“ภูมิธรรม”  เปิดทาง บอก ยังไม่ตัดสินใจ ซื้อ
Gripen แต่ทอ.เลือกมา รอเข้า ครม. ก่อน หากสหรัฐฯกดดัน ซื้อ F16  แลกลดภาษี  รอฟัง ทีม ไทยแลนด์ เจรจา สหรัฐฯส่วน ซื้อรถเกราะ สไตร้ค์เกอร์ รอ ทบ.เสนอแต่บ่ายนี้ ไปดู กองพล Stryker ซ้อมรบ ที่ลพบุรี

นายภูมิธรรม  เวชยชัย  รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึง การสนับสนุนข้อมูล และโครงการเพื่อให้คณะตัวแทนรัฐบาลไทย เจรจากับรัฐบาลสหรัฐอเมริกา 23 เมษายนนี้  ในส่วนของกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพ   โดยเฉพาะ  ทอ  หาก สหรัฐฯกดดัน ให้ซื้อ F16  แทน Gripen สวีเดน  แลกลดกำแพงภาษีและ โครงการซื้อ รถเกราะ Stryker  จากสหรัฐฯ  เพิ่มเติม ให้ กรม ร.111  พล.ร.11

นายภูมิธรรม กล่าวถึงกรณีที่ทีมไทยแลนด์ หรือคณะเจรจาเกี่ยวกับนโยบายด้านเศรษฐกิจและการปรับขึ้นภาษีกับทางรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งนำโดย นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ในฐานะหัวหน้าคณะ ได้เดินทางเยือนสหรัฐฯ เพื่อเตรียมเจรจาในวันที่ 23 เม.ย. นี้ ได้มีการปรึกษาหารือด้านการจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ของทางกระทรวงกลาโหมและเหล่าทัพ จากสหรัฐฯ เพิ่มเพื่อช่วยปรับดุลย์การค้าระหว่างกัน นำไปสู่ผลดีในการเจรจาหรือไม่ ว่า เคยได้รับการปรึกษา เนื่องจากทุกหน่วยงานได้รับข้อสั่งการจากนายกรัฐมนตรี ให้ประเมินผลกระทบที่จะเกี่ยวข้องกับการปรับภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ ซึ่งกระทรวงกลาโหมได้สรุปไปแล้วว่าดำเนินการอย่างไรบ้าง โดย ต้องรอดูผลการเจรจาของ นายพิชัย เสียก่อน   

นายภูมิธรรม  ยืนยันว่า นายพิชัย ได้รับทราบข้อมูลจากทุกกระทรวง พร้อมทั้งหารือกับทีมที่ปรึกษาแล้ว เพื่อนำไปใช้ในการเจรจาหารือครั้งนี้ 

พร้อม ระบุว่ากระทรวงกลาโหม กับ กองทัพสหรัฐฯ ไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน ยังมีการดำเนินความสัมพันธ์ในฐานะพันธมิตรที่ใกล้ชิด สนับสนุนซึ่งกันและกัน รวมทั้งดูแลกันและกันเป็นอย่างดีมาโดยตลอด
      
ส่วนกรณีที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า มาตรการภาษีตอบโต้ครั้งนี้ อาจส่งผลต่อการพิจารณาจัดซื้อเครื่องบินGripen ของ ทอ. จากสวีเดน เพราะสหรัฐอเมริกา อาจกดดันให้ซื้อ F16 ของสหรัฐฯ นั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรื่อง F16 ได้มีการคุยกับตัวแทนจากสหรัฐฯ แล้ว ซึ่งมีเงื่อนไขสำคัญ คือจะให้ไทยกู้เงินจากรัฐบาลสหรัฐฯ เพื่อมาจัดซื้อฝูงบิน F-16 ซึ่งไทยไม่เคยดำเนินการในลักษณะนี้ คือ การกู้เงินเพื่อมาซื้อเครื่องบินรบ ในขณะที่ภายในประเทศก็ยังคงมีปัญหาเรื่องอื่น ๆ อยู่ 

ดังนั้น ไทย จึงไม่สามารถทำตามเงื่อนไขนี้ได้ รวมถึง ขณะนี้ไทยยังมีฝูงบิน F16 อยู่ 1 ฝูง 

ส่วน Gripen ที่กำลังจะจัดซื้อ 1 ฝูงนั้น ยังอยู่ระหว่างการตัดสินใจ และยังไม่ได้นำเสนอเข้าสู่การประชุมคณะรัฐมนตรี ขณะนี้ เป็นเพียงความต้องการของกองทัพอากาศ ซึ่งอยู่ในระหว่างการรับฟัง

นอกจากนี้ หากผลการเจรจามีแนวโน้มต้องจัดซื้อยุทโธปกรณ์จากสหรัฐฯ เพิ่ม อาจมีการพิจารณาเป็นเครื่องบินลำเลียง แทนเครื่องบินรบหรือไม่ เนื่องจากเครื่อง C-130 ที่ประจำการอยู่ขณะนี้ก็มีอายุมากแล้ว นายภูมิธรรมระบุว่า ยังคงต้องรอความชัดเจนถึงผลการเจรจา ข้อต่อรองต่าง ๆ และผลประโยชน์ของประเทศชาติ รวมทั้งต้องไม่กระทบกระเทือนถึงแผนการปฏิรูปแห่งชาติของกระทรวงกลาโหม 

ส่วนแผนการจัดซื้อยานเกราะ Stryker จากสหรัฐฯ ของกองทัพบก นั้น นายภูมิธรรม  กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่เห็นแผนการจัดซื้อชัดเจน รวมถึงการจัดสรรงบประมาณ ประจำปีงบ  2569 ยังไม่แล้วเสร็จ จึงยังไม่ทราบว่าเหล่าทัพใดจะได้รับยุทโธปกรณ์เพิ่มเติมอย่างไร