สุพรรณบุรีพายุฤดูร้อนถล่มอำเภอศรีประจันต์หลายตำบลบ้านเรือนเสียกว่า 300 หลัง

ที่จังหวัดสุพรรณบุรี เจ้าหน้าที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นหลายตำบลลงพื้นที่สำรวจความเสียหลังจากเกิดพายุฤดูร้อนพัดถล่มช่วงเวลาประมาณ  20.15 น. สิ้นสุด 22.00 น. ของวันที่ 16 เมษายน 2568 ที่ผ่านมาเหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความเสียหายให้บ้านเรือนประชาชน พื้นที่อำเภอศรีประจันต์ รวม 5 ตำบล  บ้านเรือนถูกลมพัดและต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มทับ พังเสียหายกว่า 300 หลังชาวบ้านได้รับผลกระทบกว่า 600 ชีวิต

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ดูความเสียหายของบ้านเรือนประชาชนที่ถูกพายุพัดได้รับความเสียหาย พบว่าที่บ้านยางขาคีม  เลขที่ 166 ของคุณยายชุ้น ยางขาคีม อายุ 89 ปี ซึ่งเป็นบ้านไม้ต่อเติมเป็นบ้านสองชั้นอายุกว่า 50 ปีถูกลมพัดหลังคาพังเสียหายเกือบทั้งหลัง คุณยายเล่าทั้งน้ำตาว่ายายอยู่บ้านคนเดียวส่วนลูกก็แยกไปมีครอบครัว ขณะเกิดเหตุยายานอนอยู่ห้องด้านล่างได้ยินเสียงลมพัดดังแรงมาก จากนั้นไม่นานก็มีเสียงดังโครมครามและเสียงฟ้าร้อง แต่ยายไม่กล้าออกมาดู ได้แต่นั่งร้องไห้สวดมนต์ภาวนาอยู่หน้าโต๊ะบูชาพระพุทธรูปขอให้ให้ช่วย ลมหยุดพัดฝนหยุดตก ระหว่างนั้นลูกชายซึ่งบ้านใกล้กันมาพายายไปหลบภัยที่บ้านจนรุ่งเช้าจึงออกมาดูก็พบบ้านพังเสียหาย ตั้งแต่เกิดมาจนอายุป่านนี้ยังไม่เจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน ดูข่าวเห็นทางภาคอิสาน ถูกลมพัดบ้านพังก็สงสารเขา ไม่คิดว่าจะมาโดนด้วยตั้วเอง  

ส่วนที่บ้านเลขที่ 208 หมู่ 2 ตำบลบ้านกร่าง อำเภอศรีประจันต์ ถูกกิ่งต้นกร่างอายุกว่า50 ปีซึ่งเป็นกิ่งกาฝากอาศัยกับต้นมะขามยักษ์อายุกว่า 100 ปีเป็นที่ตั้งศาลพ่อปู่จอมทองแม่นางทิพย์ประกายเกศ ที่อยู่ข้างบ้านหักลงมาทับหลังคาบ้านพังเสียหายโชคดีที่กิ่งไม้ไม่เลยไปถึงห้องนอนเจ้าของบ้าน  นายอธิกุล วิเชษฐ์สกุล เจ้าของบ้านซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่เทศบาลและอาสากู้ภัยเล่าว่าขณะเกิดเหตุตนนอนดูทีวีอยู่ในห้องนอนกับลูกชาย ระหว่างนั้นมีเสียงลมพายุค่อยๆพัดก่อนจะแรงขึ้นเรื่อยๆและตนได้ยินเสียงกิ่งไม้ตีหลังคาบ้านก็รู้สึกแปลกใจว่าทำไมกิ่งไม้ตำจังแปร๊บเดียว กิ่งต้นกร่างขนาดใหญ่ก็หักลงใหลังบ้านอย่างแรงลูกชายตกใจกระโดดหนีตายออกหน้าต่างส่วนตนวิ่งหนีออกหลังบ้าน เหตุการณ์นี้สร้างความตกใจให้กับตนเป็นอย่างมากเพราะตั้งแต่เกิดมายังไม่มีเหตุการณ์พายุพัดแรงขนาดนี้มาก่อน แต่ก็นับว่าโชคดีที่กิ่งไม้ไม่ตกใส่ห้องนอนไม่เช่นนั้นแล้วตนและลูกอาจได้รับบาดเจ็บและตนเชื่อว่าส่วนหนึ่งน่าจะเป็นเพราะพ่อปูจอมทอง และแม่นางทิพย์ประกายช่วยไม่ให้ได้รับอันตราย

ทางด้านยายสวาท สมจิต อายุ 69 ปีเจ้าของบ้านเลขที่ 207 หมู่ 2 ตำบลบ้านกร่าง เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่าตอนเกิดเหตุตนนอนอยู่บนบ้านส่วนสามีนอนอยู่ด้านล่าง จู่ได้ยินเสียงฮึ่มๆๆของฟ้าแล้วมีลมหมุนที่หลังคาบ้านตนจึงรีบลุกขึ้นมายืนดูก็เห็นสังกะสีกระพือ ตนก็ได้ยืนมองแต่ไม่ยอมวิ่งหนี แต่สวดมนต์ขอพรหลวงพ่อโตวัดป่าเลไลยก์ พระศักดิ์สิทธิ์คู่เมืองสุพรรณบุรี ขอให้ช่วยปัดเป่าลมฝนขอให้เหตุการณ์สงบ สักพักเหตุการณ์ก็สงบ แต่ข้าวของบนบ้านถูกน้ำฝนเปียกเสียหาย ตนตั้งสติได้รับวิ่งไปยกคัตเอาท์ไฟฟ้าลง เพื่อป้องกันไฟฟ้าช็อต ตนยอมรับว่าตกใจกลัวมากเพราะไม่เคยเจอกับเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน

 สำหรับพื้นที่ที่ถูกพายุฤดูร้อนพัดถล่มได้รับความเสียหายประกอบด้วย  หมู่ที่ 1 หมู่ที่ 2 หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านกร่าง หมู่ที่ 1 หมู่ที่ 5 ตำบลบางงาม  หมู่ที่ 4 หมู่ที่ 5 ตำบลวังหว้า  หมู่ที่ 5 ตำบลปลายนา  หมู่ที่ 3 หมู่ที่ 5 หมู่ที่ 6 ตำบลมดแดง รวมจำนวนกว่า 300 หลังคาเรือน ได้รับความเสียหายบริเวณที่พักอาศัย ตัวบ้าน ผู้ได้รับผลกระทบจำนวนกว่า 600 ชีวิต ซึ่งทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่รับผิดชอบได้ส่งเจ้าหน้าที่ลงสำรวจความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือตามขั้นตอนต่อไป