วันที่ 17 เม.ย.68 ที่รัฐสภา นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และหัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวถึงบทบาทของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่พยายามดึงอาเซียนร่วมเจรจา กับสหรัฐอเมริกาเรื่องกำแพงภาษีว่า ทุกการเจรจาอยากให้กำลังใจรัฐบาลทุกรอบทั้งเป็นทางการ และไม่เป็นทางการ ที่เป็นประโยชน์กับประชาชนมากที่สุด แต่สิ่งสำคัญการเจรจาขึ้นอยู่กับความรับผิดชอบของนายกรัฐมนตรีเป็นหลัก
เมื่อถามว่านายกรัฐมนตรีเปิดทำเนียบรัฐบาลต้อนรับนายกรัฐมนตรีมาเลเซียวันนี้ จะใช้โอกาสนี้ผนึกกำลังในการเจรจาอย่างไร นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ทิศทางใหญ่ๆ ตนคิดว่าเห็นตรงกัน จากทั้งตน นักเศรษฐศาสตร์ นักวิชาการ ก่อนที่โดนัล ทรัมป์ จะรับตำแหน่งด้วยซ้ำ สิ่งสำคัญที่สุดคือการสร้างอำนาจต่อรอง คือการร่วมมือกันในภูมิภาค เช่น เวทีอาเซียน แต่สิ่งสำคัญคือรายละเอียดว่าจะดำเนินการอย่างไร
เมื่อถามย้ำว่านายกรัฐมนตรีมาถูกทางแล้วใช่หรือไม่ นายณัฐพงษ์ กล่าวว่า ตนคิดว่าหลักๆคือรายละเอียดที่จะพูดคุย การพูดคุยเรื่องความเป็นประชาธิปไตย และความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมของเมียนมาก็เป็นส่วนสำคัญในการสร้างความเป็นปึกแผ่นของอาเซียนให้ได้รับการยอมรับมากขึ้นในเวทีสากลมากขึ้น
“ในเวทีระดับนานาชาติ เราไม่อยากให้เลือกข้างใดข้างหนึ่ง ไม่ว่าเรื่องจีนหรือสหรัฐอเมริกา เราก็ได้รับผลกระทบ ดังนั้น ถ้าเรายึดหลักความเป็นประชาธิปไตย ยึดหลักสร้างความร่วมมือในอาเซียน จะทำให้เรามีอำนาจต่อรองมากขึ้นในการเจรจาการค้ากับสหรัฐอเมริกา” นายณัฐพงษ์ กล่าว
เมื่อถามว่าวันนี้นายกรัฐมนตรีจะพบกับพล.อ.อาวุโส มิน อ่อง ลาย ผู้บัญชาการทำหารสูงสุด และผู้นำรัฐบาลทหารเมียนมา จะเกิดผลกระทบอะไรตามมาหรือไม่ ผู้นำฝ่ายค้าน กล่าวว่า เรื่องนี้รัฐบาลก็ต้องระมัดระวังท่าที เราคงปฎิเสธไม่ได้ว่าท่าทีของไทยที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการส่งตัวชาวอุยกูร์กลับประเทศจีน การที่จะเจรจากับมิน อ่อง ลาย ซึ่งเป็นรัฐบาลทหารเมียนมา ก็จะส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของไทยเช่นเดียวกัน
“ผมอาจจะให้ความเห็นอะไรไม่ได้ เนื่องจากไม่ทราบรายละเอียด แต่ในหลักการเมื่อได้คุยกันก็ต้องหนีไม่พ้นที่จะได้พูดคุยถึงการฟื้นฟูประชาธิปไตยในเมียนมา” นายณัฐพงษ์ กล่าว