ่มได้รับแสงทุกสีที่ต้องการจากสังคมจากการทำงานอนุรักษ์แล้ว ขอให้เด็กหนุ่มโชคดีกับแสงสีและเสียงที่ได้รับ

สุดท้ายนี้ถ้าสื่อสารเรื่องแมงกะพรุนไฟไม่มีพิษอันตรายพอ และพาเด็กๆไปว่ายน้ำในทะเลท่ามกลางความเสี่ยงอีก

จะขอดเกล็ดและดึงหางเงือกที่สร้างให้ออกด้วยตัวเอง

t | p 

 

 

ขอบคุณ เฟซบุ๊ก Tom Potisit Photography