รวบ 2 หนุ่มเครือข่ายหวยใต้ดินออนไลน์นาสาร เงินหมุนเวียนกว่า 1 ล้านต่อเดือน ขยายผลคดีดูดเงิน 7.6 ล้าน-ขายบัญชีม้า
ตำรวจไซเบอร์เปิดปฏิบัติการใหญ่ รวบ 2 ผู้ต้องหาเครือข่ายหวยใต้ดินออนไลน์พื้นที่บ้านนาสาร จังหวัดสุราษฎร์ธานี พบเงินหมุนเวียนกว่า 1 ล้านบาทต่อเดือน พร้อมขยายผลจับผู้ต้องหาคดีหลอกโหลดแอปฯ ดูดเงินกว่า 7.6 ล้านบาท และคดีขายบัญชีม้าอีก 2 ราย
เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2568 ที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. แถลงผลปฏิบัติการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ ตามนโยบายของ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมี พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน, พล.ต.ต.วิวัฒน์คำชำนาญ, พล.ต.ต.ทินกร รังมาตร์, พล.ต.ต.ชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง, พล.ต.ต.ศุภกร ผิวอ่อน และ พล.ต.ต.ศิลา กาญจน์รักษ์ ร่วมแถลงข่าว
รวบ 2 เครือข่ายหวยใต้ดินออนไลน์นาสาร พล.ต.ท.ไตรรงค์ เปิดเผยว่า จากการลาดตระเวนออนไลน์ เจ้าหน้าที่ กก.3 บก.สอท.5 ตรวจพบบัญชีเฟซบุ๊กเผยแพร่โฆษณารับแทงหวยใต้ดินในพื้นที่ ม.2 ต.น้ำพุ อ.บ้านนาสาร จ.สุราษฎร์ธานี จึงนำกำลังลงพื้นที่สืบสวน
เมื่อวันที่ 16 เมษายน เจ้าหน้าที่แฝงตัวบริเวณบ้านต้องสงสัย พบนายประกิจ อายุ 57 ปี ขี่รถจักรยานยนต์เข้าบ้าน มีท่าทีพิรุธ และตรวจสอบภายในบ้าน พบ นายเอกรัก อายุ 51 ปี กำลังกรอกรายการหวยในกระดาษ จึงเข้าจับกุมพร้อมของกลาง อาทิ โทรศัพท์มือถือ, ฟิวเจอร์บอร์ดแปะโพยหวย, กระดาษจดโพย และกระดานไวท์บอร์ด
ทั้งสองให้การรับสารภาพว่าเปิดรับแทงหวยใต้ดินมานานกว่า 2 ปี มีทั้งลูกค้าออนไลน์และในชุมชน รายได้เฉลี่ยต่อเดือนประมาณ 600,000 – 1,000,000 บาท โดยจะส่งโพยให้เจ้ามือผ่านแอปไลน์
แฉขบวนการหลอกโหลดแอปฯ ดูดเงินเหยื่อ 7.6 ล้านบาท
อีกหนึ่งปฏิบัติการ เจ้าหน้าที่ติดตามจับกุม นางสาวพิมพ์อร อายุ 26 ปี ตามหมายจับศาลอาญา จากคดีหลอกเหยื่อว่าเป็นเจ้าหน้าที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ให้โหลดแอปปลอมผ่านไลน์ชื่อ “DBD Registration” แล้วดูดเงินออกจากบัญชีถึง 15 ครั้ง รวม 7,635,171 บาท
นางสาวพิมพ์อร ถูกแจ้งข้อหาหนักหลายกระทง ทั้งลวงว่าเป็นเจ้าพนักงาน, นำเข้าข้อมูลเท็จ, เข้าถึงระบบโดยมิชอบ และทำให้เสียหายต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์
ทลายเพจขายบัญชีม้าออนไลน์ – ล่อซื้อจับ 2 ราย
ปฏิบัติการที่สาม เจ้าหน้าที่ กก.1 บก.สอท.3 ตรวจพบเพจเฟซบุ๊กมีผู้ติดตามกว่า 6,000 คน โพสต์รับซื้อบัญชีธนาคารอย่างเปิดเผย จึงล่อซื้อและนัดส่งมอบบริเวณห้างแห่งหนึ่งใน อ.เมือง จ.อุดรธานี
สามารถจับกุม น.ส.อังคณา และนายชัยวัฒน์ ได้พร้อมบัญชีที่สามารถใช้งาน Mobile Banking จริง เจ้าหน้าที่แจ้งข้อหา “เปิดหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีอิเล็กทรอนิกส์ โดยรู้ว่าจะนำไปใช้ก่ออาชญากรรมทางเทคโนโลยี”
จากการสอบสวน ผู้ต้องหาทั้งสองรับว่าได้รับการติดต่อจากนายหน้าเฟซบุ๊กให้นำบัญชีไปขาย เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างขยายผลติดตามแอดมินเพจและผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
