จากกรณีกล้องวงจรปิดภายในร้านค้าแห่งหนึ่งตั้งอยู่ริมถนนคอนกรีตสายเขายาว-บ้านบนเนิน หมู่ 11 ตำบลวิสัยเหนือ อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร จับภาพคนร้ายเป็นชายสวมเสื้อเชิ๊ตแขนสีน้ำเงินเข้ม นุ่งกางเกงขาสั้นสีดำ มีผ้าเช็ดหน้าสีดำปกปิดปากจมูกไว้ ใช้ขวดเบียร์ตีศีรษะเจ้าของร้านค้าสาวใหญ่วัย 54 ปี ล้มลงได้รับบาดเจ็บก่อนกระชากชิงสร้อยคอทองหลบหนี หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.บ้านวิสัยเหนือ ลงพื้นที่เก็บพยานหลักฐานเร่งล่าคนร้ายแล้ว

 

ล่าสุดวันที่ 16 เม.ย.68 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ พบว่าร้านค้าดังกล่าวปิดประตู มีนางจวน   อายุ 90 ปี แม่เจ้าของร้านผู้บาดเจ็บ นายวิชิต   อายุ 60 ปี พี่ชาย ผู้บาดเจ็บ และภรรยา นั่งอยู่หน้าบ้านพักใกล้กับร้านค้าที่เกิดเหตุ

โดย นายวิชิต พี่ชายคนเจ็บ  เล่าให้ฟังว่า เมื่อเช้าน.ส.แดงอายุ 54 ปี ซึ่งเป็นน้องสาว ได้เปิดร้านขายสินค้าตามปกติโดยมีแม่วัย 90 ปีนั่งอยู่ภายในร้านด้วย ขณะนั้นได้มีนาย อาว อายุ ประมาณ 35-40 ปี ชาวเมียนมา คนงานรับจ้างตัดยางพารา อยู่ห่างจากร้านค้าประมาณกว่า 1 กิโลเมตร และเป็นลูกค้าที่เคยมาใช้บริการมาแล้วประมาณ 1 ปี วันนี้ขับขี่รถจักรยายนต์ออนด้าเวฟ สี แดงดำไม่ทราบทะเบียนเข้ามาซื้อสินค้าตามปกติกล้องวงจรปิดจับภาพจะเห็นว่า  ก่อนเข้าร้านยกมือไหว้น้องสาวด้วย เพราะเคยเห็นหน้ากัน และสั่งซื้อสินค้าในร้าน น้องสาวจึงเดินไปหยิบสินค้าให้ จังหวะที่น้องสาวเผลอ นาย อาว ฉวยโอกาสใช้ขวดเบียร์ฟาดไปที่ศีรษะจนล้มลง ลงมือแย่งชิงกระชากสร้อยคอทองรูปพรรณห้อยคอน้ำหนัก 1 บาท 50 สตางค์ พร้อมพระหลวงปู่ทวดเลี่ยมทอง มูลค่าประมาณครึ่งแสน ติดมือขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป แต่หลวงปู่ทวดหลุดออกจากสร้อยคอ หล่นอยู่กับพื้นไม่ไปด้วย 

พี่ชายเจ้าของร้านผู้เสียหาย  หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้ามาเก็บพยานหลักฐาน แล้วคาดว่าอยู่ในระหว่างเร่งติดตามตัวคนร้านรายนี้   และวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้มงวดเรื่องตรวจสอบแรงงานต่างด้าวสัญชาติเมียนมาทั้งมีบัตรและไม่มีบัตรในพื้นที่ด้วยประชาชนคนไทยจะได้ปลอดภัย ในพื้นที่เท่าที่ทราบเพิ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก ส่วนน้องสาวได้รับบาดเจ็บบริเวณศีรษะบวมหลังเกิดเหตุกู้ภัยน้ำส่งโรงพยายาลเอกชนในตัวเมืองชุมพรแล้ว