ความฝันที่ต้องการให้คนไทยมีบ้านเป็นของตนเอง ที่ทางรัฐบาลได้เดินหน้าโครงการ “บ้านเพื่อคนไทย” โดยบริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด เป็นผู้พัฒนาและบริหารโครงการ ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ และสอดรับกับนโยบายของรัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ให้ดำเนินการศึกษาและพัฒนาที่อยู่อาศัยในราคาประหยัด หรือ Affordable Housing โดยมีเป้าการพัฒนาที่พักอาศัยคุณภาพสูง ในพื้นที่ศักยภาพ เป็นการพัฒนาคอนโดฯ คุณภาพดีขนาดเริ่มต้นที่ 30 ตารางเมตร พร้อมสาธารณูปโภคครบครันและทันสมัย มีระบบการรักษาความปลอดภัยและเทคโนโลยีอื่นๆ รวมทั้งมีโครงการบ้านเดี่ยวด้วย เพื่อเป็นบ้านสำหรับคนทำงานที่จะใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ตั้งอยู่ในทำเลศักยภาพ ใกล้รถไฟฟ้า ผ่อนถูก ไม่ต้องดาวน์ และถือครองในระยะเวลา 99 ปี ส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่คนไทย
โดยนำที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) มาดำเนินโครงการ ซึ่งจะมีโครงการหรือพื้นที่ดำเนินการที่มีศักยภาพที่สุด 25 พื้นที่ ทั่วประเทศ แต่ในการดำเนินโครงการระยะแรก(โครงการนำร่อง) 2568 – 2569 จะมีพื้นที่โครงการ 4 พื้นที่(บริเวณสถานีรถไฟ) ดังนี้ พื้นที่โครงการบางซื่อ กม.11(วิภาวดี) ,พื้นที่ในจังหวัดเชียงใหม่ ,พื้นที่โครงการเชียงราก(ปทุมธานี) และพื้นที่ธนบุรี
ส่วนรายละเอียดโครงการบ้านเพื่อคนไทย ได้แก่ บ้านราคาประหยัดคุณภาพสูง (ให้สิทธิ์คนไทย ที่ไม่เคยมีบ้านมาก่อน) ,ผ่อนเริ่มต้น 4,000 บาทต่อเดือน ระยะเวลา 30 ปี ,กระจายตัวไปกับการเจริญเติบโตของเมือง ,มีห้องน้ำ ไฟฟ้า สาธารณูปโภค ระบบรักษาความปลอดภัย ,คนเริ่มทำงานก็สามารถมีสิทธิ์ได้ และถ้าจ่ายครบยอด ได้สิทธิ์ถือครอง 99 ปี
เป็นความหวังที่สวยงามของคนไทยที่อยากมีบ้าน!!!
แต่ล่าสุดจากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2568 กระทรวงคมนาคม ได้รีเช็ก ความต้องการของประชาชนที่ผ่านมากลงทะเบียนฯว่ายังมีต้องการเข้าร่วมโครงการ “บ้านเพื่อคนไทย” ต่อหรือไม่!?!
ทั้งนี้ “นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ” รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม กล่าวว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ผ่านมา ทำให้ประชาชนเกิดความรู้สึกกังวลกับการพักอาศัยในอาคารสูง ดังนั้น เพื่อให้การดำเนินโครงการเป็นไปตามเป้าหมาย ขณะนี้จะมีการสอบถามกับผู้ที่ได้ลงทะเบียนและผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติประมาณ 170,000 คน เพื่อเป็นการรีเช็คว่ายังคงยืนยันความต้องการเข้าร่วมโครงการต่อหรือไม่ โดยทางผู้ที่จะทำหน้าที่สอบถามคือ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) โดยจะมีการแจ้งผ่านข้อความสั้น (SMS) โทรศัพท์แจ้งและอีเมลต่อไป คาดว่าภายในเดือนเมษายนนี้น่าจะจบ
หลังจากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนการจับสลากผู้ที่ได้รับสิทธิ์ในการเข้าอยู่อาศัย ซึ่งบริษัท เอสอาร์ที แอสเสท จำกัด (SRTA) ได้ทำความร่วมมือกับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อกำหนดแนวทางการดำเนินการไว้แล้ว โดยกระบวนการจับสลาก จะเริ่มต้นที่ผู้ผ่านคุณสมบัติจำนวน 170,000 คน มา จับฉลากให้ได้เลขรหัส จากนั้นจับสลากแบ่งโซน นำจำนวนแต่ละโซนมาจับสลากตามขนาดห้อง เมื่อได้ครบตามจำนวนห้องแล้ว จึงจะจับสลากเลือกชั้นเป็นอันดับสุดท้าย
“ส่วนรูปแบบการจับสลาก เป็นการแบ่งเป็นระยะและแบ่งเป็นโซนพื้นที่ ตลอดจนการแบ่งตามขนาดของแต่ละพื้นที่และชั้นของพื้นที่นั้นๆ ซึ่งธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) จะระบุเลขประจำตัวของผู้มีสิทธิ์เพื่อลุ้นการจับสลากโดยธอส.จะเป็นผู้ประสานงานเรื่องนี้ โดยผู้ที่ได้รับสิทธิ์จับสลากจะได้รับการแจ้งเตือนหลายช่องทาง เช่น SMS หรือ ทางอีเมล์ เป็นต้น ซึ่งตามขั้นตอนการจับสลาก จะมุ่งเน้นความโปร่งใส และยืนยันว่าโครงการบ้านเพื่อไทย จะดำเนินการก่อสร้างเสร็จและเปิดให้ประชาชนเข้าอยู่เฟสแรกได้ภายในปี 2569 ตามแผนแน่นอนโครงการระยะที่ 1 นำร่อง 4 พื้นที่ประมาณ กว่า 5,000 ยูนิต และมีโครงการที่ 2 อีก 7,000 ยูนิต รวม 12,000 ยูนิต อาจจะจับสลากพร้อมกัน เพราะค่อนข้างมีความพร้อมแล้ว คาดว่าโครงการระยะที่ 1 กำหนดการที่จะเข้าอยู่คือช่วงปี 2569” นายสุรพงษ์ กล่าว
นายสุรพงษ์ กล่าวย้ำว่า เหตุแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นทำให้เกิดความตระหนัก ซึ่งการก่อสร้างคอนโดมิเนียมหลังจากนี้จะได้เปรียบเพราะจะให้ความสำคัญกับโครงสร้างมากขึ้น ส่วนการก่อสร้างโครงการบ้านเพื่อคนไทยยึดตามกฎหมายและพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ซึ่งในการก่อสร้างจะเพิ่มเติมเพื่อให้เกิดความมั่นใจยิ่งขึ้น และไม่ได้กระทบต่อต้นทุนการก่อสร้างมากนัก เพราะโครงการบ้านเพื่อคนไทย รัฐดำเนินโครงการโดยไม่มุ่งหวังกำไรอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 1 เม.ย. 2568 ที่ผ่านมา ได้รับทราบการดำเนินโครงการบ้านเพื่อคนไทยระยะนำร่องระยะที่1 จำนวน 4 โครงการ 5,700 ยูนิต ประกอบด้วย บางซื่อ กม.11 พื้นที่ประมาณ 5 ไร่ จำนวน 2,000 ยูนิต เป็นรูปแบบคอนโดมิเนียม 27 ชั้น จำนวน 3 อาคาร , ธนบุรีพื้นที่ประมาณ 21 ไร่ ,เชียงราก พื้นที่ประมาณ 3 ไร่ จุดนี้จะสร้างตึกสูงประมาณ 8 ชั้น เนื่องจากอยู่ในเขตปลอดภัยในการเดินอากาศ และพื้นที่เชียงใหม่ พื้นที่ประมาณ 7 ไร่
เป็นการยืนยันได้ว่า “คนไทย” จะได้มีบ้านแน่นอน