บุรีรัมย์ จับแล้ว สาวสอง บุกฟันหลวงตาพิการ จุดไฟเผาคากูฏิโคม่า สารภาพก่อนก่อเหตุเสพยาบ้า 6 เม็ด

คืบหน้า ตร.บุกรวบสาวสองลูกอดีต ผญบ.ที่ก่อเหตุบุกฟันหลวงตาพิการก่อนจุดไฟเผาซ้ำคากุฏิอาการโคม่าได้แล้ว ขณะที่ จยย.หนีข้ามอำเภอมุ่งหน้าพัทยา  ก่อนก่อเหตุเสพยาบ้า 6 เม็ด  พ่อเผยลูกมีอาการหลอนชอบพูดคนเดียวคาดผลพวงจากการใช้สารเสพติด ไม่คิดลูกจะก่อเหตุรุนแรงขนาดนี้ ปล่อยรับโทษตามกฎหมาย

วันที่ 21 เม.ย.68 ความคืบหน้ากรณีที่พระมหาศุภทิน เทวอนรัมย์  หรือ หลวงตาเทะ อายุ 70 ปี  พระลูกวัด วัดบ้านตาเสา ต.ตาเสา  อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ ซึ่งพิการเดินไม่ได้ต้องใช้วีลแชร์ในการดำรงกิจวัตรประจำวันและออกบิณฑบาต  ถูกทำร้ายด้วยการใช้มีดฟันที่ใบหน้าและแขน ก่อนราดน้ำมันจุดไฟเผาซ้ำคากุฏิอาการสาหัส เมื่อช่วงเช้ามืด วันที่ 20 เม.ย.68 ซึ่งพระในวัดไปพบในสภาพเลือดอาบถูกไฟไหม้ตามร่างกาย จึงช่วยกันนำตัวส่ง รพ.ห้วยราช แต่อาการสาหัสจึงส่งไปรักษาต่อที่ รพ.บุรีรัมย์ ขณะนี้อาการโคม่าอยู่ในห้อง ไอซียู.

จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าผู้ก่อเหตุ คือ นายพิษณุ หรือเจ อายุ 34 ปี  เป็นสาวประเภทสอง  ซึ่งชาวบ้านจะเรียกว่า “กะเทยเจ”  หลังก่อเหตุได้หลบหนีไป  ตำรวจได้ลงพื้นที่ติดตามตัว

ล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. วันที่ 20 เม.ย.68 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ ชุดสืบ สภ.ห้วยราช และ สภ.นางรอง สามารถจับกุมตัวนายพิษณุ หรือ เจ ผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นลูกของอดีตผู้ใหญ่บ้าน ได้แล้วที่ปั้มน้ำมันแห่งหนึ่งใน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ พร้อมรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟสีน้ำเงิน และกระเป๋าเสื้อผ้า ขณะกำลังจะหลบหนีไปพัทยา จ.ชลบุรี แต่เกิดน้ำมันหมดจึงได้ส่งข้อความมาขอยืมเงินญาติซึ่งเป็นครู  

เมื่อตำรวจพบความเคลื่อนไหวจากเฟสบุ๊กผู้ก่อเหตุ  ว่ามีการส่งข้อความข้อยืมเงินญาติจำนวน 500 บาท อ้างว่าน้ำมันหมดที่ปั้มโดยบอกกับญาติว่าจะไปพัทยา จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวเข้าจับกุม

จากการสอบถามนายพิษณุ หรือเจ ก็ยอมรับว่าได้ก่อเหตุจริงอ้างมีปัญหาทะเลาะกับหลวงตา และก่อนก่อเหตุได้เสพยาบ้าไป 5-6 เม็ด  จากนั้นเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้นำตัวนายพิษณุ กลับมาที่สภ.ห้วยราช ท้องที่เกิดเหตุเพื่อสอบปากคำและดำเนินคดีตามกฎหมาย.    

ขณะที่ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ไปยัง ปั้มน้ำมันบางจาก อ.นางรอง ที่นายพิษณุ  ถูกจับกุมตัว  จากการสอบถามนางสำรวย ม่านทอง อายุ 62 ปี เจ้าของร้านที่ขายของอยู่ในปั้ม  ก็เล่าให้ฟังว่า ตนมาเปิดร้านในช่วงเช้าเวลาประมาณ 9:00 น. เห็นคนร้ายซึ่งตอนแรกไม่รู้ว่ากระทำความผิดอะไรมา. ได้มานั่งที่โต๊ะหินอ่อนอยู่ข้างๆร้าน. จากนั้นเขามาขอกินน้ำและขอชาร์จแบตมือถือซึ่งตอนนั้นตนก็ไม่ได้อนุญาต  แต่เขาก็กินน้ำที่ถังรวมทั้งเสียบสายชาร์จแบตเอง   จากนั้นตนก็ไม่ได้ถามอะไรมากมาย ดูแล้วเขาไม่ได้มีพิรุธหรือท่าทีกระวนกระวายใดๆ จนกระทั่งช่วงเวลาประมาณ 14:50 น. มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาควบคุมตัว ถึงรู้ว่าเป็นคนร้ายก่อเหตุทำร้ายพระมา  ก็รู้สึกตกใจเหมือนกัน  สอดคล้องกับภาพจากกล้องวงจรปิดในปั้มที่สามารถบันทึกภาพได้

ผกก สภ.ห้วยราช พร้อมพนักงานสอบสวน  และกำลังตำรวจกว่า 30 นาย ได้คุมตัวนายเจ สาวข้ามเพศไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยจุดแรกเป็นจุดบ้านปะคำ ม.2 ห่างจากวัดที่เกิดเหตุประมาณ 5 กม.เป็นจุดที่นายเจ ขี่ จยย.ไปเติมน้ำมัน 20 กว่าบาทช่วงประมาณ 6 ทุ่ม จากนั้นขี่ จยย.กลับบ้านสวน ที่บ้านตาเสา ม.6 ไปดูดเอาน้ำมันออกจากรถ จยย.ใส่ขวด และเอามีดพล้าที่บ้าน แล้วขี่ จยย.ตรงไปก่อเหตุที่วัดช่วงประมาณตี 2 หลังจากก่อเหตุ ก็ได้เอามีดกลับไปไว้ที่บ้าน แล้วล้างตัวพร้อมเปลี่ยนเสื้อผ้าที่เปื้อนเลือดก่อนจะขี่ จยย.หลบหนีไปทางอำเภอนางรอง กระทั่งถูกตำรวจจับกุมตัวได้

หลังทำแผนทีมข่าวได้สอบถามนายเจ ถึงสาเหตุที่ก่อเหตุทำร้ายจุดไฟเผาพระว่ารู้สึกเสียใจหรือไม่ นายเจ  ก็ตอบแบบไม่สะทกสะท้านว่าไม่เสียใจ หลังจากนั้นตำรวจก็คุมตัวขึ้นรถ ท่ามกลางเสียงชาวบ้านตะโกนบอกไม่ต้องให้ออกมาให้ติดคุกตลอดชีวิตไปเลยเพราะรับไม่ได้ที่ทำกับพระสงฆ์แบบนี้  เบื้องต้นถูกแจ้งข้อหา "พยายามฆ่า , บุกรุกเคหะสถานโดยมีอาวุธในยามวิกาล"

ขณะที่นายเขียน อดีตผู้ใหญ่บ้านตาเสา พ่อของนายพิษณุ ผู้ก่อเหตุ บอกว่า ก่อนที่ลูกจะติดทหารเกณฑ์ก็ปกติดีแต่หลังจากปลดทหารแล้วลูกก็เริ่มมีอาการผิดปกติชอบพูดคนเดียว  แต่ยังไม่เคยเห็นแสดงอาการโวยวายหรือทำร้ายคนในครอบครัวหรือชาวบ้านเลย  แต่เมื่อเห็นลูกชายชอบพูดคนเดียวบ่อยๆ ก็รู้สึกกังวล จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบและส่งตัวไปบำบัด แต่พอตรวจไม่เจอสารเสพติดจึงถูกปล่อยตัวมา ก็ไม่คาดคิดว่าลูกจะก่อเหตุทำร้ายหลวงตาได้รุนแรงถึงขนาดนี้ ทั้งที่พระรูปดังกล่าวก็มีศักดิ์เป็นลุงเพราะเป็นพี่ชายของแม่ลูกชายเอง ก็เสียใจและอยากจะถามลูกเหมือนกันทำไมถึงทำแบบนั้น  แต่เมื่อเขาทำผิดก็ต้องปล่อยให้เขารับโทษตามกฎหมาย