V-ZUG เผยโฉมสตูดิโอแฟล็กชิปของเมืองไทย เปิดประตูสู่นิยามไลฟ์สไตล์อัลตร้าลักซ์ชัวรี่ ผ่านประสบการณ์ไฟน์ไดนิ่งสุดเอ็กซ์คลูซีฟ

V-ZUG (เฟา-ซูก) แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านระดับอัลตร้าลักซ์ชัวรี่ชั้นนำจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เปิดสตูดิโอแฟล็กชิปใจกลางกรุงเทพมหานคร เพื่อต้อนรับแขกคนพิเศษได้ สัมผัสประสบการณ์ไลฟ์สไตล์พรีเมียมผ่านมื้ออาหารสุดเอ็กซ์คลูซีฟ รังสรรค์โดยเชฟระดับมิชลินสตาร์ที่มาสาธิตการปรุงอาหารด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้าจากแบรนด์ V-ZUG อันโดดเด่นด้วยดีไซน์และเทคโนโลยีสุดทันสมัยที่ช่วยยกระดับการประกอบอาหารในที่พักอาศัยสู่มื้ออาหารแบบไฟน์ไดนิ่ง สตูดิโอแฟล็กชิป V-ZUG กรุงเทพฯ ตั้งอยู่ ณ อาคารบุปผจิต สาทร เป็นดั่งงานศิลปะที่ถ่ายทอดเรื่องราวของความยั่งยืน นวัตกรรม และศาสตร์การประกอบอาหารชั้นสูง ด้วยพันธกิจหลักของแบรนด์ที่ส่งต่อกันมากว่า 100 ปี ของงานฝีมือแบบสวิส ผ่านการบอกเล่าถึงการผสมผสานที่ลงตัวของความเป็นเลิศด้านศาสตร์ ศิลป์ และอาหาร แก่ผู้บริโภคชาวไทยที่พิถีพิถันกับการใช้ชีวิต

แองเจลีน ยับ กรรมการผู้จัดการ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กล่าวว่า “สตูดิโอ ที่กรุงเทพฯ แห่งนี้เป็นมากกว่าแค่โชว์รูม แต่เป็นเสมือนห้องครัวชั้นสูงที่เทคโนโลยีมาบรรจบกับงานศิลป์ ซึ่งหลอมรวมสิ่งที่แบรนด์ต้องการส่งต่อเพื่อเติมเต็มไลฟ์สไตล์ระดับลักซ์ชัวรี่ ผ่านนวัตกรรมที่ยั่งยืนและดีไซน์เหนือกาลเวลา ไม่ว่าคุณจะเป็นเชฟมือโปรหรือเป็นมือใหม่หัดเข้าครัว ด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้าสุดล้ำของแบรนด์ V-ZUG ที่ได้รับการออกแบบให้การทำอาหารเป็นเรื่องง่าย จุดประกายความสร้างสรรค์ และสร้างแรงบันดาลใจในทุกระดับ” 

ในโอกาสเปิดตัวสตูดิโออย่างเป็นทางการ นอกจากแขกผู้มีเกียรติจะได้ชมผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์สุดหรูหราส่งตรงจากประเทศสวิสเซอร์แลนด์แล้ว ยังได้ท่องไปกับมื้ออาหารสุดดื่มด่ำที่รังสรรค์โดยเชฟชื่อดังระดับมิชลินสตาร์การันตีด้วยรางวัลมากมาย ได้แก่ เชฟแซม ลีออง และ เชฟฟอเรสต์ ลีออง จากร้าน Forest森 ระดับหนึ่งดาวมิชลิน, เชฟเดวิด ฮาร์ทวิก อดีตหัวหน้าเชฟแห่งร้าน IGNIV Bangkok ระดับหนึ่งดาวมิชลิน และเชฟอภิสิทธิ์ จิตรประสงค์ และทีมเชฟจาก V-ZUG Gourmet Academy มาสาธิตการทำอาหารแบบไฟน์ไดนิ่งด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้า V-ZUG ที่ผนวกศาสตร์และศิลป์ออกมาเป็นเมนูร่วมสมัย ที่ดึงความโดดเด่นของวัตถุดิบที่เป็นธรรมชาติจากแหล่งที่มาที่ยั่งยืน และปรุงด้วยวิธีการควบคุมอุณหภูมิอย่างเหมาะสมตามปรัชญาของ V-ZUG 
 
 
แองเจลีน ยับ กรรมการผู้จัดการ ประจำภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ฉลองความสำเร็จการเปิดสตูดิโอแฟล็กชิป
V-ZUG แห่งแรกในประเทศไทย พร้อมด้วยเชฟโจเอล โอว (หนึ่งจากซ้าย) เชฟแซม ลีออง (สองจากซ้าย) เชฟฟอเรสต์ ลีออง (สามจากซ้าย) เชฟเคลิซ่า ลี (สามจากขวา) เชฟเดวิด ฮาร์ทวิก (สองจากขวา) เชฟแอมบาสเดอร์ของแบรนด์ V-ZUG พร้อมด้วยเชฟอภิสิทธิ์ จิตรประสงค์ (ขวาสุด) ตัวแทนทีมเชฟจาก V-ZUG Gourmet Academy ประจำประเทศไทย ร่วมแสดงฝีมือการปรุงอาหารระดับไฟน์ไดนิ่งรสเลิศ ต้อนรับแขกผู้มีเกียรติในงาน 

มื้ออาหารสุดพิเศษในครั้งนี้ ได้เป็นตัวแทนบอกเล่าถึงความเป็นนวัตกรรมที่ยั่งยืนของแบรนด์ที่รังสรรค์ออกมาเป็นคอร์สไฟน์ไดนิ่งที่นำเสนอส่วนผสมพรีเมียมจากธรรมชาติ ผ่านขั้นตอนการปรุงอย่างพิถีพิถันและผสานเทคนิคเฉพาะตัวของเหล่าเชฟ จัดเสิร์ฟเป็นฟูลคอร์ส แต่ละเมนูเต็มไปด้วยรสชาติล้ำลึก เริ่มจากจานเรียกน้ำย่อย (Appetizer) จานที่เสนอรสชาติอันซับซ้อนของเนื้อ ซอสพริก และบีทรูท ให้ความรู้สึกสดชื่น เปิดต่อมความอยากรับประทานอาหารได้เป็นอย่างดี ตามด้วยเมนูซุป (Soup) ที่ปรุงเป็นโจ๊กข้าวบาร์เลย์กุ้ง ต่อด้วยอองเทร (Entrée) เสิร์ฟปลาชาร์อาร์กติกนึ่งที่อุณหภูมิ 50 องศาเซลเซียสด้วยการใช้ฟังก์ชั่น Vacusine ของตู้อบอเนกประสงค์จาก V-ZUG จับคู่กับแคร์รอตและมันฝรั่งที่ให้รสสัมผัสอันละมุนละไม เรื่อยมาถึงจานหลัก (Main) เป็นไก่ย่างยัดไส้ข้าวเหนียว ปรุงโดยผ่านกรรมวิธีการย่างในเตาอบที่อุณหภูมิ 230 องศาเซลเซียส และมาห่อรอบข้าวเหนียวที่นึ่งไอน้ำด้วยอุณหภูมิ 65 องศาเซลเซียส จนได้ทั้งความนุ่มและชุ่มฉ่ำเต็มรสชาติแบบเอเชีย ปิดท้ายมื้ออาหารด้วยขนมหวาน (Dessert) ในชื่อ “Texture” ที่ให้รสชาติสลับซับซ้อนสมชื่อ ประกอบด้วยเมอแร็งก์มะพร้าว มะม่วง และตะไคร้  แต่ละเมนูได้ถ่ายทอดความเหนือชั้นของเทคโนโลยีที่ใช้ในเครื่องใช้ไฟฟ้าของ V-ZUG ตั้งแต่การนึ่งอันเที่ยงตรง จนถึงการย่างด้วยอุณหภูมิต่ำ ที่แสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพอันไร้ขีดจำกัดในการปรุงอาหารที่บ้านด้วยนวัตกรรมระดับมืออาชีพจากแบรนด์ V-ZUG

จานเรียกน้ำย่อย (Appetizer): เนื้อ l ซอสพริก l บีทรูท

ซุป (Soup): โจ๊กข้าวบาร์เลย์ l กุ้ง

อองเทร (Entrée): ปลาชาร์อาร์กติก l มันฝรั่ง l แคร์รอต

จานหลัก (Main): ไก่ย่างสอดไส้ข้าวเหนียว l เห็ด l ซอสพริกแกงแดง 

ขนมหวาน: “Texture” มะม่วง l ตะไคร้ l มะพร้าว

นอกจากมื้ออาหารแบบฟูลคอร์สแล้ว ในงานเปิดตัวยังจัดเมนูสำหรับอาฟเตอร์นูนที (Afternoon Tea) หรือของว่างสำหรับงานเลี้ยงน้ำชายามบ่าย จัดเสิร์ฟเป็นเมนูรับประทานง่าย ๆ แบบพอดีคำ รวมไว้ทั้งคาวและหวานให้เลือกสรร เข้าคู่กันกับการดื่มชาดำหอมกรุ่น อย่างสลัดเคลกรอบและมะม่วง, แตงกวานึ่งท็อปด้วยแคร์รอตบด เพิ่มความสดชื่นด้วยน้ำเลมอน, ปลาค็อดอบน้ำผึ้งแกล้มด้วยขิงดอง, แซลมอนมิซุยพร้อมน้ำสลัดบัตเตอร์มิลค์, ทอดมันกุ้งราดซอสมาโยพริก, ซาเบล่คุ้กกี้สไตล์ฝรั่งเศสรสตะไคร้สอดไส้มะพร้าว และครัวซองต์ราสเบอร์รี่และพิสตาชิโอ ซึ่งทุกเมนูได้รับความประทับใจจากแขกผู้ร่วมงานที่ไม่เพียงได้ลิ้มลองอาหารเลิศรส แต่ยังได้มาร่วมสัมผัสประสบการณ์สุดเอ็กซ์คลูซีฟด้วยกันที่สตูดิโอ V-ZUG กรุงเทพฯ ด้วย

สลัดเคลกรอบและมะม่วง

แตงกวา l แคร์รอต l เลมอน

ปลาค็อดอบน้ำผึ้ง l ขิงดอง

แซลมอนมิซุย l น้ำสลัดบัตเตอร์มิลค์ l ผักชีลาว

ทอดมันกุ้ง l ซอสมาโยพริก

ซาเบล่คุ้กกี้สไตล์ฝรั่งเศสรสตะไคร้สอดไส้มะพร้าว 

ครัวซองต์ราสเบอร์รี่และพิสตาชิโอ 

เคว-ลาปิส หรือขนมชั้นสิงคโปร์

กิจกรรมนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการนำเสนอไลฟ์สไตล์ระดับอัลตร้าลักว์ชัวรี่ ที่ V-ZUG พร้อมเชิญให้มาเยี่ยมชม และสัมผัสกับนวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าคุณภาพสุดพรีเมียม ที่ผลิตขึ้นมาอย่างปราณีตและการันตีคุณภาพตามมาตรฐาน Swiss Made บนแนวทางของความยั่งยืน สตูดิโอแฟล็กชิป V-ZUG กรุงเทพฯ ตั้งอยู่ที่ชั้น G อาคารบุปผจิต สาทร เปิดต้อนรับลูกค้าที่สนใจเข้าชมการสาธิตผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ในครัวและดูแลเสื้อผ้าระดับพรีเมียม พร้อมทีมผู้เชี่ยวชาญของแบรนด์ที่จะนำคุณเข้าสู่โลกของแบรนด์ V-ZUG และคุณสมบัติอันโดดเด่นของแต่ละผลิตภัณฑ์อย่างใกล้ชิดและเป็นส่วนตัว

     
 
 
บรรยากาศในสตูดิโอ V-ZUG กรุงเทพฯ

-จบ-

ข้อมูลเพิ่มเติม: 

เชฟเดวิด ฮาร์ทวิก (Chef David Hartwig) 
เชฟเดวิด ฮาร์ทวิก ชาวสวิตเซอร์แลนด์ พร้อมด้วยประสบการณ์ปรุงอาหารในร้านอาหารระดับหรูทั่วโลกกว่า 15 ปี รวมถึงที่สวิตเซอร์แลนด์ เยอรมนี นิวยอร์ก และกรุงเทพฯ  เขาได้รับการฝึกฝนจากเชฟระดับมิชลินสตาร์มากมาย ไม่ว่าจะเป็น เชฟมาร์ติน กึบเชล(Martin Gbschel), เชฟเคิร์ท กูเต็นบรุนเนอร์ (Kurt Gutenbrunner), เชฟแดเนียล ฮุมม์ (Daniel Humm), และเชฟเจมส์ เคนท์ (James Kent) เขาทุ่มเทให้กับการเปิดร้านอาหารระดับมิชลินสตาร์ 3 ดาว ด้วยบทบาทของเขากับการเป็นเชฟ เดอ ปาร์ตี (Chef de Partie) หัวหน้าแผนกครัวที่ร้าน Schloss Schauenstein ของ อันเดรียส์ คามินาดา (Andreas Caminada) ที่สร้างสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์กับเมนูที่มีความโก้หรูและสนุกสนานด้วยการใช้วัตถุดิบสดใหม่ตามฤดูกาล ในฐานะอดีตหัวหน้าเชฟที่ร้าน IGNIV Bangkok เขานำร้านนี้พิชิตมิชลินสตาร์ได้สำเร็จในปี 2563 และได้รับมาอย่างต่อเนื่องถึง 4 ปีซ้อน   

เชฟแซม ลีออง (Sam Leong): ไอคอนแห่งการทำอาหารตำรับเอเชีย
ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี เชฟแซม มีการันตีชื่อชั้นด้วยรางวัลด้านอาหารเอเชียมากมาย ด้วยความโดดเด่นในการคิดค้นกรรมวิธีใหม่ ๆ ในการปรุงอาหารจีน เขาถือเป็นผู้ทรงคุณวุฒิด้านการประกอบอาหารอย่างแท้จริง โดยเขาได้รับคำเชิญให้ปรุงอาหารเสิร์ฟอดีตประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา คือ จอร์จ บุช และบิล คลินตัน, สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 และลีกวนยู บิดาผู้ก่อตั้งประเทศสิงคโปร์ ณ Singapore Istana  การเดินทางของแซมเริ่มขึ้นเมื่อเขาอายุได้ 15 ปี ภายใต้การฝึกปรือจากคุณพ่อของเขาที่เป็นพ่อครัวอาหารกวางตุ้งมือฉมังด้วยฝีมือการปรุงหูฉลามอันเลื่องลือ  แซมเริ่มต้นอาชีพของเขาที่โรงแรมโฟร์ซีซัน สิงคโปร์ ต่อด้วยการดำรงตำแหน่งหัวหน้าที่กลุ่มบริษัททัง ลก ซึ่งเขามีบทบาทสำคัญในการวางรูปแบบอาหารจีนสไตล์ไฟน์ไดนิ่งยุคใหม่  และยังมีส่วนสำคัญในการคว้ามิชลินสตาร์แรกของร้านอาหารจีนในสิงคโปร์อีกด้วย เชฟแซมเป็นที่รู้จักเป็นอย่างดีจากเมนูซิกเนอเจอร์ของเขาที่ก้าวข้ามขอบเขต และยังมีการผสมผสานเอกลักษณ์ของความถ่อมตน ความสร้างสรรค์ และนวัตกรรม ที่สร้างนิยามใหม่ให้อาหารเอเชียบนเวทีโลก

เชฟฟอเรสต์ ลีออง Forest Leong  
การผจญภัยบนเส้นทางสายอาหารของเชฟฟอเรสต์เริ่มต้นขึ้นเมื่อเธออายุได้เพียง 5 ขวบ ซึ่งจุดประกายความหลงใหลในอาหารไทยแบบดั้งเดิมที่เธอได้รับการบ่มเพาะจากการสอนโดยคุณพ่อผู้เป็นเชฟที่มีพรสวรรค์ของเธอเอง ด้วยความกระตือรือร้นและความปรารถนาอันแน่วแน่ที่จะแบ่งปันความรู้ของเธอ ฟอเรสต์ได้กลายมาเป็นครูสอนทำอาหารที่เชี่ยวชาญทั้งอาหารจีนและอาหารไทย เธอยังได้เขียนตำราอาหาร “Cooking Classics Thailand: A Step-by-Step Cookbook” และ “The Best of Thai Home Cooking” ที่สร้างแรงบันดาลใจนับไม่ถ้วนแก่ผู้ปรุงอาหารที่บ้านได้รู้จักกับรสชาติอันจัดจ้านของอาหารไทยและประเพณีไทย

เซฟอภิสิทธิ์ จิตรประสงค์ (เชฟตัวแทนจาก V-ZUG Gourmet Academy ประเทศไทย)
เชฟอภิสิทธิ์ จิตรประสงค์ ที่มาพร้อมความเชี่ยวชาญด้านศาสตร์การอาหารและโภชนาการ ที่ทำให้เขาเป็นผู้ที่เหมาะสมในการเข้าร่วมทีม V-ZUG Gourmet Academy ประจำประเทศไทย ด้วยความถนัดทั้งอาหารตะวันตกและอาหารไทย พร้อมด้วยดีกรีวิทยาศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาพิษวิทยาและโภชนาการเพื่ออาหารปลอดภัย จากมหาวิทยาลัยมหิดล ความเชี่ยวชาญเหล่านั้นทำให้เชฟอภิสิทธิ์สามารถสร้างสรรค์เมนูอาหารที่มีรสชาติอันสมดุลได้ด้วยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งในปฏิกิริยาระหว่างส่วนผสมในอาหาร นอกจากนี้ เชฟอภิสิทธิ์ยังเป็นครูสอนทำอาหารผู้เชี่ยวชาญที่วิทยาลัยดุสิตธานี และสถาบันการอาหารเดอะวีสคูล (The V School) ทั้งยังมีรางวัลการันตีฝีมือด้านการทำอาหารอีกมากมาย ที่รวมถึงรางวัลเหรียญทองด้านอาหารไทยสมัยใหม่จากการแข่งขันค้นหาสุดยอดเชฟไทย Thailand's International Culinary Cup (TICC)  ในฐานะเชฟประจำสตูดิโอของ V-ZUG เขาเป็นผู้นำในการคิดค้นเมนูต่าง ๆ ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์ของแบรนด์ V-ZUG ที่นำเทคโนโลยีล้ำสมัยมาสร้างสรรค์เมนูใหม่ ๆ รวมถึงการจัดกิจกรรมเอ็กซ์คลูซีฟที่สตูดิโอ เพื่อส่งต่อแรงบันดาลใจแก่ผู้ที่ทำอาหารเองที่บ้านได้รับประสบการณ์และผลลัพธ์เฉกเช่นการปรุงอาหารแบบมืออาชีพได้จริงด้วยเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวจาก V-ZUG