คุยเฟื่องเรื่องต่างประเทศ / ดร.วิวัฒน์ เศรษฐช่วย

แทบไม่น่าเชื่อเลยว่าเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว “วุฒิสมาชิกคอรีย์  บูเกอร์ ” ได้ออกมายืนเดี่ยวกล่าวสุนทรพจน์แบบทำลายประวัติศาสตร์การเมืองในแวดวงวุฒิสภาของสหรัฐฯ เปรียบประหนึ่งเขาออกมาระบายเรื่องราวที่อัดอั้นอย่างทะลักไหลยาวนานถึง 25 ชั่วโมง 5 นาที โดยเขาไม่ได้นั่ง ไม่ได้ทานอาหาร และไม่แม้แต่จะหยุดพักเข้าห้องน้ำเลยก็ตาม ซึ่งเขาใช้เวลาทั้งหมดกล่าวเนื้อสาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยสาระในการวิพากษ์วิจารณ์การกระทำของ “ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์”

อนึ่งตั้งแต่ก้าวขาออกจากประตูบ้านดูเหมือนว่าวุฒิสมาชิกบูเกอร์ตระเตรียมเอาเอกสารนำติดตัวไปเพื่อใช้กล่าวสุนทรพจน์ทั้งหมด 15 แฟ้มเล่มหนาปึ้ก!!!

คราวนี้ลองหันไปดูชีวประวัติของวุฒิสมาชิกคอรีย์ บูเกอร์ กันดูบ้าง โดยวุฒสมาชิกวัย 55 ปี ท่านนี้เป็นคนผิวสี จบการศึกษาในระดับปริญญาตรีและปริญญาโท จาก “สแตนฟอร์ด” และไปศึกษาต่อที่ “ออกซฟอร์ด” และไปศึกษาต่อจนจบด้านกฎหมายจาก “มหาวิทยาลัยเยล”

แต่ในท้ายที่สุดเขาก็ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งวุฒิสมาชิกติดต่อกันมาตั้งแต่ปี 2013 โดยวุฒิสมาชิกบูเกอร์ ถือเป็นนักการเมืองผู้ทรงอิทธิพลอันดับที่ 4 ของค่ายพรรคเดโมแครตในวุฒิสภา

โดยเขากล่าวสุนทรพจน์ครั้งนี้ว่า “ข้าพเจ้าขอเสนอวิสัยทัศน์ต่อประเทศสหรัฐฯและต่อพี่น้องชาวอเมริกันที่ข้าพเจ้ารัก”

โดยเริ่มต้นของสุนทรพจน์วุฒิสมาชิกบูเกอร์ได้กล่าวว่า “เป็นไปได้อย่างไรที่ภายในช่วงเวลาแค่เพียง 71 วันที่ผ่านมา พวกเราทุกๆคนยอมปล่อยให้ประธานาธิบดีทรัมป์ทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่ชาวอเมริกันมีความหวงแหน ไม่ว่าจะเป็นด้านระบอบการปกครอง ด้านสถาบันการเงิน ที่ประธานาธิบดีผู้นี้ทำให้ประเทศชาติเกิดความปั่นป่วนแบบไร้ทิศทาง”

ต่อมาวุฒิสมาชิกบูเกอร์ได้ตั้งคำถามต่อนักการเมืองในค่ายพรรคเดโมแครตที่เขาสังกัดอยู่ด้วยในทำนองที่ว่า “พรรคเดโมแครตจะกำหนดทิศทางของพรรคไปในทางใด?”

โดยเขายังได้กล่าวต่อไปว่า “ถึงเวลาแล้วที่พรรคเดโมแครตจะต้องออกมานำเสนอวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล”

จากนั้นวุฒิสมาชิกบูเกอร์ได้โยงมาพูดเกี่ยวกับโปรแกรมสวัสดิการด้านสุขภาพที่ประธานาธิบดีทรัมป์พยายามที่จะยกเลิก ซึ่งเป็นเรื่องที่พรรคเดโมแครตไม่เห็นด้วย โดยเขากล่าวว่า “ข้าพเจ้าก็เล็งเห็นอีกว่า ยังมีสมาชิกในค่ายพรรครีพับลิกันจำนวนไม่น้อยที่ไม่เห็นด้วยต่อนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์ แต่ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุผลกลใดที่ทำให้พวกเขากลับนั่งนิ่งปิดปากเงียบเฉย”

อีกตอนหนึ่งวุฒิสมาชิกบูเกอร์ได้กล่าวว่า “ตอนนี้การเมืองสหรัฐฯอยู่ในเงื้อมมือของพรรครีพับลิกัน ที่มีเสียงข้างมากทั้งในวุฒิสภาและในสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งเปิดโอกาสทำให้ประธานาธิบดีทรัมป์บริหารประเทศได้อย่างตามใจของเขาเอง แถมเขายังผลักไสให้สมาชิกในค่ายพรรคเดโมแครตอยู่นอกสนามเกมการเมืองของเขา จนมีผลทำให้ประธานาธิบดีทรัมป์สร้างความปั่นป่วนและความเสียหายต่อประเทศชาติมากมายมหาศาล”

วุฒิสมาชิกบูเกอร์กล่าวต่อไปว่า “ประธานาธิบดีทรัมป์ยังสั่งกำชับให้บรรดาลูกสมุนเร่งรัดปิดหน่วยงานของรัฐบาลกลาง ไล่พนักงานของรัฐ และยังเนรเทศนักศึกษาต่างชาติที่ออกมาพูดต่อต้านสงครามอิสราเอลในฉนวนกาซาอีกด้วย”

“และเนื่องจากพรรคเดโมแครตมีเสียงข้างน้อยในรัฐสภา จึงเป็นผลให้พรรคเดโมแครตไม่มีทางเลือกในการต่อต้านหรือขัดขวาง แต่สมาชิกพรรคเดโมแครตก็ยังมีทางออกในการแสดงออกที่นอกสภา” สุนทรพจน์ของวุฒิสมาชิกบูเกอร์ในครั้งนี้เริ่มต้นตั้งแต่เวลา 19.00 น.ของวันจันทร์ที่ 31 มีนาคม 2025 และไปจบลงเมื่อเวลา 20.06 ของวันอังคารที่ 1 เมษายน 2025

ในช่วงเวลา 25 ชั่วโมงกว่าๆขณะที่วุฒิสมาชิกบูเกอร์กล่าวคำปราศรัยวิพากษ์วิจารณ์ประธานาธิบดีทรัมป์อยู่นั้น ปรากฏว่ามีชาวอเมริกันกว่าหมื่นคนยกหูโทรศัพท์ฝากข้อความเอาไว้ ณ สำนักงานของเขาในวุฒิสภาจนสายแทบไหม้!!!

อีกทั้งในขณะที่วุฒิสมาชิกบูเกอร์กำลังกล่าวคำปราศรัยอยู่นั้น ปรากฏว่ามีผู้รับชมกว่า 350 ล้านคน โดยเหล่าบรรดาผู้ชมต่างออกมาแสดงความชื่นชมต่อความทรหดอดทนของวุฒิสมาชิกท่านนี้เป็นอย่างมาก

ส่วน “ผู้ว่าฯฟิลิป เมอร์ฟี” แห่งรัฐนิวเจอร์ซี ก็ได้โพสต์แสดงความชื่นชมต่อสุนทรพจน์ของวุฒิสมาชิกบูเกอร์เป็นอย่างมาก โดยเขาเขียนโพสต์ในเนื้อหาที่ว่า “สุนทรพจน์ของวุฒิสมาชิกบูเกอร์ช่างเต็มไปด้วยเนื้อหาสาระที่มีความเข้มข้นเป็นอย่างมาก ทำให้เล็งเห็นถึงความทุ่มเทเกี่ยวกับรายละเอียดทั้งทางด้านการศึกษา การดูแลสุขภาพ และการวิจัยทางการแพทย์อย่างที่สัมผัสได้เลยว่าวุฒิสมาชิกบูเกอร์จะต้องทำงานอย่างหนักมากทีเดียว

และถึงแม้ว่าวุฒิสมาชิกบูเกอร์ จะเสร็จสิ้นการกล่าวสุนทรพจน์แบบมาราธอนในครั้งนี้จบลงไปแล้วก็ตาม แต่กลับปรากฏว่าเขายังมีรายการที่จะต้องไปปรากฏตัวในรายการโทรทัศน์อีกสองงานด้วยกัน

และยังมีสำนักหยั่งเสียงหลายๆสำนักต่างออกมาทำนายล่วงหน้าว่า “วุฒิสมาชิกบูเกอร์กำลังเป็นตัวเต็งที่พรรคเดโมแครตอาจจะเลือกให้เข้าไปเป็นตัวแทนของพรรคลงแข่งขันเลือกตั้งตำแหน่งประธานาธิบดีของสหรัฐฯในอีกสามปีข้างหน้าก็เป็นไปได้

อย่างไรก็ตามการกล่าวสุนทรพจน์ของ “วุฒิสมาชิกคอรีย์ บูเกอร์”ในครั้งนี้ปรากฏว่าเขาสามารถทำลายสถิติการกล่าวสุนทรพจน์ที่ผ่านมาของ “วุฒิสมาชิกสตรอม เธอร์มอนด์”จากรัฐเซาท์แคโรไลนา ที่เคยกล่าวสุนทรพจน์เอาไว้นานถึง 24 ชั่วโมงกับ 18 นาทีซึ่งนักการเมืองผู้นี้มีอุปนิสัยชอบเหยียดสีผิวและแบ่งแยกเชื้อชาติ

กล่าวโดยสรุปทั้งนี้และทั้งนั้นการกล่าวสุนทรพจน์อันยาวนานกว่า 25 ชั่วโมงของ “วุฒิสมาชิกคอรีย์ บูเกอร์” เล็งเห็นได้อย่างเด่นชัดเลยว่าเต็มไปด้วยสาระที่น่าฟัง มีวิสัยทัศน์อันกว้างไกลและยังมีความกล้าหาญ นับเป็นการสร้างสถิติในการกล่าวสุนทรพจน์ที่มีความยาวแบบเต็มสตรีม จนปลุกกระแสให้ชาวอเมริกันตื่นตัว แถมยังสร้างแรงบันดาลใจให้บรรดานักการเมืองสมาชิกในค่ายพรรคเดโมแครตตื่นตัวเข้าไปมีบทบาทในสภาคองเกรสเพื่อประชาชนชาวอเมริกันอีกครั้งคราหนึ่งละครับ