สงกรานต์ขอนแก่นเดือดวัยรุ่น 2 อำเภอ เมาเขม่นกัน ก่อนยกพวกทะเลาะวิวาทหน้าที่ว่าการอำเภอ ตำรวจเร่งตามตัวดำเนินคดี
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 15 เม.ย.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าโลกโซเชียลมีเดียและเพจต่างๆทั่วทั้ง จ.ขอนแก่น ได้เผยแพร่คลิปเหตุเหตุการณ์กลุ่มวัยรุ่นทะเลาะวิวาทกันในงานสงกรานต์ ที่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น ซึ่งจะเห็นช่วงที่มีการชุลมุนกันของกลุ่มวัยรุ่นที่มาร่วมงานแต่ไม่ได้มีการใช้อาวุธแต่อย่างใด โดยในคลิปจะเห็นกลุ่มวัยรุ่นหลายคนเข้าไปรุมต่อยวัยรุ่นคู่กรณี ก่อนจะมีคนอื่นๆได้เข้ามาห้ามและพยายามแยกเหตุการณ์ออกไป ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นที่บริเวณสี่แยก ที่ว่าการ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น
ในเวลาต่อมาผู้สื่อข่าว ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่สภ. บ้านไผ่โดยพบว่าที่ห้องสืบสวน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามวัยรุ่นที่อยู่ในคลิปเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทกันมาได้แล้วสองคน และอยู่ระหว่างขยายผลตามกลุ่มวัยรุ่นที่เหลือซึ่งคาดว่ามีประมาณทั้งหมด 10 กว่าคน มาดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยขณะนี้มีการแจ้งความกับทางตำรวจสภ. บ้านไผ่ ซึ่งเป็นวัยรุ่นชายที่ถูกทำร้ายโดนรุมจากเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทเข้าแจ้งความหนึ่งคน และภายหลังจากติดตามกลุ่มวัยรุ่นทั้งหมดมาได้ก็จะมีการพูดคุยและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย
นายองอาจ (สงวนนามสกุล)อายุ 42 ปี พ่อค้าใกล้จุดเกิดเหตุ กล่าวว่า ช่วงเกิดเหตุนั้นจะมีรถแห่มาบรรเลงเพลงและมีนักท่องเที่ยวเต้นอยู่โดยรอบรถแห่เป็นจำนวนมาก บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคักสักพักช่วงประมาณสี่ทุ่มกว่ารถแห่หยุดบรรเลงเพลงและได้ยินเสียงคนโหไล่กันมา จากช่วงสี่แยกไฟแดงประมาณ 200 เมตรและผ่านผ่านมาทางหน้าร้านของตนเองที่อยู่ทางเข้าที่ว่าการอำเภอบ้านไผ่ ซึ่งตนเองก็ไม่ทราบว่าสาเหตุมาจากอะไรแต่คาดว่าน่าจะน่าจะเป็นวัยรุ่นเมาแล้วทะเลาะวิวาทกันเหมือนที่อื่นๆ
"โชคดีเหตุการณ์ดังกล่าวไม่ได้ใหญ่โตอะไรมากลักษณะเหมือน คนที่ทะเลาะกันนั้นจะมีแค่คนเดียวส่วนคนอื่นๆเข้าไปช่วยห้ามและแยกย้ายกันออก โดยได้ไล่กันเข้าไปในที่ว่าการอำเภอแล้วก็กลับบ้านทันที ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะออกมาลงพื้นที่และสั่งให้ทุกคนกลับบ้านทั้งหมดทุกคนจึงแยกย้ายกันกลับในเวลาประมาณเที่ยงคืน แต่ก็ไม่มีใครบาดเจ็บหนักหรือมีการใช้อาวุธทำร้ายกันเป็นการชกต่อยโดยใช้หมัด แต่เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างผลกระทบให้กับพ่อค้าแม่ค้าที่อยู่บริเวณนี้ เพราะทำให้ต้องเลิกขายเร็วกว่าปกติ"
นายองอาจ กล่าวเพิ่มเติมว่า เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้เสียรายได้และต้นทุนที่เตรียมไว้ซึ่งเป็นวัตถุดิบในการทำอาหารก็ต้องทิ้ง แต่หากเหตุการณ์นี้เจ้าหน้าที่มาห้ามและเอาตัวเฉพาะกลุ่มที่มีปัญหาออกไปและให้พ่อค้าแม่ค้าขายได้ตามปกติก็จะดีกว่าสั่งทุกคนแยกย้ายกันและเชื่อว่าในวันนี้เป็นสงกรานต์วันสุดท้ายก็จะจะมีนักท่องเที่ยวมาเล่นสระน้ำกันบนถนนสายนี้เหมือนเดิม และเหตุการณ์ดังกล่าวคงจะกระทบอะไรไม่มากกับการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวรวมทั้งการค้าขายด้วย และก็อยากให้เห็นใจพ่อค้าแม่ค้าโดยเฉพาะพ่อค้าแม่ค้าที่อยู่บริเวณห่างจากจุดที่คนเล่นสาดน้ำกันเยอะๆก็จะขายไม่ดีเท่ากับร้านค้าที่อยู่ด้านใน
ด้านนายพิชัย วันตา นายอำเภอบ้านไผ่ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ติดตามตัวกลุ่มวัยรุ่นทั้งสองฝ่ายมาดำเนินคดีตามกฏหมาย ในเรื่องของการทะเลาะวิวาท ซึ่งในทางคดีนั้นจะเป็นหน้าที่ของทางเจ้าหน้าที่ตำรวจหากเป็นการทำร้ายร่างกายก็จะดำเนินคดีในส่วนของทำร้ายร่างกายไปแต่หากเป็นเหตุการณ์สมัครใจทะเลาะวิวาทก็จะต้องแจ้งข้อหาในส่วนของการทะเลาะวิวาททั้งสองฝ่ายตามขั้นตอน
"อำเภอจะมีการตรวจตราเข้มงวดขึ้นกว่าเดิมจากที่มีมาตรการในการดูแลรักษาความสงบให้กับนักท่องเที่ยวที่มาร่วมเล่นสระน้ำสงกรานต์ที่อำเภอบ้านไผ่อย่างเข้มงวดอยู่แล้ว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทขึ้นและสามารถเข้าควบคุมสถานการณ์ได้โดยเร็ว พร้อมกันนี้ก็จะมีการจัดโซนค้าขายให้กระจายกันออกไปในช่วงที่มีการเล่นน้ำสงกรานต์ไม่ให้แออัดและเป็นที่รวมกลุ่มของวัยรุ่น"