วันที่ 20 เม.ย.68  นายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรี   โพสต์เฟซบุ๊กระบุข้อความว่า  รื้อแล้ว ลาลับ ตึกใหม่สตง.

วันนี้ จะเล่าถึงประวัติศาสตร์ของพื้นที่สวนจตุจักรที่อดีตผู้ว่าการสตง.เพิ่งออกมาเล่าด้วยความภูมิใจว่า เหตุใดจึงย้ายมาในที่ใหม่แห่งนี้ ขอทบทวนความจำว่า แต่เดิมพื้นที่บริเวณนี้กว้างใหญ่เป็นพันไร่ อยู่ในการดูแลของการรถไฟแห่งประเทศไทยมากว่าร้อยปี มีบ้านพักพนักงานจำนวนหลายร้อยหลัง เป็นสถานีชุมทางรถไฟบางซื่อเพื่อแยกรถไฟสายใต้และสายเหนือออกจากกัน กระนั้นพื้นที่ก็ยังเหลืออีกเยอะ จึงให้เอกชนเช่าสร้างอาคารร้านค้าเช่น ห้างเซ็นทรัลซึ่งก็ยังอยู่จนทุกวันนี้ มีสนามฝึกกอล์ฟรวมทั้งสนามกอล์ฟ 18 หลุมที่ผมเองก็ได้เคยเป็นสมาชิกอยู่เมื่อครั้งเริ่มรับราชการใหม่ๆ

ต่อมาท่านอดีตนายกฯเปรม ประสงค์จะสร้างสวนพฤกษศาสตร์เพื่อถวายพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ(ในรัชกาลที่ 9) บนพื้นที่สนามกอล์ฟ ซึ่งผมเองในขณะนั้นเป็นอธิบดีกรมป่าไม้ก็ได้ร่วมเป็นคณะกรรมการอยู่ด้วย

ส่วนทางด้านเหนือ กทม. ก็ได้สร้างสวนสาธารณะ และทางด้านใต้สร้างตลาดนัดจตุจักรเพื่อทดแทนสนามหลวง ซึ่งเป็นตลาดนัดขนาดมหึมา และเป็นประโยชน์ต่อคนไทยจำนวนมหาศาล

ที่เล่ามาทั้งหมดนี้ ถ้าสังเกตให้ดีจะเห็นว่า พื้นที่ทั้งหมดถูกใช้เพื่อประโยชน์ของสาธารณะชน โดยเฉพาะกลุ่มคนชั้นกลางและชั้นล่างจำนวนหลายสิบล้านคนทั้งสิ้น หรือจะเรียกว่าทั้งประเทศก็ได้ ผมจึงไม่เข้าใจว่า สตง. ซึ่งเป็นหน่วยราชการที่ไม่เกี่ยวข้องอะไรกับกิจกรรมดังที่ผมเล่ามาแต่ต้น ได้เข้ามาใช้ที่นี้ได้อย่างไร ผมไม่เห็นด้วยเลย และก็เชื่อว่าพ่อค้าแม่ขายแถวๆนั้น เขาก็ไม่ชอบเหมือนกัน

รองผู้ว่าการสตง. ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบโครงการนี้มาแต่ต้น ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ว่า จะขอพื้นที่จากการรถไฟเพิ่มขึ้นอีก 4 ไร่ เพราะมีสิ่งก่อสร้างเพิ่มเข้ามา ผมฟังแล้ว ก็ยิ่งรู้สึกตกใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะผมนึกว่า จะมีผู้ใหญ่ของสตง. ออกมาพูดว่า จะหาที่ใหม่ ไม่อยู่ในที่นี้อีกแล้ว

ในการนี้ผมจึงขอให้ความเห็นเพื่อร่วมกันพิจารณา ดังนี้

1. หากสตง. จะต้องมีอาคารใหม่จริงๆ ก็ควรไปหาที่อื่น เพราะเจ้าที่เจ้าทางก็ดูเหมือนจะไม่มีใจกับพวกท่านแล้ว สตง. ควรจะยืนบนหลักการที่มีมาแต่กำเนิดคือ มีที่ทำการที่สร้างใกล้ชิด เชื่อมต่อกับกรมบัญชีกลางและสำนักงบประมาณ ซึ่งก็เป็นปรัชญาและธรรมเนียมปฏิบัติมาแต่สมัยรัชกาลที่ 6

2. สถาบันธรรมาภิบาลแห่งชาติก็ยุบยกเลิกไปเถอะครับ เพราะธรรมาภิบาลมันเป็นเรื่องของจรรยาบรรณและสามัญสำนึกของความซื่อสัตย์สุจริต ไม่ต้องมีที่ทำการอะไรเลย

3. ห้องประชุม 1000ที่นั่ง พร้อมโรงหนังโรงละครตามที่เป็นข่าวจนชาวบ้านเขางงงวยกันนั้น ผมขอเสนอให้มอบให้กทม. ใช้เป็นพื้นเป็น entertainment areas น่าจะเป็นประโยชน์ที่สุด เช่น เป็นโรงหนัง โรงละคร ที่จัดงาน หรือแม้แต่จัดงานแต่งงาน

4. อาคารสตง. ที่อาจจะสร้างขึ้นมาใหม่อีก สำนักงบประมาณและกรรมาธิการงบประมาณ ควรเข้มงวดหรือแช่แข็งไว้เสียสักพักหนึ่ง และเมื่อใดสร้างขึ้นมาใหม่ ก็อย่าทำให้มันอู้ฟู่ ใช้ของแพงจนคนเขาด่าว่า ให้ใช้มาตรฐานแบบเดียวกับที่สตง. แนะนำหน่วยราชการอื่นให้ปฏิบัตินั่นแหละ เช่น ประธานกรรมการ ผู้ว่าการ ผอ.สำนัก มีห้องทำงานส่วนตัว ตำแหน่งต่ำกว่านั้นต้องอยู่ห้องรวมกัน สำหรับห้องประชุมก็จะจัดโล่งๆ แล้วตั้งเก้าอี้เอาตามจำนวนไม่ต้องมีเก้าอี้อย่างรัฐสภาหรอก และจุผู้คนได้ 4-5ร้อยคนก็พอแล้ว ผมเป็นปลัดกระทรวงเป็นอธิบดีรวมกันแล้วกว่าสิบหน่วย ห้องประชุมก็ใหญ่เท่านี้แหละครับ

5. มีตึกสตง. ผลุดใหม่ในหลายสิบจังหวัด และหลายแห่งก็มีการทิ้งงาน ผมขอให้ทบทวนว่า มันจำเป็นหรือ ท่านไม่ใช่หน่วยงานบริหารราชการส่วนภูมิภาค จึงไม่จำเป็นต้องมีทุกจังหวัด

ท่านนายกรัฐมนตรีและสังคม ได้แสดงความเห็นออกมาชัดเจนว่า เรื่องนี้ต้องหาคนมาลงโทษให้ได้ สำหรับผมเห็นว่า ต้องมีการลงโทษทางอื่นด้วย เช่น การชะลอการก่อสร้างอาคารใหม่ของสตง. ไว้สักพักหนึ่ง เพราะประชาชนเขาไม่ไว้ใจแล้ว สำหรับผู้บริหารระดับสูงที่มีส่วนในการดำเนินการโครงการนี้ ก็ไม่ควรจะได้รับเงินเดือนขึ้นไปอีกสักระยะหนึ่ง ลูกผู้ชายเมื่อทำผิดหรือทำพลาดก็ต้องยืดอกแสดงอะไรออกมาบ้าง

 

 

ขอบคุณ เฟซบุ๊ก ดร.ปลอดประสพ สุรัสวดี