ตำรวจไซเบอร์เดินหน้ากวาดล้างเครือข่ายบัญชีม้า ล่าสุดจับกุมผู้ต้องหา 2 รายกลางห้างโลตัส จ.อุดรธานี ขณะส่งมอบบัญชีธนาคาร เตรียมขยายผลถึงแอดมินเพจ เครือข่ายนายหน้า และเจ้าของบัญชีม้าทั้งขบวนการ

เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 17 เมษายน 2568 พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ผบช.สอท.) แถลงผลปฏิบัติการจับกุมผู้ต้องหาคดีซื้อขาย บัญชีม้า ในพื้นที่จังหวัดอุดรธานี โดยมีการล่อซื้อและจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย ซึ่งเป็นเจ้าของบัญชีธนาคารที่ประกาศขายผ่านเพจเฟซบุ๊กชื่อดังที่มีสมาชิกกว่า 6,000 คน

การสืบสวนเริ่มจาก พ.ต.อ.อภิรักษ์ จำปาศรี ผกก.1 บก.สอท.3 และทีมงาน กก.1 บก.สอท.3 ตรวจพบเพจเฟซบุ๊กที่มีการประกาศซื้อขายบัญชีธนาคารอย่างโจ่งแจ้ง จึงวางแผนล่อซื้อจำนวน 2 บัญชี บัญชีละ 6,000 บาท นัดส่งมอบที่หน้าห้างโลตัส สาขารังษิณา อ.เมือง จ.อุดรธานี

เมื่อถึงเวลานัดหมาย เจ้าหน้าที่พบผู้ต้องหาคือ น.ส.อังคณา (ขอสงวนนามสกุล) และ นายชัยวัฒน์ (ขอสงวนนามสกุล) ยืนรอส่งมอบบัญชี จึงเข้าทำการจับกุม หลังทดลองเข้าใช้งานและพบว่าบัญชีสามารถใช้งานได้จริง ผู้ต้องหาทั้งสองรายรับสารภาพว่าขายบัญชีตามคำสั่งของนายหน้าผ่านเฟซบุ๊ก และได้รับนัดหมายให้นำบัญชีไปส่งให้ลูกค้าโดยตรง

เบื้องต้น ตำรวจแจ้งข้อหา “เปิดหรือยินยอมให้บุคคลอื่นใช้บัญชีเงินฝากหรือบัญชีอิเล็กทรอนิกส์ของตน โดยรู้หรือควรรู้ว่าอาจถูกนำไปใช้ในการกระทำความผิดทางเทคโนโลยี” พร้อมควบคุมตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย

ทั้งนี้ จากการสืบสวนเพิ่มเติมพบว่า เพจเฟซบุ๊กดังกล่าวเป็นกลุ่มสาธารณะที่เปิดรับซื้อขายบัญชีม้าอย่างต่อเนื่อง โดยใช้วิธีหลีกเลี่ยงการจับกุมผ่านการทำงานแบบเครือข่าย แยกบทบาทเป็นเจ้าของบัญชี นายหน้า แอดมิน และผู้จัดหาลูกค้า ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์เตรียมขยายผลจับกุมผู้เกี่ยวข้องทั้งขบวนการ

ขณะเดียวกัน การดำเนินการครั้งนี้เป็นไปตามแนวทางบังคับใช้ พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 ซึ่งมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 13 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา โดยกำหนดให้ สถาบันการเงิน, ผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ และแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ต้องร่วมรับผิดชอบความเสียหายจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หากไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าปฏิบัติตามมาตรฐานป้องกันอย่างเพียงพอ

ตำรวจไซเบอร์ย้ำเตือนประชาชนว่า การซื้อขายหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้บัญชีของตน ถือเป็นความผิดตามกฎหมาย ซึ่งมีบทลงโทษดังนี้:

เจ้าของบัญชีม้า: โทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

นายหน้า/ผู้จัดหาบัญชี: โทษจำคุก 2-5 ปี หรือปรับ 200,000–500,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

ตำรวจไซเบอร์พร้อมเดินหน้ากวาดล้างเครือข่ายบัญชีม้าทั่วประเทศ และขอความร่วมมือประชาชนหากพบเห็นพฤติกรรมซื้อขายบัญชีต้องรีบแจ้งเบาะแสทันที