รองผู้ว่ากทม. ยันกู้ซากผู้สูญหาย อาคาร สตง. พบชิ้น-สิ่งของต่อเนื่อง เร่งเข้าโซนB จุดเคยพบสัญญาณชีพ  พร้อมปรับแผนใช้เครื่องจักรเล็กเข้าโซน C เหตุถนนมีขนาดเล็ก ขอเจรจาสำนักงบฯ หลังผู้ประกอบการโอดขาดรายได้ จากการปิดถนน รับเงินช่วยเหลือซ่อมแซมอาคารชุดน้อยจริง เล็งเจรจาปรับเกณฑ์ 

วันที่ 20 เมษายน 2568 รศ.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงความคืบหน้าการกู้ซากอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ยอมรับ ว่า การกู้ซากอาคาร สตง. ต้องใช้เวลา ความละเอียดรอบคอบ เพื่อให้มั่นใจว่าไม่มีร่างผู้เสียหายติดไปกับวัสดุ ก่อสร้างที่ถูกนำไปทิ้ง โดยในขณะนี้พบชิ้นส่วน และวัสดุหลัก 100 ชิ้น ซึ่งขณะนี้ไม่เจอร่างของผู้ประสบภัย แต่จะพบเป็นชิ้นส่วนแทน 

ส่วนผู้ประกอบการในพื้นที่สะท้อนว่าได้รับผลกระทบจากการปิดถนนทำให้เสียรายได้ในช่วงที่ผ่านมา รศ.ทวิดา  กล่าวว่า ได้มีการพิจารณาเปิดถนนกำแพงเพชร 2 หน้าเจเจมอลล์แล้ว และกำลังจะถอนรถรวมถึงอุปกรณ์ในบริเวณดังกล่าวออก เพราะทราบว่าเราเข้ามาทำความไม่สะดวกให้กับผู้ค้าขาย ซึ่งเป็นเรื่องที่ผู้ว่ากรุงเทพมหานครกังวลตั้งแต่แรก จึงทำเรื่องขอปรึกษาไปที่กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยและกรมบัญชีกลาง เพื่อขอหารือ มาตรการช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากการปิดถนนของเจ้าหน้าที่ คาดว่าภายในสัปดาห์นี้จะมีความชัดเจน แต่ยืนยันว่ายังไม่เปิดถนนทั้งหมด เรายังมีบางหน่วยที่จำเป็นต้องอยู่ในพื้นที่ 

รองผู้ว่ากรุงเทพมหานคร กล่าวถึงเงินช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว ในกรณีการซ่อมแซมบ้านเรือน ว่า ตามระเบียบป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย เป็นการช่วยเหลือผู้ประสบภัยเบื้องต้น เป็นค่าค่าวัสดุซ่อมแซม ใช้เกณฑ์นี้มานานพอสมควรแล้วจะเห็นได้บ่อยจากกรณีเกิดอัคคีภัย บ้านที่เสียหายจะได้รับเงินช่วยเหลือสูงสุดอยู่ที่ประมาณ 49,500 บาท แต่ในทางปฏิบัติต้องดูว่าต้องใช้วัสดุอะไรในการซ่อมแซมบ้าง ซึ่งกรุงเทพมหานคร และสำนักงานเขตจะเป็นผู้เข้าไปประเมิน ดูจากขนาดความยาว ความกว้าง และถูกนำไปเทียบกับเกณฑ์ของกระทรวงการคลัง ยืนยันได้ว่าเงินช่วยเหลือมีจำนวนที่น้อยจริงๆ แต่จากเสียงสะท้อนของประชาชนทำให้วันพรุ่งนี้ (21เม.ย.) ทุกหน่วยงาน ทั้งกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย กรมโยธาธิการและผังเมือง สำนักงาน กรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลังจะต้องเข้าไปชี้แจงต่อสภาฯ ซึ่งอาจมีการพิจารณาปรับเกณฑ์ เราเชื่อว่าเกณฑ์ที่ถูกกำหนดขึ้นไม่ได้รองรับสำหรับอาคารชุด ซึ่งการช่วยเหลือนี้จะไม่เป็นการตัดสิทธิ์ประกันของิาคารชุดที่ทำไว้อยู่แล้ว 

สุริยชัย รวิวรรณ ผู้อำนวยการสำนักป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า ผลจากดำเนินงานเมื่อวาน (19 เม.ย.) พบเคสมีทั้งกระดูกและร่างของผู้ประสบภัย 8 เคส สำหรับทรัพย์สินพบกระเป๋าเครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆทั้งหมด 9  ใบและะบโทรศัพท์ 1 เครื่อง สำหรับความสูง ของอาคาร สตง. เมื่อช่วง 09:00 น. ในโซนบี - ซี 9.81 เมตร ขณะที่โซนเอ และดี 11.51 เมตร รถบรรทุกวิ่งขนวัสดุ 242 เที่ยว ใช้น้ำมันเพิ่มเติมจาก 1000 กว่าลิตรซึ่งเป็น 6000 กว่าลิตร รวม 6,374 ลิตร เนื่องจาก ข้อจำกัดของพื้นที่และการนำวัสดุไปทิ้ง จึงต้องนำเครื่องจักรไปบีบอัดวัสดุเพื่อวางซ้อนกัน จะสามารถนำวัสดุออกไปได้มากยิ่งขึ้น สำหรับแผนงานในวันนี้จะยังคงปฏิบัติอย่างต่อเนื่องทั้ง 4 โซน แต่ในส่วนของโซน C จะปรับใช้เครื่องจักรขนาดเล็กเข้าไปช่วยเพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการปฏิบัติการ เนื่องจากตรงจุดนี้ถนนค่อนข้างเล็ก และโซน B ตอนนี้สามารถขุดเข้าไปจนถึงจุดที่ทีมต่างชาติเคยพบสัญญาณชีพ ซึ่งเหลืออีกประมาณ 1 เมตรจะถึงจุดดังกล่าว ตั้งเป้าว่าจะต้องทำให้สำเร็จภายในวันนี้ ยืนยันว่าปฏิบัติการกู้ซากอาคารสตง. จะเสร็จสิ้นตามไทม์ไลน์เดิมที่ตั้งไว้