ย้อนรอย ครม.สัญจร นครพนม ครั้งแรก เมื่อปี 2547 อดีตนายกทักษิณ ชินวัตรอนุมัติสร้างสะพานข้ามแม่น้ำโขง นครพนม-คำม่วน งบประมาณกว่า 1,700 ล้านบาท ตั้งมหาวิทยาลัยนครพนม เชื่อมั่น ครม.สัญจร ครั้งที่สอง 27-29 เมษายน นี้ ต้องเกิดโครงการใหญ่ เปลี่ยนเมืองนครพนม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ จ.นครพนม ย้อนกลับไปเมื่อ 20 ปีที่ผ่านมา เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2547 มีการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ครั้งแรกของนครพนม นำโดยอดีตนายกทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนที่ 23 ของประเทศไทย ถือว่าสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับจังหวัดนครพนม เนื่องจากมีการอนุมัติโครงการก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทยลาวแห่งที่สาม นครพนม - คำม่วน งบประมาณกว่า 1,700 ล้านบาท โดยใช้งบประมาณจากรัฐบาลไทย เริ่มก่อสร้างในปี 2552 แล้วเสร็จในปี 2554 นอกจากนี้ยังมีการอนุมัติก่อตั้ง มหาวิทยาลัยนครพนม เพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษา
อีกทั้งยังได้เห็นความสัมพันธ์อันดีระหว่าง ไทยกับเวียดนาม เนื่องจากอดีตประธานาธิบดีโฮจิมินห์ เคยมาพำนัก ที่ บ้านนาจอก ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม ในช่วงปี 2471 – 2473 ก่อนที่จะกลับไปกอบกู้เอกราช ทั้งนี้อดีตนายกทักษิณ จึงได้สนับสนุนงบประมาณก่อสร้างพิพิธภัณฑ์ หมู่บ้านมิตรภาพไทยเวียดนาม ที่บ้านนาจอก ต.หนองญาติ อ.เมืองนครพนม โดยมี อดีต นายกทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิด เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2547 กลายเป็นจุดเริ่มต้นการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ ของนครพนม
จนมาถึงการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ครั้งที่สอง ถือเป็นโอกาสดีในรอบ 20 ปี ของชาวจังหวัดนครพนม กำหนดประชุมระหว่างวันที่ 27-29 เมษายน 2568 โดยการนำของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบัน จังหวัดนครพนมร่วมกับภาครัฐเอกชน หอการค้าจังหวัดนครพนม และภาคประชาชน มีการเสนอนโยบายสำคัญ 3 เรื่อง คือการของบประมาณสนับสนุนการจัดงานไหลเรือไฟโลก เชื่อมสัมพันธ์สี่ประเทศ ไทย ลาว จีน และเวียดนาม เน้นส่งเสริมกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ในรูปแบบของการจัดงานที่สร้างสีสันยิ่งใหญ่มากขึ้น ส่วนโครงการที่สองคือการเสนอจัดตั้งคณะแพทย์ศาสตร์ ของมหาวิทยาลัยนครพนม เพื่อเพิ่มบุคลากรทางการแพทย์ และเพิ่มศักยภาพในการดูแลรักษาสุขภาพประชาชน และโครงการที่สาม คือการพัฒนาเส้นทางคมนาคมการท่องเที่ยวโครงสร้างพื้นฐาน ยกระดับนครพนมจากเมืองลองเป็นเมืองหลัก สู่การพัฒนาเศรษฐกิจการค้าการท่องเที่ยว
ทั้งนี้ เชื่อว่าการ ประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ในครั้งนี้ จะต้องเกิดการเปลี่ยนแปลงด้านการพัฒนากับจังหวัดนครพนม และจะต้องมีการอนุมัติโครงการใหญ่ ที่จะส่งผลดีต่อการพัฒนานครพนมแบบก้าวกระโดดมากขึ้น อย่างแน่นอน