วันที่ 22 เมษายน 2568 เวลา 10.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงาน ว่า ที่ศาลเจ้าญี่ปุ่น ชั้น 1 ศูนย์การค้าเซ็นทรัล ศรีราชา จ.ชลบุรี นายพงศ์ธสิษฐ์  ปิจนันท์  รองผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี เป็นประธานในพิธีเฉลิมฉลอง และเปิดศาลเจ้าชินโตศรีราชา แห่งที่ 2 ที่เซ็นทรัล ศรีราชา  พร้อมด้วย นายทัตสึชิ นิชิโอะกะ  รองหัวหน้าคณะผู้แทนการทูต สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย, นายมาซาฮิโร  อาเบะ ผู้ก่อตั้งศาลเจ้าชินโตศรีราชา ,นางปณิดา พันธุ์โชติ นายอำเภอศรีราชา , เพ็ญภัสสร ตงศิริ ผู้จัดการทั่วไป ศูนย์การค้าเซ็นทรัลศรีราชา ,นายกิตติศักดิ์  กิจโชคเจริญสกุล ประธานที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ กต.ตร.สภ.ศรีราชา, พ.ต.อ.สุรกิจ อินอ่ำ ผกก.สภ.ศรีราชา และแขกผู้มีเกียรติทั้งชาวไทยและชาวญี่ปุ่น ร่วมในพิธี

 

ซึ่งศาลเจ้าชินโต ศรีราชา แห่งนี้ จัดสร้างขึ้นตามแบบฉบับความเชื่อของศาสนาชินโตของประเทศญี่ปุ่น เพื่อเป็นจุดศูนย์รวมจิตใจของชาวญี่ปุ่นในพื้นที่ ภายในศาลเจ้าประดิษฐาน 2 เทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์ตามความเชื่อของชาวญี่ปุ่น ได้แก่ เทพเจ้า “อามาเตราซุโนะโอมิกามิ” เทพสูงสุดที่เป็นสัญลักษณ์ของดวงอาทิตย์และแสงสว่าง ความเมตตา ความเป็นจริง และระเบียบแบบแผน พร้อมด้วย เทพีแห่งความอุดมสมบูรณ์ “อุคะโนะมิทามะ โนะ คามิ” 

ทั้งนี้ เมื่อก้าวเข้าสู่ศาลเจ้า จะพบกับ “เสาประตูโทริอิ” (Torii) สัญลักษณ์ของการเข้าสู่เขตแดนศักดิ์สิทธิ์ เชื่อมต่อโลกมนุษย์กับเทพเจ้า ในบรรยากาศสงบ ภายใน “ไฮเด็น” (Heiden) ที่เปิดให้สักการะและเคารพเทพเจ้า ส่วนลึกของศาลเจ้า คือ “ฮนเด็ง” (Honden) ที่ประดิษฐาน “ชินไท” (Goshintai) อันเป็นที่ประทับของเทพเจ้า ศาลเจ้านี้ไม่เพียงเป็นสถานที่สักการะ แต่ยังเป็นศูนย์รวมจิตใจ สื่อถึงความงดงามของวัฒนธรรมญี่ปุ่นท่ามกลางบรรยากาศทันสมัยของศูนย์การค้าเซ็นทรัล ศรีราชา  

สำหรับศาลเจ้าชินโต ศรีราชา ณ เซ็นทรัล ศรีราชา เปรียบเสมือนศูนย์รวมจิตใจของชุมชนญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในอำเภอศรีราชา จ.ชลบุรี และคนญี่ปุ่นทั่วประเทศที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย จากข้อมูลสถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย พบว่าในศรีราชา มีการแจ้งถิ่นที่อยู่ของชาวญี่ปุ่น จำนวน 6,500 คน ถือว่าเป็นเมืองที่มีประชากรชาวญี่ปุ่นหนาแน่นที่สุดในไทย จนได้รับการขนานนามว่า Little Osaka ตามธรรมเนียมของชาวญี่ปุ่นนิยมมาสักการะศาลเจ้าในโอกาสสำคัญๆ เช่น ช่วงเปลี่ยนผ่านของชีวิต วันขึ้นปีใหม่ หรือเมื่อเด็กมีอายุครบ 3, 5 และ 7 ปี เพื่อขอบคุณเทพเจ้าที่ช่วยคุ้มครองให้ใช้ชีวิตได้อย่างราบรื่นในแต่ละวัน หรือ เกี่ยวกับสุขภาพ การศึกษา หรือการงาน  เมื่อต้องการรับเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ เพื่อปัดเป่าเคราะห์ภัยและเสริมสิริมงคล ซึ่งจะช่วยสร้างแรงบันดาลใจ และเติมเต็มการเดินทางของนักท่องเที่ยวด้วยมิติทางจิตใจและวัฒนธรรม