วันที่ 17 เม.ย.68  นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน เปิดเผยว่าศาลปกครองกลางได้มีคำพิพากษาสั่งให้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้อำนวยการเขต ใช้อำนาจตามประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 44 ลงวันที่ 11 ม.ค.2502 และบังคับตามคำสั่งทางปกครองตาม ม.63/20 ถึง ม.63/24 แห่ง พรบ.วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง 2539 ให้รื้อถอนอาคารและสิ่งปลูกปักใด ๆ ที่โรงเรียนนานาชาติชื่อดัง ได้ก่อสร้างไว้ ให้พ้นไปจากลำรางสาธารณะอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินทั้งหมดภายใน 60 วัน


                    
ทั้งนี้ ปัญหาดังกล่าวสืบเนื่องจากชาวบ้าน ได้รับความเดือดร้อนและเสียหายอันเนื่องจากมีโรงเรียนนานาชาติชื่อดัง ได้ปลูกสร้างอาคารบนที่ดินภายในซอยและมีสิ่งปลูกสร้างบางส่วนทับที่ลำรางสาธารณะ ทำให้ในซอยไม่มีช่องทางระบายน้ำ เมื่อฝนตกลงมาทำให้เกิดน้ำท่วมขังสร้างความเดือดร้อนให้กับคนในซอย โดยสำนักงานเขต ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบแล้วหลายครั้ง และได้มีหนังสือแจ้งให้ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวรื้อถอนสิ่งปลูกปักและการก่อสร้างใด ๆ ออกจากที่สาธารณประโยชน์ดังกล่าวมาหลายฉบับแล้วตั้งแต่ฉบับลงวันที่ 4 พ.ย.64 วันที่ 28 ม.ค.65 และวันที่ 19 ก.ค.65 โรงเรียนดังกล่าวก็บ่ายเบี่ยงมาโดยตลอด จนกระทั่งอ้างว่าได้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกไปจนหมดสิ้นแล้ว

แต่ข้อเท็จจริงยังปรากฎว่า ยังคงมีการสร้างพนังปิดกั้นลำรางสาธารณะ และมีการยึดครองลำรางสาธาณะดังกล่าวโดยแปรสภาพเป็นบ่อน้ำเลี้ยงปลาคาร์ฟส่วนตัว มาตั้งแต่ต้นปี 2566 จนกระทั่งชาวบ้านทนเดือดร้อนและเสียหายไม่ได้จึงนำความไปยื่นฟ้องต่อศาลปกครองอันเนื่องมาจากการละเลยต่อหน้าที่ของผู้ว่าฯกทม.และ ผอ.เขต กระทั่งศาลนัดพิจารณาคดีเมื่อวันที่ 6 มี.ค.68 ที่ผ่านมา โรงเรียนดังกล่าวยังอ้างในศาลว่าได้รื้อถอนสิ่งปลูกปักและก่อสร้างออกไปหมดแล้ว ซึ่งขัดต่อข้อเท็จจริงในที่สุดศาลได้มีคำพิพากษาเป็นคดีแดงที่ 632/2568 สั่งให้ผู้ว่าฯกทม.และ ผอ.เขต ใช้อำนาจตามประกาศคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 44 (พ.ศ.2502) สั่งให้โรงเรียนานาชาติชื่อดังดังกล่าวรื้อถอนสิ่งปลูกปักและสิ่งก่อสร้างออกจากลำรางสาธารณะภายใน 60 วันดังกล่าว