เงินบาทแข็งค่าสุดรอบ 6 เดือน-หุ้นไทยกังวลสงครามการค้า สัปดาห์นี้จับตาผลเจรจาไทย-สหรัฐฯภาษีทรัมป์

สูนย์วิจัยกสิกรไทย​สรุปความเคลื่อนไหวค่าเงินบาท โดยเงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 6 เดือน ทั้งนี้เงินบาทยังคงแข็งค่าต่อเนื่อง (หลังจากกลับมาจากช่วงหยุดยาวของเทศกาลสงกรานต์) สอดคล้องกับการแข็งค่าของเงินหยวนและสกุลเงินเอเชียอื่นๆ สวนทางเงินดอลลาร์ฯ ที่เผชิญแรงเทขายท่ามกลางความกังวลต่อผลกระทบจากสงครามการค้าที่มีต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ นอกจากนี้ เงินบาทยังมีแรงหนุนเพิ่มเติมจากการทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ครั้งใหม่ของราคาทองคำในตลาดโลก และสัญญาณฟันด์โฟลว์ของต่างชาติเข้าตลาดพันธบัตรไทย โดยเงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 6 เดือนที่ 33.08 บาทต่อดอลลาร์ฯ แต่ลดช่วงบวกและอ่อนค่ากลับมาบางส่วนตามแรงขายเพื่อปรับโพสิชันและจังหวะการย่อตัวลงของราคาทองคำในตลาดโลก ขณะที่ เงินดอลลาร์ฯ ฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วน โดยมีแรงหนุนจากตัวเลขจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯ ที่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด และจากถ้อยแถลงของประธานเฟดและเจ้าหน้าที่เฟดที่ส่งสัญญาณไม่รีบปรับดอกเบี้ย เพราะต้องการรอดูผลกระทบจากภาษีการค้าต่อสถานการณ์เงินเฟ้อของสหรัฐฯ ให้ชัดเจน

สัปดาห์ระหว่างวันที่ 21-25 เม.ย. 2568 KBank คาดกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 33.00-34.00 บาทต่อดอลลาร์ฯ ปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขการส่งออกเดือนมี.ค. ของไทย การเจรจาการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐฯ สถานการณ์ของสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ราคาทองคำในตลาดโลก สัญญาณฟันด์โฟลว์ของต่างชาติและถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด ดัชนี PMI เบื้องต้นสำหรับเดือนเม.ย. ของสหรัฐฯ ญี่ปุ่น ยูโรโซนและอังกฤษ รายงาน Beige Book ของเฟด การกำหนดอัตราดอกเบี้ย LPR ของ PBOC ผลการประชุมธนาคารกลางอินโดนีเซีย

ขณะที่ความเคลื่อนไหวตลาดหุ้นไทย โดยดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นท่ามกลางแรงซื้อหลักจากกลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศ ทั้งนี้ดัชนีหุ้นไทยปรับตัวขึ้นในวันทำการแรกหลังหยุดยาวช่วงสงกรานต์ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาค ตอบรับประเด็นที่สหรัฐฯ ประกาศยกเว้นภาษีตอบโต้สำหรับสินค้ากลุ่มสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ซึ่งรวมถึงเซมิคอนดักเตอร์ ประกอบกับมีแรงซื้อจากกลุ่มนักลงทุนสถาบันในประเทศเข้ามาหนุน โดยเฉพาะในหุ้นกลุ่มพลังงาน วัสดุก่อสร้างและอสังหาริมทรัพย์ อย่างไรก็ดี ดัชนีหุ้นไทยแกว่งตัวในกรอบแคบในเวลาต่อมาเนื่องจากยังคงมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับประเด็นสงครามการค้า ก่อนจะดีดตัวขึ้นอีกครั้งในช่วงท้ายสัปดาห์ โดยมีแรงซื้อหลัก ๆ เข้ามาในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีก่อนการประกาศงบ และหุ้นกลุ่มพลังงานจากอานิสงส์ของราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับตัวขึ้น อนึ่ง สัปดาห์นี้หุ้นกลุ่มแบงก์ปรับตัวลงสวนทางภาพรวม เนื่องจากมีแรงเทขายทำกำไรในหุ้นที่ขึ้นเครื่องหมาย XD ประกอบกับนักลงทุนมีความกังวลต่อภาพรวมผลประกอบการไตรมาส 1/2568 ของกลุ่มแบงก์

สัปดาห์ที่ 21-25 เม.ย. 2568 KSecurities คาดแนวรับที่ 1,140 และ 1,120 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,170 และ 1,195 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยที่ต้องติดตาม ได้แก่ ตัวเลขส่งออกเดือนมี.ค. ของไทย ผลประกอบการไตรมาส 1/2568 ของบจ.ไทย โดยเฉพาะกลุ่มแบงก์ การเจรจาการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ประเด็นความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และประเทศคู่ค้า ถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด รวมถึงทิศทางเงินทุนต่างชาติ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและการบริการเดือนเม.ย. (เบื้องต้น) ของสหรัฐฯ ญี่ปุ่น ยูโรโซน และอังกฤษ

#เงินบาท #SET #ข่าววันนี้ #ศูนย์วิจัยกสิกรไทย #ตลาดการเงิน #หุ้น #สงครามการค้า