"ซูเปอร์โพล" ชี้ 74.2% เชื่อมีเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองหลังสงกรานต์ เหตุขัดแย้งพรรคร่วมรัฐบาล แรงปลุกปั่นใกล้ตัวผู้นำ เศรษฐกิจซ้ำเติม สะท้อนความไม่มั่นใจต่อเสถียรภาพรัฐบาล "ทักษิณ" ให้คนเชียงใหม่ รดน้ำขอพร 26 เม.ย. จ่อขึ้นเวทีปราศรัยช่วยหาเสียงเลือกตั้ง "นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่" 27 เม.ย.
เมื่อวันที่ 15 เม.ย.68 ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัย ซูเปอร์โพล จึงได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง การเปลี่ยนแปลงทางการเมือง หลังสงกรานต์ กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) รวมจำนวนตัวอย่างในการวิเคราะห์ทางสถิติทั้งสิ้น 1,102 ราย ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 10 - 14 เมษายน 2568 พบว่าประชาชนส่วนใหญ่ (เกือบสามในสี่ หรือ 74.2%) มีแนวโน้มคาดหวัง หรืออย่างน้อย "เชื่อว่า" จะเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในช่วงหลังสงกรานต์ ซึ่งสะท้อนภาวะความไม่มั่นใจในเสถียรภาพของรัฐบาลปัจจุบัน ขณะที่มีเพียง 25.8% ที่เชื่อว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ แสดงให้เห็นถึงความรู้สึก "ไม่แน่นอน" ที่ปกคลุมบรรยากาศทางการเมือง
ที่น่าพิจารณา คือ เมื่อผู้ตอบเลือกได้มากกว่าหนึ่งสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองสะท้อนว่า ความขัดแย้งภายในรัฐบาล โดยเฉพาะพรรคร่วม (36.9%) เป็นสาเหตุสำคัญที่ประชาชนมองว่าอาจนำไปสู่การเปลี่ยนแปลง รองลงมาคือ แรงปลุกปั่นใกล้ตัวผู้นำ (30.6%) และกระแสโซเชียล (27.8%) ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่มีอิทธิพลต่อการรับรู้ของประชาชน นอกจากนี้ ประเด็น เศรษฐกิจ (20.5%) และ นโยบายที่ประชาชนไม่พอใจ (14.9%) ก็ถือเป็นแรงกดดันระดับรากฐานที่บั่นทอนความชอบธรรมของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง
เมื่อสอบถามถึง ตัวการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่คาดว่าจะเกิดขึ้น หลังสงกรานต์ พบว่า ประชาชนส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะเกิด การปรับคณะรัฐมนตรี (38.4%) และ ความแตกร้าวระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล (37.6%) ซึ่งเป็นรูปแบบการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ใช่การยุบสภาหรือเลือกตั้งใหม่ แต่สะท้อน "ความไม่พอใจต่อการบริหารงาน" ที่ต้องการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ร้อยละ 32.1 เชื่อว่าจะมี การชุมนุมเคลื่อนไหวทางการเมือง และ 27.5% คาดว่าจะมี การยุบสภา ซึ่งบ่งชี้ถึงความเป็นไปได้ที่สถานการณ์จะพัฒนาไปสู่ "การเปลี่ยนโครงสร้างระดับชาติ" หากรัฐบาลไม่สามารถจัดการกับแรงกดดันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่ ร้อยละ 25.6 ที่ระบุว่า "ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ" นับว่าเป็นส่วนน้อยของผู้ตอบแบบสอบถาม สะท้อนให้เห็นความรู้สึกร่วมของประชาชนส่วนใหญ่ต่อความเปราะบางทางการเมืองในปัจจุบัน
ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า ผลสำรวจครั้งนี้สะท้อน บรรยากาศของความไม่ไว้วางใจทางการเมือง ที่แฝงอยู่ในสังคมไทย ประชาชนส่วนใหญ่มีทรรศนะว่ารัฐบาล อาจเผชิญกับแรงกดดันทั้งจากภายในพรรคร่วมและจากแรงขับเคลื่อนของประชาชนในระดับฐานราก ความขัดแย้ง การสื่อสารในโลกออนไลน์ และผลกระทบด้านเศรษฐกิจได้ผสานกันเป็นพลังทางสังคมที่อาจเร่งเร้าให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง ครั้งใหญ่ได้
ทางออกคือ เร่งเสริมเอกภาพและความร่วมมือในพรรคร่วมรัฐบาล ขอยกกรณีประเทศเยอรมนีและประเทศญี่ปุ่นเป็นแนวทาง โดยประเทศเยอรมนีจะมีข้อตกลงร่วมระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลก่อนการจัดตั้งรัฐบาลอย่างเป็นทางการ เอกสารนี้มีสถานะเสมือน "คู่มือ" ที่ชัดเจนในทุกด้าน ทั้งนโยบายเศรษฐกิจ สังคม พลังงาน การคลัง และต่างประเทศ โดยแต่ละพรรคต้องยึดถือร่วมกัน และเป็นเกณฑ์ประเมินความรับผิดชอบระหว่างพรรค
ในขณะที่ประเทศญี่ปุ่นจะมีการประชุมหารือร่วมอย่างสม่ำเสมอ โดยมีคณะทำงานเจาะจงด้านนโยบาย เช่น ความมั่นคง ประชากรสูงวัย หรือภาษี เพื่อป้องกันความเห็นต่างไม่ให้ลุกลามกลายเป็นวิกฤต นอกจากนี้ยังตกลงแบ่งงานในคณะรัฐมนตรีอย่างชัดเจนตามจุดแข็งของแต่ละพรรคผลที่คาดว่าจะได้รับคือ การลดการวิจารณ์กันเองภายในรัฐบาล สร้างความมั่นใจแก่ประชาชนและนักลงทุนระหว่างการดำรงตำแหน่งรัฐบาลผสมและน่าจะสามารถรักษาเสถียรภาพรัฐบาลได้ยาวนาน แม้จะมีพรรคร่วมที่มีรากฐานอุดมการณ์ต่างกัน
หากพรรคร่วมรัฐบาลขาดกลไกการประสานนโยบายอย่างมีประสิทธิภาพย่อมทำให้เกิดการส่งสัญญาณขัดแย้งในที่สาธารณะ ลดความน่าเชื่อถือของรัฐบาล และสร้างแรงกดดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในไม่ช้านี้อย่างแน่นอน
ด้าน นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ในวันที่ 26 เม.ย.นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ จะเดินทางมาจ.เชียงใหม่ โดยเวลา 15.00 น. นายทักษิณ จะเปิดให้ประชาชนชาวเชียงใหม่เข้ารดน้ำดำหัวขอพร ที่สวนสาธารณะรถไฟ อบจ.เชียงใหม่ เนื่องจากยังอยู่ในช่วงของเดือนเม.ย.ซึ่งเป็นเดือนของเทศกาลสงกรานต์
ทั้งนี้ สวนสาธารณะรถไฟ อบจ.เชียงใหม่ เป็นที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) โดยจะเป็นสถานที่พักผ่อนเป็นปอดของชาวเชียงใหม่ที่ใหญ่ ที่สุดด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันที่ 27 เม.ย.นายทักษิณ จะขึ้นเวทีปราศรัยช่วยผู้สมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลเชียงใหม่ ของพรรคเพื่อไทยหาเสียง โดยนางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ พรรคเพื่อไทย และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกฯ จะร่วมช่วยผู้สมัครหาเสียงด้วย