เจ้าของลูกชิ้นหมูเกรียงไกร ลูกชิ้นยืนกินขึ้นชื่อของจังหวัดบุรีรัมย์ เร่งผลิตลูกชิ้นหมูวันละกว่า 100 กิโลกรัม ขายในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2568 มีประชาชน นักท่องเที่ยวแห่มาซื้อยืนกินและหิ้วกลับไปรับประทาน และเป็นของฝากญาติพี่น้อง คึกคัก
วันที่ 15 เม.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2568 ซึ่งมีวันหยุดยาวติดต่อกันหลายวัน ก็จะมีประชาชนที่ทำงานอยู่ต่างจังหวัดเดินทางกลับภูมิลำเนา และนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวในจังหวัดบุรีรัมย์ นอกจากส่งผลดีต่อร้านขายของฝากของที่ระลึก รวมถึงร้านอาหารต่างๆ แล้ว สำหรับ “ลูกชิ้นยืนกิน” ในเขตเทศบาลนครบุรีรัมย์ ซึ่งมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายลูกชิ้นทอด และลูกชิ้นสดยังไม่ทอด อยู่บริเวณด้านหลังสถานีรถไฟบุรีรัมย์ ที่มีอยู่กว่า 10 ร้าน และหน้าสถานธนานุบาล เทศบาลนครบุรีรัมย์ หลังเก่า (โรงรับจำนำหลังเก่า) นั้นก็จะขายดิบขายดีไม่แพ้สินค้าชนิดอื่น เพราะมีเอกลักษณ์การกินที่ไม่เหมือนใคร และมีเพียงจังหวัดเดียวในประเทศไทย หรือแห่งเดียวในโลก ทำให้พ่อค้าแม่ค้าลูกชิ้นยืนกินที่บุรีรัมย์ ต่างก็มียอดขายที่จะเพิ่มขึ้นกว่าปกติในช่วงเทศกาลสงกรานต์
สำหรับ “ลูกชิ้นหมูเกรียงไกร” ที่ขายอยู่หน้าสถานธนานุบาล เทศบาลนครบุรีรัมย์ หลังเก่า (โรงรับจำนำหลังเก่า) ที่ได้รับการรับรองโดยหอการค้าจังหวัดบุรีรัมย์เป็น “ของดีจังหวัดบุรีรัมย์” ที่ขายมายาวนานหลายสิบปี เป็นลูกชิ้นหมูที่ทำจากเนื้อหมู มีความนุ่มอร่อย ที่สำคัญน้ำจิ้มเป็นสูตรเฉพาะทำจากน้ำมะขามเปียก พร้อมมีกลิ่นหอมของพริกทอด และยังมีน้ำจิ้มพริกเผาด้วย ซึ่งมีรสชาติเป็นที่ถูกปากของลูกค้า
โดยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2568 นี้ ทางร้านลูกชิ้นหมูเกรียงไกร ก็ได้เตรียมปริมาณเนื้อหมูที่ใช้เป็นวัตถุดิบในการทำลูกชิ้นวันละกว่า 100 กิโลกรัม ไว้สำหรับจำหน่ายให้กับประชาชน และนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากต่างจังหวัด ได้มาเลือกซื้อ ยืนกินลูกชิ้น และเป็นของฝากกันอย่างเพียงพอ
นายเกรียงไกร ทองยัง เจ้าของร้านลูกชิ้นหมูเกรียงไกร กล่าวว่า ร้านได้เปิดขายอยู่บริเวณหน้าสถานธนานุบาล เทศบาลนครบุรีรัมย์ หลังเก่า (โรงรับจำนำหลังเก่า) และยังมีสาขาต่างๆ อยู่โดยรอบเมืองบุรีรัมย์ โดยในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ปี 2568 นี้ ตนได้ผลิตลูกชิ้นวันละกว่า 100 กิโลกรัม เพื่อไว้จำหน่ายให้กับประชาชน อยู่ต่างจังหวัดเดินทางกลับภูมิลำเนา และนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาเที่ยวในจังหวัดบุรีรัมย์ ได้มาเลือกซื้อไปรับประทานที่บ้าน หรือยืนกินลูกชิ้นอยู่หน้าร้าน ส่งผลให้แต่ละวันมีประชาชน และนักท่องเที่ยวมาซื้อและยืนกินแล้ว หลายคนติดอกติดใจได้ซื้อลูกชิ้นหมูที่ยังไม่ได้ทอดติดไม้ติดมือกลับไปทอดเอง เพื่อรับประทานที่บ้าน และเป็นของฝากญาติพี่น้องด้วย
เจ้าของร้านลูกชิ้นหมูเกรียงไกร กล่าวต่อว่า มีน้ำจิ้มลูกชิ้นที่เป็นสูตรเฉพาะ ทำจากน้ำมะขามเปียก หอมแดง พริกแห้งทอด ปรุงรสเปรี้ยว หวาน เค็ม กำลังดี จึงทำให้รสชาติเป็นที่ถูกปากของลูกค้า ซึ่งทางร้านทำน้ำจิ้มเพิ่มขึ้นเป็นวันละ 30 กิโลกรัม จากปกติทำน้ำจิ้มวันละ 20 กิโลกรัม และในช่วงนี้ยังมีน้ำจิ้มพริกเผาด้วย ซึ่งคาดว่าในช่วงเทศกาลสงกรานต์ จะมีประชาชน นักท่องเที่ยวทั้งในจังหวัด และจากต่างจังหวัดมาซื้อลูกชิ้นและยืนกินลูกชิ้นกันอย่างคึกคัก เพราะมีเอกลักษณ์การกินที่ไม่เหมือนใคร
นายเกรียงไกร กล่าวด้วยว่า ส่วนราคาขายก็ไม่แพงเพียงไม้ละ 5 บาท หากซื้อเป็นชุด ลูกชิ้นหมูชุดเล็ก 7 ขีด 100 บาท พร้อมผัก น้ำจิ้ม ลูกชิ้นหมูชุดใหญ่ 1 กิโลกรัม 140 บาท พร้อมผัก น้ำจิ้ม ส่วนลูกชิ้นเนื้อวัวชุดเล็ก 7 ขีด 120 บาท พร้อมผัก น้ำจิ้ม และลูกชิ้นเนื้อวัวชุดใหญ่ 1 กิโลกรัม 160 บาท พร้อมผัก น้ำจิ้ม ขณะที่น้ำจิ้มลูกชิ้น กิโลกรัมละ 60 บาท เป็นขวดๆ ละ 20 บาท และยังมีน้ำจิ้มพริกเผา ขวดละ 35 บาท 3 ขวด 100 บาท หรือแล้วแต่ลูกค้าจะสั่งซื้อ โดยจะขายตั้งแต่ 06.00-18.00 น. ของทุกวัน
รายงานข่าวแจ้งว่า ปัจจุบันลูกชิ้นยืนกินบุรีรัมย์ ยังมีกระจายอยู่ตามอำเภอต่างๆ ของจังหวัดอีกเป็นจำนวนมาก แต่ทุกร้านมีจุดเด่นเหมือนกันคือเป็นลูกชิ้นยืนกิน.