“ผู้ว่าฯมหาชัย”แจงคืบหน้างานสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งพัง 4โครงการงบพัฒนาจังหวัดเฉียด 100 ล้าน
ผู้สื่อข่าวรายงาน นายนริศ นิรามัยวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร ได้รายงานผลงานกรณีหลังออกตรวจติดตามความคืบหน้า โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง จำนวน 4 แห่งในพื้นที่ ซึ่งเป็นงบประมาณของการพัฒนาจังหวัด โดยมีนายประหยัด ตะคอนรัมย์ สนง.โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดฯ (ฐานะเจ้าภาพ) มาร่วมชี้แจงโครงการก่อสร้าง
ทั้งนี้ปรากฏว่า ในพื้นที่แห่งแรก ได้แก่ โครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำท่าจีน ที่หมู่ 8 ต.ท่าเสา อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร มีความยาว 180 เมตร ใช้วงเงินค่าก่อสร้าง 39,480,000 บาท ภายในเวลาการก่อสร้าง 270 วัน และสิ้นสุดสัญญา 23 ก.ย.2568 แต่ปัจจุบันการก่อสร้างมีความคืบหน้าเร็วกว่ากำหนด 10.906 % จึงคาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมส่งมอบงานได้ก่อนระยะเวลาที่สัญญาจะสิ้นสุดลง
แห่งที่ 2 คือ การก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่ง พร้อมมีปรับภูมิทัศน์ริมคลอง ณ บริเวณวัดท่าเสา หมู่ 1 ต.ท่าเสา อ.กระทุ่มแบนโดยมีระยะยาว 284 เมตร ในวงเงินค่าก่อสร้าง 16,800,000 บาท ระยะเวลาการก่อสร้าง 240 วัน และจะสิ้นสุดสัญญาลง 14 สิงหาคม 68 ตามที่กำหนด, ซึ่งจุดนี้อยู่ที่บริเวณหน้าอุโบสถหลังใหม่ของวัดท่าเสา ซึ่งสามารถป้องกันน้ำท่วมจนล้นเข้าไปในวัด โดยมีงานปรับภูมิทัศน์ให้สวยงามอีกด้วย,
แห่งที่ 3 โครงการส่งเสริมการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน โดยการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมแม่น้ำท่าจีน (หลังหมู่บ้านช้าง 2) หมู่ที่ 13 ต.บางยาง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ความยาว 120 เมตร วงเงินค่าก่อสร้าง 26,400,000 บาท ระยะเวลาการก่อสร้าง 220 วัน สิ้นสุดสัญญาวันที่ 25 กรกฎาคม 2568 โดยจุดนี้การก่อสร้างก็เร็วกว่าแผนที่กำหนด โดยผู้ว่าราชการจังหวัดได้ตรวจสอบโครงสร้างเบื้องต้น รวมทั้งดูเรื่องเหล็กที่ได้มาตรฐาน โดยการก่อสร้างเขื่อนจุดนี้เพื่อป้องกันตลิ่ง
สำหรับแห่งที่ 4 นั้น เป็นโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม และภัยพิบัติแบบครบวงจร โดยการก่อสร้างเขื่อนป้องกันตลิ่งริมคลองภาษีเจริญ (หน้าวัดหนองพะอง) หมู่ 7 ต.สวนหลวง อ.กระทุ่มแบน ความยาว 180 เมตร ในวงเงินค่าก่อสร้าง 16,950,000 บาท ระยะเวลาการก่อสร้าง 270 วัน และสิ้นสุดสัญญาลง 22 กันยายน 68 ซึ่งผลการดำเนินงานนั้น คาดว่า จะแล้วเสร็จเร็วกว่าที่กำหนดได้ภายในเดือนสิงหาคมนี้
“ทั้งนี้โดยสรุปโครงการก่อสร้างเขื่อนป้องกันริมตลิ่ง จำนวน 4 แห่งนี้ พบว่ามีความคืบหน้าการก่อสร้างเร็วกว่าที่กำหนดไว้ พร้อมส่งมอบงานให้แก่ผู้ตรวจรับได้ทันตามห้วงเวลาในสัญญา”
ด้านนายนริศ ผวจ.ระบุว่า สำหรับในการนี้ได้มีเน้นย้ำเรื่องของการทำงานนั้นต้องให้ทันกับระยะเวลาตามที่กำหนดของสัญญา ซึ่งจากการสอบถามทางด้านผู้รับผิดชอบโครงการทุกฝ่าย เชื่อมั่นได้ว่า สามารถเสร็จทันหรือเสร็จก่อนกำหนดได้แน่นอน นอกจากนี้ยังได้เน้นย้ำถึงมาตรฐานของการใช้วัสดุในการก่อสร้าง ที่ให้เกิดความปลอดภัย ทั้งความคงทนและแข็งแรง เพราะงบประมาณที่ได้มาก่อสร้าง ล้วนเป็นภาษีของประชาชนทั้งสิ้น จึงฝากถึงทางวิศวกรผู้ควบคุมงาน และผู้รับเหมา เรื่องการใช้วัสดุและหรือผลิตภัณฑ์ที่ได้มาตรฐาน มอก.เพื่อความมั่นคงแข็งแรงให้แน่นอน
“นอกจากนี้ได้ฝากให้ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ช่วยกันดูแลเรื่องด้านการนำงบท้องถิ่นมาพัฒนาในการปรับปรุงภูมิทัศน์อื่นๆ เพื่อสร้างความปลอดภัยให้แก่ประชาชน อาทิเช่น การติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่างที่บริเวณเขื่อนป้องกันตลิ่งริมคลองท่าเสา และเขื่อนป้องกันตลิ่งริมคลองภาษีเจริญ เป็นต้น”
