PSP ผู้นำด้านโซลูชันผลิตภัณฑ์หล่อลื่นแบบครบวงจร ฉายภาพด้านการส่งออกผลิตภัณฑ์หล่อลื่น ทั้งผลิตภัณฑ์หล่อลื่นยานยนต์และอุตสาหกรรม จาระบี น้ำมันผสมยาง และน้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้า ชู 4 กุญแจสู่ความสำเร็จในตลาดต่างประเทศ มุ่งเพิ่มวอลลุ่มการส่งออกต่อเนื่องทุกปี ตั้งเป้าส่งออกโต 20% ในปี 2568 สู่เป้าระยะยาวเพิ่มสัดส่วนยอดขายต่างประเทศเป็น 30% ภายในปี 2571 สอดรับความต้องการที่เพิ่มขึ้นในตลาดโลก โชว์ความได้เปรียบทางการแข่งขัน ทั้งด้านคุณภาพ มาตรฐานการผลิต ต้นทุน และสถานที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ที่เอื้อต่อการส่งออก เหนือกว่าด้วยประสบการณ์ 35 ปี ในการดำเนินธุรกิจ ความเชี่ยวชาญของบุคลากร กำลังการผลิตที่สูงที่สุดในอาเซียน และคุณภาพสินค้ามาตรฐานระดับโลกพร้อมแล็บฯ ทดสอบที่มีเครื่องมือครบครัน ปัจจุบัน PSP ส่งออกไปยัง 5 ทวีป รวมมากกว่า 40 ประเทศทั่วโลก เล็งเพิ่มยอดขายในแอฟริกาและอเมริกากลางปีนี้

วันที่ 21 เมษายน 2568 นายเสกสรร ครองพาณิชย์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พี.เอส.พี. สเปเชียลตี้ส์ จำกัด (มหาชน) หรือ PSP กล่าวว่า PSP เล็งเห็นโอกาสในตลาดต่างประเทศ จากทั้งความต้องการผลิตภัณฑ์หล่อลื่นยานยนต์และอุตสาหกรรม จาระบี น้ำมันผสมยาง และน้ำมันหม้อแปลงไฟฟ้า ประกอบกับการเป็นเจ้าตลาดในประเทศที่มีส่วนแบ่งการตลาดสูงที่สุด จึงปรับกลยุทธ์และให้ความสำคัญในการขยายตัวในต่างประเทศให้มากขึ้น โดยบริษัทได้ริเริ่มศึกษาตลาดต่างประเทศเพื่อการส่งออกเมื่อ 15 ปีก่อน โดยในช่วงแรกของการส่งออกเป็นการส่งออกน้ำมันพื้นฐาน หรือ Base Oil ผลิตภัณฑ์พิเศษ และผลิตภัณฑ์หล่อลื่นพร้อมขาย ไปยัง ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ฮ่องกง ไต้หวัน และเมียนมา มีปริมาณส่งออกไม่ถึง 10 ล้านลิตรต่อปี

“เราเริ่มบุกตลาดต่างประเทศมากขึ้นเมื่อประมาณ 8 ปีที่แล้ว ขยับวอลลุ่มการส่งออกเป็น 13 ล้านลิตรต่อปี โดยดึงวอลลุ่มจากลูกค้ารายใหญ่ในสิงคโปร์ ซึ่งมีอัตราการเติบโตด้านการส่งออกของ PSP เฉลี่ยอยู่ที่ 5% ต่อปี และขยับมาเติบโตเฉลี่ย 13% ในช่วง 10 ปีหลัง โดยในช่วงแรก PSP ส่งออก น้ำมันหล่อลื่นพื้นฐานและน้ำมันผสมยาง เป็นส่วนใหญ่ ขณะที่ผลิตภัณฑ์หล่อลื่นยังเป็นสัดส่วนที่น้อย ต่างจากปัจจุบันที่ส่งออกผลิตภัณฑ์หล่อลื่นในสัดส่วนมากกว่า 50% ของการส่งออกทั้งหมด” นายเสกสรร กล่าว

ทั้งนี้ปัจจัยสำคัญสู่เป้าหมายการเติบโตในตลาดต่างประเทศของ PSP คือ 1.คุณภาพมาตรฐานการผลิต PSP มีศักยภาพในการผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพเหนือผู้ผลิตรายอื่นในตลาด ด้วยมาตรฐานการผลิตที่ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากล อีกทั้งยังมีแล็บที่มีเครื่องมือครบครันครอบคลุมการทดสอบที่หลากหลายตามความต้องการของลูกค้า 2.ต้นทุนการผลิต นอกจากต้นทุนแรงงานที่ได้เปรียบประเทศอื่น ประกอบกับสเกลของธุรกิจที่มีกำลังการผลิตที่สูงที่สุดในอาเซียน มากกว่า 250 ล้านลิตรต่อปี ช่วยให้ PSP สามารถบริหารต้นทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ 3.สถานที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ PSP มีความได้เปรียบจากสถานที่ตั้งของโรงงานผลิตที่มีท่าเรือของตัวเองมากกว่า 5 ท่า ที่พร้อมรับวัตถุดิบจากต่างประเทศ 4.ประสบการณ์ 35 ปี ในการดำเนินธุรกิจ บุคลากรของบริษัทฯ มีความรู้ มีประสบการณ์ และมีความเชี่ยวชาญจากการทำงานมายาวนาน

แนวโน้มการเติบโตในตลาดต่างประเทศที่ผ่านมาของ PSP ในปี 2567 มียอดการส่งออก 43.9 ล้านลิตร เพิ่มขึ้น 30.8% เมื่อเทียบกับยอดการส่งออกในปี 2566 ที่ 33.6 ล้านลิตร โดยในปีที่ผ่านมามีรายได้จากการส่งออกรวม 2,470.2 ล้านบาท หรือเติบโต 32.7% กว่าปี 2566 จาก 1,861.8 ล้านบาท ทั้งนี้ ในปี 2568 นี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าขยายตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น 20% และวางกลยุทธ์ในระยะยาวด้วยการเพิ่มสัดส่วนยอดขายต่างประเทศ จากการส่งออก 19.2% ในปี 2567 เป็น 30% ภายในปี 2571

“ตลาดในต่างประเทศยังมีโอกาสอีกมาก ข้อมูลจาก Kline รายงานว่าเฉพาะในอาเซียนมีปริมาณการใช้น้ำมันหล่อลื่นร่วม 4,000 ล้านลิตร นอกจากนี้ ยังมีผู้เล่นในตลาดผลิตภัณฑ์หล่อลื่นที่เข้ามาสร้างแบรนด์ในประเทศไทยมากขึ้น และเมื่อทำตลาดในประเทศได้ถึงจุดหนึ่ง เจ้าของแบรนด์จะมองหาโรงงานผลิตในประเทศเพื่อลดต้นทุน รวมทั้งมีการพิจารณาให้ PSP เป็นฮับในการส่งออกของภูมิภาค ซึ่งเรามองว่ายังมีพื้นที่ให้เราในตลาดส่งออกอีกมาก ที่สำคัญคือ PSP ยังมีกำลังการผลิตที่เพียงพอ รองรับการขยายตลาดโดยที่ไม่ต้องลงทุนเพิ่มเติม ทั้งนี้ ในปี 2567 ที่ผ่านมา เราได้ขยายตลาดไปยัง ญี่ปุ่น กานา และปานามา ส่วนในปี 2568 นี้ PSP จะรักษาฐานตลาดส่งออกเดิมใน 5 ทวีป รวมมากกว่า 40 ประเทศทั่วโลก รวมทั้งจะขยายตลาดต่างประเทศเพิ่มในแอฟริกาและอเมริกากลาง เพื่อการเติบโตในตลาดต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง” นายเสกสรรกล่าวทิ้งท้าย